ม้วนเดียวจบ! "ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น" ท็อป 5 มิสยูนิเวิร์ส 2019 เคลียร์เกาเหลา "โจ้ เซอร์เฟซ" - งานน้อยเรตติ้งตก เพราะไม่ค่อยเห็นเจ้าตัวเดินสายออกงานอีเวนต์ หรือออกสื่อเหมือนนางงามรุ่นพี่สักเท่าไร
ล่าสุด ทีมบันเทิง อมรินทร์ทีวี ได้เจอตัว
"ฟ้าใส ปวีณสุดา" เลยขอต้องอัปเดตชีวิตหลังการประกวด โดยเจ้าตัวเปิดเผยว่า ที่หายหน้าหายตาไปหลังจากประกวดเสร็จสิ้น เพราะว่าต้องพักรักษาอาการตาอักเสบที่เป็นเรื้อรังมาตั้งแต่ตอนประกวดที่ไทย แต่พอไปเก็บตัวประกวดมิสยูนิเวิร์สก็กำเริบอีกครั้ง เลยพักรักษาตัวยาว ๆ นอกจากนี้บางงานที่ติดต่อเข้ามาเป็นงานปิดจึงไม่ได้ออกสื่อเท่านั้นเอง
อัปเดตชีวิตหลังกลับจากการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2019 ?
"ก็มีเปลี่ยนแปลงไปเหมือนกันนะคะ แต่ว่าตอนนี้ก็รู้สึกว่าเหมือนได้ทำฝันเต็มที่ ดีใจที่คนไทยที่เป็นส่วนหนึ่งของฟ้าใสด้วย ดีใจที่ทำให้ทุกคนภูมิใจ ส่วนงานก็มีงานเข้ามาเรื่อย ๆ ทั้งอีเวนต์ แคสติ้ง อยากจะฝากติดตามผลงานในเร็ว ๆ นี้ "
จะมีผลงานอะไรบ้างในช่วงนี้ให้ได้ติดตามบ้าง?
"ช่วงนี้ก็ขออุปเอาไว้ก่อน พอทุกอย่างคอนเฟิร์มแล้วก็ออกมาจริง ๆ เดียวจะโปรโมทอีกที"
เป็นผลงานในแนวไหน ?
"มีหลากหลายแนว"
มีอยากทำอะไรเป็นพิเศษหลังจากเสร็จสิ้นการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2019 ?
"จริง ๆ ถ้ามีโอกาสก็อยากทำหลากหลายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นด้านวงการบันเทิง หรือว่าจะเป็นด้านครูสอนบุคลิกภาพ"
หลายคนคิดถึงเพราะไม่ค่อยออกอีเวนต์หรืออกสื่อ?
"ใช่ ส่วนใหญ่จะเป็นงานไพรเวทมากกว่า เป็นงานปิดเลย เลยทำให้แฟนคลับติดตามค่อนข้างยาก แต่เวลามีงานเปิดฟ้าใสก็จะโพสต์"
มีการเปรียบเทียบว่า นางงามรุ่นพี่พอกลับมาจากการประกวดออกอีเวนต์บ่อย แต่ทำไมฟ้าใสไม่ออกเลย?
"อ่อ ไม่ ส่วนหนึ่งจะมีช่วงที่เราพักตา ตอนนั้นที่ไปประกวดแล้วมันอักเสบ จริง ๆ มันเป็นตั้งแต่ตอนประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยเเลนด์แล้ว แต่พอไปประกวดที่แอตแลนต้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็เริ่มทรุดมาวันสองวัน กลับมาเลยพักเต็มที่ก่อนลุยกับงาน"
ฟ้าใสกลัวเสียโอกาสไหม ที่กลับมาแล้วกระเเสแผ่ว ๆ ลง ?
"ไม่ หนูไม่ได้มองว่า หนูจะอยู่ในกระเเสช่วงนั้นช่วงเดียว หนูเชื่อว่าแฟนคลับของหนู ที่รักหนูมาก ๆ เขาจะติดตามผลงานหนู ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน หรือเมื่อไหร่ก็ตาม"
ฟ้าใสมองชีวิตในวงการบันเทิงอย่างไร?
"จะบอกว่าชีวิตในวงการบันเทิงมีโอกาสเข้ามามาก น่าจะเป็นในด้านการถ่ายนิตยสาร ด้านเดินแบบ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ งานละครก็มีเข้ามาติดต่อไปแคสติ้ง รวมถึงโฆษณาต่าง ๆ คือโอกาสมันเพิ่มเข้ามาเยอะอยู่แล้ว ดีใจมาก ๆ"
ซีเรียสไหมกับการนำเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่น?
"ไม่ซีเรียสค่ะ เพราะการอยู่ในวงการแบบนี้ ไม่ว่าจะอยู่ในอาชีพใด ๆ ก็จะมีการกดดันหรือเปรียบเทียบ"
หลายคนมองว่ากระเเสนางงามมาเร็วไปเร็ว เรามองอย่างไร?
"จริง ๆ ก็เข้าใจ เพราะว่าการเป็นนางงามจะมีช่วงเวลาแค่ 1 ปี ในการดำรงตำแหน่ง แต่ก็มีคนบอกไว้ว่าตำแหน่งจะอยู่กับเราไม่นานแต่ตำนานจะอยู่กับเราตลอดไป"
ทำให้เราต้องวางแผนกับชีวิตของเราอย่างไรบ้าง?
"ต้องมองว่าเราสามารถทำหน้าที่การเป็นนางงามได้ปีหนึ่ง แต่นอกเหนือจากนี้เรายังมีโอกาสไปวงการบันเทิง หรือว่าวงการอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งหน้าจอหรือหลังจอ ก็ต้องไปในด้านอื่นบ้าง"
แสดงว่าฟ้าใสสนใจในงานด้านการบันเทิง?
"ก็ด้วย แต่ว่าก็สนใจอยากเป็นเบื้องหลังด้วย เวลาที่เทรนด์รุ่นน้องต่อ"
ในช่วงปีนี้ เรายังต้องทำอะไรกับกองประกวดอีกไหม?
"ก็คิดว่าน่าจะมีนะคะ แต่จริง ๆ ก็มีรุ่นน้องที่ตั้งใจจะมาประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยเเลนด์ 2020 ก็ติดต่อเข้ามาอยากให้สอนเรื่องการตอบคำถาม"
ถ้ามีงานเข้ามาต้องติดต่อผ่านทางกองประกวดก่อนไหม?
"ในด้านเบื้องหน้าก็ต้องติดต่อผ่านกองก่อน แต่ถ้าถ้าเบื้องหลัง อาทิ การเป็นครู ส่วนมากก็ติดต่อมาโดยตรง"
อย่างที่บอกว่าอยากเทรนด์น้องที่จะมาเข้าประกวด พี่ลูกเกด เมทินี ว่ายังไงบ้าง ?
"คือพี่ลูกเกดเขาจะเทรนด์ระหว่างที่เก็บตัว แต่ฟ้าใสจะเทรนด์น้อง ๆ ที่อยากจะมาสมัครแต่ไม่มั่นใจในเรื่องของการตอบคำถาม อยากจะให้มีคนช่วยเทรนด์ เขาก็เลยติดต่อมาโดยตรง"
เราจะเป็นติวเตอร์?
"ใช่ค่ะ เป็นเหมือนเมนเทอร์ แต่เป็นเมนเทอร์คนละแบบกับพี่ลูกเกด เพราะพี่ลูกเกดจะไปลงลึกกับคนที่เข้ารอบเรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งที่หนูจะสอนสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้หรือการเป็นนางงาม"
ติดต่อเข้ามาเยอะไหม?
"ก็ติดต่อเข้ามาเรื่อย ๆ ก็กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะเปิดเป็นคอร์สจะดีไหม แต่ก็ต้องดูอีกที"
ช่วงที่ต้นปีมีดราม่า #saveฟ้าใส ?
"หนูเห็นแท็กแต่ไม่เข้าใจว่าเป็นเรื่องอะไร (หัวเราะ)"
หลายคนมองว่าเป็นเรื่องทีมงานที่ทำชุดให้ฟ้าใสมีการพูดพาดพิงถึง?
"อ่อ เรื่องนี้หนูยังไม่ทราบ เพราะว่ายังไม่ได้พูดคุยเรื่องดราม่าหลังจากประกวดเสร็จ ได้คุยเฉพาะตอนที่ก่อนประกวด ซึ่งได้คุยกับทุก ๆ คน เพราะเขาเข้ามาช่วยในการเตรียมตัวไปประกวด ทั้งนี้หลังจากประกวดเสร็จเหมือนว่าทุกคนก็ใช้เวลากับการพักผ่อนทั้งหมด"
หลายคนพุ่งเป้าไปที่พี่โจ้ Surface คนที่ออกแบบชุดให้?
"เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ"
มีคนบอกว่าเป็นการโพสต์เกาเหลากัน ว่ามีปัญหากับพี่โจ้ Surface เลยมาเซฟเราว่าไม่ต้องสนใจคำพูดของคนนั้นคนนี้ ?
"อ่อ เท่าที่อ่าน ๆ ยังไม่มีเรื่องที่ชัดเจนว่า เกี่ยวกับหนู หนูเลยไม่ได้เข้าไปอ่านรายละเอียดมาก"
เรากับพี่โจ้ Surface ความสัมพันธ์เป็นยังไง?
"ก็ดีนะคะ พี่เขาก็ช่วยในการทำลุคบุ๊กในการไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส แล้วก็มีการทำชุดราตรีรอบไฟนอล"
ได้คุยอะไรกับพี่เขาไหม ?
"ยังไม่ได้มีโอกาสเจอกัน เพราะพี่โจ้ จะพักผ่อนด้วย ปีใหม่ด้วย รวมไปถึงได้ข่าวว่าจะมีการเตรียมตัวสำหรับการประกวด ปี 2020 เพื่อที่จะให้มง 3 มาแน่ในรุ่นต่อ ๆ ไป"
ฟ้าใสมองแฟนนางงามอย่างไรบ้าง กับการพูดถึงการประกวดของเราทั้งด้านที่ดีและไม่ดี?
"ก็มองว่าจะพูดดีหรือไม่ดี ก็เป็นกระเเสในระดับหนึ่ง แล้วก็ดีใจที่ทุกคนยังคิดถึงและพูดถึงฟ้าใสอยู่ ต้องขอบคุณทุกคนที่ติดตามแม้ว่าการประกวดจะจบไปแล้ว แต่ก็ยังคอยสนับสนุนแล้วก็ติดตามว่าผลงานมีอะไรบ้าง"
ดราม่าต่าง ๆ ทำให้เราเครียดไหม?
"ดราม่าต่าง ๆ คือช่วงนี้ก็ไม่ได้สังเกตว่ามีดราม่า คือหนูคิดว่าดราม่าทุกอย่างจะมาในช่วงก่อนที่จะไปประกวด"
เวลาเราเจอแล้วเก็บไปคิดหรือเครียดไหม ?
"ถ้าสมมุติว่าอยู่ในช่วงที่เรากำลังประกวด ส่วนใหญ่หนูจะไม่เข้าไปดูในเรื่องกระเเส หรือดราม่าอะไร เพราะช่วงที่เราประกวดสิ่งที่เราต้องการมากที่สุด คือเรื่องของการซัพพอร์ต การสนับสนุน และกำลังใจคิดบวก ซึ่งเราจะได้จากกลุ่มที่อยู่ใกล้ ๆ เรา และกลุ่มที่ติดตามเราที่รู้จักเราจริง ๆ ซึ่งหนูก็จะดูกลุ่มนี้เวลาหนูไปประกวด แต่หลังจากที่ประกวดมาแล้วหนูไปอ่านมันก็แบบ (หัวเราะ) ดูตลกบ้าง บางทีคนที่บอกว่าเป็นวงในก็ไม่ใช่วงในจริง ๆ เพราะคนที่วงในจริง ๆ ก็เป็นแค่เรากับเขาที่รู้จริง ว่าเรื่องนี้เกิดอะไรขึ้น แต่ก็อ่านแล้วบันเทิงดี"
แสดงว่าเรามีภูมิคุ้มกันแล้ว?
"โอโห้ หนูประกวดมาหลายปีแล้ว (หัวเราะ)"
เรียกว่าชินได้ไหมสำหรับกระแส?
"หนูจะพูดว่า ครั้งแรกมันจะเจ็บสุดพี่ แต่พอนาน ๆ ไปความเจ็บก็จะลดน้อยลง แต่ถามว่าจะชินเลยทีเดียวไหม หนูคิดว่าคงไม่มีใครพออ่านข่าวเชิงลบแล้วไม่รู้สึกอะไร"
ครั้งแรกเจ็บสุดถึงขั้นมีน้ำตาไหม?
"โห้พี่ หนูขั้นถึงเสียเซลฟ์ไปเลย ทำไมเขาถึงว่าหนูแบบนี้อะ ก่อนหน้านี้หนูไม่เคยคิดว่าหนูเป็นแบบนี้เลย มันก็เป็นเรื่องรูปร่างหน้าตา หุ่น คือมันครั้งแรกในที่นี่คือครั้งแรกที่ว่าเรา แต่การว่าเรา มันมีหลากหลายแบบ ที่เจ็บสุดมันไม่ใช่ทำให้เราเสียเชลฟ์ แต่อันที่เจ็บสุดคือ เรื่องที่เขาพูดเเล้วมันไม่ใช่เรื่องที่เป็นความจริง แต่คนอื่นเชื่อโดยที่ไม่มาถามเรา แล้วถึงแม้เราพูดอะไรออกไปเขาเชื่อสิ่งแรกที่เป็นเรื่องเท็จไปแล้ว โดยที่มองว่าหนูแก้ตัว แล้วไม่ให้โอกาสเราออกมาพูดความจริง"
แข็งแรงขึ้นว่างั้น?
"มันก็มีกำแพงที่ตั้งไว้ให้ แบบปกป้องหัวใจมากขึ้น และรู้สึกว่าควรจะต้องแคร์คนที่รู้จักเราจริง ๆ มากกว่าคนที่ไม่ได้รู้จักเรา แล้วก็พูดอะไรก็ได้ ก็อยากให้ก่อนที่จะพูดอะไร ให้ฟังความสองด้าน"