จบทุกดราม่า! 'ฟ้าใส' เคลียร์เกาเหลา 'โจ้ เซอร์เฟซ' ปัดงานน้อยเรตติ้งตก

15 ม.ค. 63
ม้วนเดียวจบ! "ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น" ท็อป 5 มิสยูนิเวิร์ส 2019 เคลียร์เกาเหลา "โจ้ เซอร์เฟซ" - งานน้อยเรตติ้งตก เพราะไม่ค่อยเห็นเจ้าตัวเดินสายออกงานอีเวนต์ หรือออกสื่อเหมือนนางงามรุ่นพี่สักเท่าไร ล่าสุด ทีมบันเทิง อมรินทร์ทีวี ได้เจอตัว "ฟ้าใส ปวีณสุดา" เลยขอต้องอัปเดตชีวิตหลังการประกวด โดยเจ้าตัวเปิดเผยว่า ที่หายหน้าหายตาไปหลังจากประกวดเสร็จสิ้น เพราะว่าต้องพักรักษาอาการตาอักเสบที่เป็นเรื้อรังมาตั้งแต่ตอนประกวดที่ไทย แต่พอไปเก็บตัวประกวดมิสยูนิเวิร์สก็กำเริบอีกครั้ง เลยพักรักษาตัวยาว ๆ นอกจากนี้บางงานที่ติดต่อเข้ามาเป็นงานปิดจึงไม่ได้ออกสื่อเท่านั้นเอง อัปเดตชีวิตหลังกลับจากการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2019 ? "ก็มีเปลี่ยนแปลงไปเหมือนกันนะคะ แต่ว่าตอนนี้ก็รู้สึกว่าเหมือนได้ทำฝันเต็มที่ ดีใจที่คนไทยที่เป็นส่วนหนึ่งของฟ้าใสด้วย ดีใจที่ทำให้ทุกคนภูมิใจ ส่วนงานก็มีงานเข้ามาเรื่อย ๆ ทั้งอีเวนต์ แคสติ้ง อยากจะฝากติดตามผลงานในเร็ว ๆ นี้ " จะมีผลงานอะไรบ้างในช่วงนี้ให้ได้ติดตามบ้าง? "ช่วงนี้ก็ขออุปเอาไว้ก่อน พอทุกอย่างคอนเฟิร์มแล้วก็ออกมาจริง ๆ เดียวจะโปรโมทอีกที" เป็นผลงานในแนวไหน ? "มีหลากหลายแนว" มีอยากทำอะไรเป็นพิเศษหลังจากเสร็จสิ้นการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2019 ? "จริง ๆ ถ้ามีโอกาสก็อยากทำหลากหลายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นด้านวงการบันเทิง หรือว่าจะเป็นด้านครูสอนบุคลิกภาพ" หลายคนคิดถึงเพราะไม่ค่อยออกอีเวนต์หรืออกสื่อ? "ใช่ ส่วนใหญ่จะเป็นงานไพรเวทมากกว่า เป็นงานปิดเลย เลยทำให้แฟนคลับติดตามค่อนข้างยาก แต่เวลามีงานเปิดฟ้าใสก็จะโพสต์" มีการเปรียบเทียบว่า นางงามรุ่นพี่พอกลับมาจากการประกวดออกอีเวนต์บ่อย แต่ทำไมฟ้าใสไม่ออกเลย? "อ่อ ไม่ ส่วนหนึ่งจะมีช่วงที่เราพักตา ตอนนั้นที่ไปประกวดแล้วมันอักเสบ จริง ๆ มันเป็นตั้งแต่ตอนประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยเเลนด์แล้ว แต่พอไปประกวดที่แอตแลนต้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็เริ่มทรุดมาวันสองวัน กลับมาเลยพักเต็มที่ก่อนลุยกับงาน" ฟ้าใสกลัวเสียโอกาสไหม ที่กลับมาแล้วกระเเสแผ่ว ๆ ลง ? "ไม่ หนูไม่ได้มองว่า หนูจะอยู่ในกระเเสช่วงนั้นช่วงเดียว หนูเชื่อว่าแฟนคลับของหนู ที่รักหนูมาก ๆ เขาจะติดตามผลงานหนู ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน หรือเมื่อไหร่ก็ตาม" ฟ้าใสมองชีวิตในวงการบันเทิงอย่างไร? "จะบอกว่าชีวิตในวงการบันเทิงมีโอกาสเข้ามามาก น่าจะเป็นในด้านการถ่ายนิตยสาร ด้านเดินแบบ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ งานละครก็มีเข้ามาติดต่อไปแคสติ้ง รวมถึงโฆษณาต่าง ๆ คือโอกาสมันเพิ่มเข้ามาเยอะอยู่แล้ว ดีใจมาก ๆ" ซีเรียสไหมกับการนำเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่น? "ไม่ซีเรียสค่ะ เพราะการอยู่ในวงการแบบนี้ ไม่ว่าจะอยู่ในอาชีพใด ๆ ก็จะมีการกดดันหรือเปรียบเทียบ" หลายคนมองว่ากระเเสนางงามมาเร็วไปเร็ว เรามองอย่างไร? "จริง ๆ ก็เข้าใจ เพราะว่าการเป็นนางงามจะมีช่วงเวลาแค่ 1 ปี ในการดำรงตำแหน่ง แต่ก็มีคนบอกไว้ว่าตำแหน่งจะอยู่กับเราไม่นานแต่ตำนานจะอยู่กับเราตลอดไป" ทำให้เราต้องวางแผนกับชีวิตของเราอย่างไรบ้าง? "ต้องมองว่าเราสามารถทำหน้าที่การเป็นนางงามได้ปีหนึ่ง แต่นอกเหนือจากนี้เรายังมีโอกาสไปวงการบันเทิง หรือว่าวงการอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งหน้าจอหรือหลังจอ ก็ต้องไปในด้านอื่นบ้าง" แสดงว่าฟ้าใสสนใจในงานด้านการบันเทิง? "ก็ด้วย แต่ว่าก็สนใจอยากเป็นเบื้องหลังด้วย เวลาที่เทรนด์รุ่นน้องต่อ" ในช่วงปีนี้ เรายังต้องทำอะไรกับกองประกวดอีกไหม? "ก็คิดว่าน่าจะมีนะคะ แต่จริง ๆ ก็มีรุ่นน้องที่ตั้งใจจะมาประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยเเลนด์ 2020 ก็ติดต่อเข้ามาอยากให้สอนเรื่องการตอบคำถาม" ถ้ามีงานเข้ามาต้องติดต่อผ่านทางกองประกวดก่อนไหม? "ในด้านเบื้องหน้าก็ต้องติดต่อผ่านกองก่อน แต่ถ้าถ้าเบื้องหลัง อาทิ การเป็นครู ส่วนมากก็ติดต่อมาโดยตรง" อย่างที่บอกว่าอยากเทรนด์น้องที่จะมาเข้าประกวด พี่ลูกเกด เมทินี ว่ายังไงบ้าง ? "คือพี่ลูกเกดเขาจะเทรนด์ระหว่างที่เก็บตัว แต่ฟ้าใสจะเทรนด์น้อง ๆ ที่อยากจะมาสมัครแต่ไม่มั่นใจในเรื่องของการตอบคำถาม อยากจะให้มีคนช่วยเทรนด์ เขาก็เลยติดต่อมาโดยตรง" เราจะเป็นติวเตอร์? "ใช่ค่ะ เป็นเหมือนเมนเทอร์ แต่เป็นเมนเทอร์คนละแบบกับพี่ลูกเกด เพราะพี่ลูกเกดจะไปลงลึกกับคนที่เข้ารอบเรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งที่หนูจะสอนสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้หรือการเป็นนางงาม" ติดต่อเข้ามาเยอะไหม? "ก็ติดต่อเข้ามาเรื่อย ๆ ก็กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะเปิดเป็นคอร์สจะดีไหม แต่ก็ต้องดูอีกที" ช่วงที่ต้นปีมีดราม่า #saveฟ้าใส ? "หนูเห็นแท็กแต่ไม่เข้าใจว่าเป็นเรื่องอะไร (หัวเราะ)" หลายคนมองว่าเป็นเรื่องทีมงานที่ทำชุดให้ฟ้าใสมีการพูดพาดพิงถึง? "อ่อ เรื่องนี้หนูยังไม่ทราบ เพราะว่ายังไม่ได้พูดคุยเรื่องดราม่าหลังจากประกวดเสร็จ ได้คุยเฉพาะตอนที่ก่อนประกวด ซึ่งได้คุยกับทุก ๆ คน เพราะเขาเข้ามาช่วยในการเตรียมตัวไปประกวด ทั้งนี้หลังจากประกวดเสร็จเหมือนว่าทุกคนก็ใช้เวลากับการพักผ่อนทั้งหมด" หลายคนพุ่งเป้าไปที่พี่โจ้ Surface คนที่ออกแบบชุดให้? "เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ" มีคนบอกว่าเป็นการโพสต์เกาเหลากัน ว่ามีปัญหากับพี่โจ้ Surface เลยมาเซฟเราว่าไม่ต้องสนใจคำพูดของคนนั้นคนนี้ ? "อ่อ เท่าที่อ่าน ๆ ยังไม่มีเรื่องที่ชัดเจนว่า เกี่ยวกับหนู หนูเลยไม่ได้เข้าไปอ่านรายละเอียดมาก" เรากับพี่โจ้ Surface ความสัมพันธ์เป็นยังไง? "ก็ดีนะคะ พี่เขาก็ช่วยในการทำลุคบุ๊กในการไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส แล้วก็มีการทำชุดราตรีรอบไฟนอล" ได้คุยอะไรกับพี่เขาไหม ? "ยังไม่ได้มีโอกาสเจอกัน เพราะพี่โจ้ จะพักผ่อนด้วย ปีใหม่ด้วย รวมไปถึงได้ข่าวว่าจะมีการเตรียมตัวสำหรับการประกวด ปี 2020 เพื่อที่จะให้มง 3 มาแน่ในรุ่นต่อ ๆ ไป" ฟ้าใสมองแฟนนางงามอย่างไรบ้าง กับการพูดถึงการประกวดของเราทั้งด้านที่ดีและไม่ดี? "ก็มองว่าจะพูดดีหรือไม่ดี ก็เป็นกระเเสในระดับหนึ่ง แล้วก็ดีใจที่ทุกคนยังคิดถึงและพูดถึงฟ้าใสอยู่ ต้องขอบคุณทุกคนที่ติดตามแม้ว่าการประกวดจะจบไปแล้ว แต่ก็ยังคอยสนับสนุนแล้วก็ติดตามว่าผลงานมีอะไรบ้าง" ดราม่าต่าง ๆ ทำให้เราเครียดไหม? "ดราม่าต่าง ๆ คือช่วงนี้ก็ไม่ได้สังเกตว่ามีดราม่า คือหนูคิดว่าดราม่าทุกอย่างจะมาในช่วงก่อนที่จะไปประกวด" เวลาเราเจอแล้วเก็บไปคิดหรือเครียดไหม ? "ถ้าสมมุติว่าอยู่ในช่วงที่เรากำลังประกวด ส่วนใหญ่หนูจะไม่เข้าไปดูในเรื่องกระเเส หรือดราม่าอะไร เพราะช่วงที่เราประกวดสิ่งที่เราต้องการมากที่สุด คือเรื่องของการซัพพอร์ต การสนับสนุน และกำลังใจคิดบวก ซึ่งเราจะได้จากกลุ่มที่อยู่ใกล้ ๆ เรา และกลุ่มที่ติดตามเราที่รู้จักเราจริง ๆ ซึ่งหนูก็จะดูกลุ่มนี้เวลาหนูไปประกวด แต่หลังจากที่ประกวดมาแล้วหนูไปอ่านมันก็แบบ (หัวเราะ) ดูตลกบ้าง บางทีคนที่บอกว่าเป็นวงในก็ไม่ใช่วงในจริง ๆ เพราะคนที่วงในจริง ๆ ก็เป็นแค่เรากับเขาที่รู้จริง ว่าเรื่องนี้เกิดอะไรขึ้น แต่ก็อ่านแล้วบันเทิงดี" แสดงว่าเรามีภูมิคุ้มกันแล้ว? "โอโห้ หนูประกวดมาหลายปีแล้ว (หัวเราะ)" เรียกว่าชินได้ไหมสำหรับกระแส? "หนูจะพูดว่า ครั้งแรกมันจะเจ็บสุดพี่ แต่พอนาน ๆ ไปความเจ็บก็จะลดน้อยลง แต่ถามว่าจะชินเลยทีเดียวไหม หนูคิดว่าคงไม่มีใครพออ่านข่าวเชิงลบแล้วไม่รู้สึกอะไร" ครั้งแรกเจ็บสุดถึงขั้นมีน้ำตาไหม? "โห้พี่ หนูขั้นถึงเสียเซลฟ์ไปเลย ทำไมเขาถึงว่าหนูแบบนี้อะ ก่อนหน้านี้หนูไม่เคยคิดว่าหนูเป็นแบบนี้เลย มันก็เป็นเรื่องรูปร่างหน้าตา หุ่น คือมันครั้งแรกในที่นี่คือครั้งแรกที่ว่าเรา แต่การว่าเรา มันมีหลากหลายแบบ ที่เจ็บสุดมันไม่ใช่ทำให้เราเสียเชลฟ์ แต่อันที่เจ็บสุดคือ เรื่องที่เขาพูดเเล้วมันไม่ใช่เรื่องที่เป็นความจริง แต่คนอื่นเชื่อโดยที่ไม่มาถามเรา แล้วถึงแม้เราพูดอะไรออกไปเขาเชื่อสิ่งแรกที่เป็นเรื่องเท็จไปแล้ว โดยที่มองว่าหนูแก้ตัว แล้วไม่ให้โอกาสเราออกมาพูดความจริง" แข็งแรงขึ้นว่างั้น? "มันก็มีกำแพงที่ตั้งไว้ให้ แบบปกป้องหัวใจมากขึ้น และรู้สึกว่าควรจะต้องแคร์คนที่รู้จักเราจริง ๆ มากกว่าคนที่ไม่ได้รู้จักเรา แล้วก็พูดอะไรก็ได้ ก็อยากให้ก่อนที่จะพูดอะไร ให้ฟังความสองด้าน"

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส