ลดอุณหภูมิ! รมว.อว. บอกเราฝั่งเดียวกันนะคะ หลัง อุเทนถวายนัดรวมตัวหลักพัน

27 ก.พ. 67

รมว.อว. บอกเราฝั่งเดียวกันนะคะ หลัง อุเทนถวายนัดรวมตัวหลักพัน ยื่น อว.-จุฬาฯ-ทำเนียบ-สภาฯ แจงปิดกระทรวงหนี สั่งขรก.เวิร์คฟอร์มโฮม หวั่นมือที่3 

วันที่ 27 ก.พ. 67 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวถึงกรณีที่เครือข่ายศิษย์ปัจจุบันและศิษย์เก่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย (มทร.ตะวันออก) นัดรวมตัวกัน 3,000 คน บุกทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการย้ายออกจากพื้นที่กับนายกรัฐมนตรีว่า 

ในส่วนของทำเนียบฯ ก็เป็นเรื่องของทำเนียบฯ แต่ในส่วนของกระทรวง อว.ได้เตรียมความพร้อม สำหรับดูแลผู้ที่มายื่นหนังสือ  ซึ่งเคยรับน้องๆ กลุ่มนี้มาแล้วหลายครั้ง เมื่อมีกำหนดการ ได้ประชุมกับตัวแทนศิษย์เก่า 2-3 ครั้ง ทุกคนถือว่าต่างทำหน้าที่ที่ต้องทำ ไม่มีใครอยากให้เกิดความรุนแรง 

“ผู้ยื่นหนังสือเองก็ไม่อยากให้เกิดความรุนแรง ทุกคนก็จะกลัวเรื่องมีผู้ไม่หวังดี บุคคลที่ 3 มือที่3 เขาก็ทำเอกสารมา เพื่อขอใช้เครื่องขยายเสียง ซึ่งเราก็อนุญาตไป เพราะถือว่าทุกคนอยู่บนประชาธิปไตย แล้วเขาก็บอกว่าจะทำเป็นสัญลักษณ์มา เพื่อบอกว่าพวกเขาจริงๆ นอกเหนือจากนี้ก็ไม่ใช่กลุ่มของเขา ซึ่งได้นัดแนะว่าจะมีใครเขามาบ้าง ยื่นตรงไหน และอยากให้ตัวรัฐมนตรีรับเอง ซึ่งดิฉันจะไปรับเอง” น.ส.ศุภมาส กล่าว 

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าสถานการณ์อาจบานปลาย น.ส.ศุภมาส กล่าวยืนยันว่า จริงๆ เขาไม่ได้มาครั้งแรก เดือนที่แล้วก็มา 300 คน เราก็จัดเก้าอี้เครื่องดื่มอาหารกลางวันให้น้องๆ ทุกคน ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย คิดว่าวันนี้เหตุการณ์ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น แต่วันนี้เราไม่ได้เลี้ยงข้าว เพราะไม่แน่ใจว่าคนเยอะแค่ไหน แต่ว่าเราได้เตรียมเครื่องดื่มไว้ให้น้องๆ ทุกคน 

ส่วนที่ อว. ออกมาทำหนังสือสั่งข้าราชการเวิร์คฟอร์มโฮม เพื่อป้องกันเหตุไม่พึ่งประสงค์ ลดการเผชิญหน้า หลายฝ่ายจึงตั้งคำถามว่าปิดกระทรวงหนีนั้น น.ส.ศุภมาส ยืนยันว่าไม่ใช่การหนี แต่เราไม่แน่ใจว่า มีกลุ่มมือที่ 3 หรือผู้ไม่หวังดีเข้ามาก่อเหตุหรือไม่ สมมติเฉยๆ เกิดมีใครปีนรั้วเข้ามา ซึ่งไม่ใช่กลุ่มผู้ชุมนุมก็จะยิ่งวุ่นวาย ต้องป้องกันไว้ก่อน ไม่ให้กลายเป็นการสร้างสถานการณ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ประชุมกับกระทรวง และกลุ่มผู้ยื่นหนังสื่อหลายครั้ง คิดว่าทุกคนก็มาดี ทางน้องๆ ที่มายื่นหนังสือจริงๆ ก็คือกลุ่มที่ต้องทำบทบาทหน้าที่ของเขา ส่วนกระทรวงก็มีหน้าที่รับหนังสือ และตำรวจก็มีหน้าที่รักษาความปลอดภัย ซึ่งกระทรวงมีกล้องวงจรปิด มีสัญญาณอะเลิทไปที่ห้องวอร์รูม และคิดว่าวันนี้น่าจะผ่านไปอย่างเรียบร้อย 

น.ส.ศุภมาส ระบุว่า เมื่อรับหนังสือมาแล้วต้องดูอีกทีว่าสุดท้ายข้อเรียกร้องมีอะไรบ้าง และส่งให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง คงไม่ใช่แค่คณะกรรมการ เพื่อพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (กยพ.) ที่เราได้ตั้งไว้ อาจจะต้องมาเพิ่มเติมตั้งกรรมการชุดใหม่เพิ่มคนเข้ามา เพื่อให้กรณีพิพาทเกิดข้อยุติ และมีความสบายใจที่สุด 

“มทร.ตะวันออก อุเทนถวาย อยู่ในสังกัดกระทรวง อว. เพราะฉะนั้นเขากับกระทรวงอยู่ฝั่งเดียวกัน เราไม่ได้เป็นม็อบที่เผชิญหน้ากันเหมือนม็อบอื่นๆ อันนี้ทางกระทรวงไม่ได้เรียกว่าม็อบ ถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยในสังกัด มายื่นหนังสือถึงเจ้ากระทรวง เรามีหน้าที่ที่จะต้องดูแลในมิติทางสังคม เพื่อให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายแบบสบายใจ มีความสุข ไม่มีข้อขัดแย้ง ไม่มีเหตุความรุนแรง เป็นชนวนเกิดขึ้น และพยายามให้เป็นไปด้วยความละมุนละมอมที่สุด และเราได้พูดกับฝั่งอุเทนเสมอว่า เราฝั่งเดียวกันนะคะ เพียงแต่ว่าเราต้องทำตามกฎหมายที่ออกมา” 

เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่เจ้ากระทรวงถูกนำมาเป็นคู่ขัดแย้ง เพราะจบการศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า พยายามบอก และคิดว่าทางอุเทนถวายก็เข้าใจ เพราะทุกครั้งที่ประชุมก็ถือว่าก็ย้ำว่า เราเป็นฝั่งเดียวกัน เพียงแต่มหาวิทยาลัยก็ไม่ใช่อุเทนถวายที่เดียวที่มายื่นหนังสือ ก็มีอีกหลายมหาวิทยาลัยที่มีปัญหาและมายื่นหนังสือ และปัญหานี้ก็ไม่ได้ขีดเส้น เพราะไม่ใช่ อว.กระทรวงเดียวแต่ต้องอาศัยองคาพยพอื่นมาร่วมกันแก้ปัญหาให้ความขัดแย้ง และข้อพิพาทคลี่คลายมีทางออกที่ทุกคนพอใจ ซึ่งเจ้าของพื้นที่ได้พูดคุยกับอุเทนถวายหลายครั้งแล้วก็ต้องให้พูดคุยกันไป แต่ของเราคือในรูปแบบของคณะกรรมการ เพื่อให้ปัญหานี้คลี่คลายโดยเร็ว

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวการเมือง เป็นกระแส