ทนายอากู๋ เผยผู้ตายเจอฟ้องข้อหาบุกรุก ไม่ใช่ครอบครองปรปักษ์ อากู๋ตกใจหลังทราบข่าวขออโหสิกรรม
จากกรณีเจ้าของบ้านปล่อยบ้านร้าง ย่านรามอินทราซอย 58 มานานกว่า 30 ปี จนกระทั่งมีเพื่อนบ้านเข้าไปยึดทำเป็นร้านอาหาร จนเกิดเป็นการฟ้องร้องกัน ก่อนที่คู่กรณีจะขนย้ายของออกไปเมื่อปลายปีที่แล้ว และกลับเข้ามาอ้างสิทธิ์การครอบครองปรปักษ์ เปิดร้านขายไก่ทอด ทำให้เจ้าของบ้าน พร้อมเจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปดูบ้าน ปลดป้าย ล็อกกุญแจ และประกาศความเป็นเจ้าของบ้านตัวจริง และประกาศว่าจะเดินหน้าฟ้องร้องอย่างเต็มที่ไม่มีไกล่เกลี่ย เพราะคู่กรณีดูไม่เกรงกลัวกฎหมาย แอบมาฟ้องแพ่ง หวังครอบครองปรปักษ์ก่อน ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดมีรายงานว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้หญิง 1 ใน 5 ผู้ต้องหา คือ นางภาณุมาศ คดีครอบครองปรปักษ์บ้านอากู๋ คือ เครียดจัด ตัดสินใจลาโลกในบ้านพักย่านรามอินทรา ด้วยการผูกคอในห้องนอน บริเวณชั้น 2 ของบ้าน ซึ่งกู้ภัยได้นำศพมาทำเรื่องเอกสารที่ สน.คันนายาว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางญาติของผู้เสียชีวิตได้เดินทางที่ สน.คันนายาว เพื่อดำเนินการเรื่องราวต่างๆ โดยญาติของนางภาณุมาศบอกว่า เรื่องเครียดการโดนฟ้องอาจจะมีส่วน ซึ่งก็เคยให้กำลังใจว่าหากโดนฟ้่องก็ค่อยๆ แก้ปัญหากันไป จากนั้นทางกู้ภัยได้นำศพไปชันสูตรที่ รพ.ตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป
ต่อมาทนายกุ้ง ทนายของอากู๋ฝ่ายโจทก์ ได้เดินทางมาที่ สน.คันนายาว พร้อมเปิดเผยว่า นางภาณุมาศผู้ตาย เป็น 1 ใน 5 ถูกฟ้องข้อหาบุกรุก ไม่ใช่การครอบครองปรปักษ์ ซึ่งฝ่ายผู้ต้องหาบางรายได้ติดต่อมายังทนายความและอากู๋เพื่อขอเจรจา ซึ่งเรื่องนี้ทางอากู๋ทราบข่าวแล้วก็รู้สึกตกใจ และขออโหสิกรรมให้กับผู้ตาย
Advertisement