“บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์” ตอบกระแสดราม่าหลังร่วมงาน "แพรวพราว แสงทอง" ขึ้นเวทีเดียวกัน ไม่มองหน้ากัน ลั่นเป็นตามอารมณ์ ถ้าโกหกความรู้สึกของตัวเองมันก็คงจะดูปลอม !! ส่วนใครบอกใจแข็ง ไม่สงสารอีกฝ่าย ยืนยันมูฟออนไม่ย้อนวนเวียนแล้ว ผ่านคำว่าง้อไปหมดแล้ว การกลับไปมันมีแผลเป็น เป็นเพื่อนกันดีที่สุด !!
โดยล่าสุด “บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์” เผยถึงค่ายเพลงโตเกียวมิวสิคว่า ปักหมุดขอนแก่น เปิดตัวค่ายเพลงโตเกียวมิวสิค เตรียมออดิชั่นรับศิลปินหน้าใหม่ ตอนนี้หลังจากที่เปิดตัวมาเป็น EP แรกถือว่าได้รับการตอบรับและสนับสนุนเป็นอย่างดี ดูจากสปอนเซอร์ทางด้านหลังซึ่งต้องขอขอบคุณ ตอนนี้รู้สึกดีและหายเหนื่อย จุดประสงค์ส่วนที่ทำค่ายเพลงนี้ขึ้นมาไม่ได้ต้องการเพียงเพราะจะขายบัตรหารายได้เพียงอย่างเดียว แต่เป็นสิ่งที่อยากทำและอยากให้น้องๆ ศิลปินได้มีงานทำมีกิจกรรมทำ ได้ต่อยอดในผลงานตัวเอง
ตอนนี้วางแผนเอาไว้จะมีการแสดงเป็น EP ทุกสัปดาห์ และยังมองต่อยอดโปรเจ็กต์ใหญ่เอาไว้ซึ่งเราจะไม่ได้ทำแค่การแสดงไลฟ์สดหน้าเวทีเท่านั้น เรายังมองในเรื่องของคอนเสิร์ตออนไลน์ และคอนเสิร์ตเฉพาะกิจ ตอนนี้เราไม่ใช่ลูกทุ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ เราเป็นลูกทุ่งหมอลำ เพื่อให้เข้าถึงคนได้ทุกสไตล์
ตอนนี้วงใหญ่เราไม่ได้ทำแล้ว จากที่ผ่านมาเราเคยทำแต่ตอนนี้เรามองเป็นในเรื่องของศิลปิน ที่จะสามารถอยู่เวทีไหนก็ได้ เข้าที่ไหนก็ได้ ซึ่งตนเองจะมีการวางแผนการตลาดใหม่ทั้งหมด รวมทั้งผังต่างๆ ต้องวางแผนใหม่ทั้งหมดตอนนี้แม้จะออกมาทำได้ไม่กี่วัน แต่ตลอดเดือนมีนาคมนั้นคิวงานเต็มหมดแล้ว
และในส่วนคิวงานนัดไปร่วมกับ "แพรวพราว แสงทอง" นั้นยืนยันว่า ทุกอย่างยังเหมือนเดิม อนาคตเราไม่รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงจะเป็นอย่างไร แต่ตนเองยืนยันว่าเหมือนเดิม ฟรีสไตล์สามารถขึ้นที่ไหนก็ได้ การเป็นศิลปินไม่มีข้อจำกัดว่าห้ามขึ้นตรงนั้นตรงนี้ สำหรับตนเองยืนยันไม่มี แต่สำหรับคนอื่นตนเองไม่รู้
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ต่างๆ เข้ามาในชีวิตตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้ว หลังจากที่ย่ำแย่มาหลายเดือนได้รับกำลังใจดีๆ จากแฟนคลับผ่านคอมเมนต์ในโซเชียล ก็ได้รับกำลังใจอย่างล้นหลาม เวลาเดินทางกลับถึงสนามบินก็มีแฟนคลับมารอรับ 20-30 คน ทั้งตอนไปตอนกลับมีแฟนคลับมาคอยรับส่งให้กำลังใจ ไปไหนก็มีแต่คนชู 2 นิ้ว แล้วพูดว่า "สู้สู้นะ" ทำให้ตอนนี้รู้สึกดีมากๆ เรื่องราวในอดีตตอนนี้ไม่กลับคิดทุกอย่าง อยู่ข้างหลังหมดแล้ว เราทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลังเรามองแต่ข้างหน้า เรามองแต่อนาคตดีกว่าว่าเราทำเพื่อใคร
ในเรื่องของความเห็นต่างๆ จากโซเชียลจากสื่อต่างๆ ส่วนตัวเราก็เข้าใจทุกคน ก็พูดตามประสาของใครของมันไป ถ้าเราไม่ได้เป็นไปตามคำพูดเหล่านั้นเราก็ไม่ต้องเดือดร้อน ต่อให้คนมาด่าก็ไม่เดือดร้อน ให้พูด 100 รอบเราก็พูดคำเดิม
ในเรื่องของครอบครัวนั้นได้มีการแบ่งกันชัดเจน ถ้าเราจะไปด้วยกันก็ไปได้ คือไปกันแบบฟีลครอบครัว เป็นพ่อแม่ลูก และลองไปแบบไม่ต้องถ่ายคลิปวิดีโอ ไปในนามของพ่อกับแม่ไม่จำเป็นต้องถ่ายคลิปก็ได้ บางสิ่งบางอย่างเราอยู่ในโลกของเรา ไม่มีคอมเมนต์ก็ไม่มีปัญหา
ตอนนี้ก็คุยกันทุกวัน แต่ไม่ได้คุยเรื่องส่วนตัว คุยเฉพาะเรื่องงานเท่านั้นและก็เรื่องลูก อาจจะถามถึงเรื่องการง้อตนเองว่าทุกอย่างชัดเจนทั้งหมดแล้ว มันตอบแทนคำพูดไปแล้ว มันผ่านคำว่าง้อไปหมดแล้ว มันเลยทุกอย่างไป
หลังจากนี้มุมมองของตนเองการเป็นเพื่อนกันดีที่สุด การกลับไปมันมีแผลเป็นแล้ว เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแลกเปลี่ยนอะไรกันได้ แต่ก็ต้องใช้เวลานิดหนึ่ง เพราะเราเป็นคนไม่ใช่โรบอท เราก็ต้องใช้ในการปรับจูนเข้าหากัน อย่างเช่น
ที่มีกระแสดราม่าล่าสุด ที่บอกว่าขึ้นเวทีไม่มองหน้ากัน ในเรื่องนี้มันก็เป็นตามอารมณ์ตามความรู้สึกของตัวเอง ถ้าเราจะโกหกความรู้สึกของตัวเองมันก็คงจะดูปลอม หลังเวทีก็พูดคุยกับเค้าดีอยู่นะ โทรศัพท์ก็คุยดีอยู่ ตอนนั้นก็ไปตามหน้าที่ ไปก็ว่า ไม่ไปก็ว่า ไม่ไปงานเป็นลูกผู้ชายที่แท้ตนเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าคำว่า ลูกผู้ชายที่แท้จริงมันเป็นแบบไหน ที่พูดเป็นลูกผู้ชายแบบไหนเราก็ไม่รู้เหมือนกัน คำว่าลูกผู้ชายมันแปลว่าอะไร คำตอบที่แท้จริงมันไม่มี
ไปโดดรั้วก็โดนว่า ว่าทางเข้ามีทำไมไม่เข้าดีๆ ตนเองยืนยันว่ามันไม่มีทางเข้า ใครจะอยากกระโดดรั้วให้กางเกงตัวเองขาด ตนเองยิ่งเป็นคนอนามัย จะไม่กระโดดข้ามรั้วอย่างแน่นอนถ้าไม่จำเป็น
อีกทั้งหาว่าเราทำภาพให้น่าสงสาร เรื่องนี้ขอบอกว่าไม่ต้องสร้างภาพคนก็สงสารทั้งประเทศอยู่แล้ว ไม่ต้องทำมันเหนื่อย ไม่ต้องการสร้างภาพไม่ต้องการเป็นกระแส
สังเกตจากหน้าเฟซบุ๊กตนเองได้ว่าจะโพสต์มูฟออนไปข้างหน้าจะไม่มีการมูฟออนแบบวงเวียน ตอนนี้ตนเองขอเดินหน้าอย่างเดียว เราไปในนามรับเชิญ เราก็ทำตามหน้าที่ เราเสร็จเราก็ร่ำลาแฟนคลับ แต่หากสิ่งไหนที่ไม่เหมาะสมรอบหน้าก็จัดแก้ไขให้ แต่รอบแรกต้องเข้าใจว่าคุณไม่ใช่ผมคุณเป็นคนที่คอมเมนต์อย่างเดียว ถ้าคุณอยู่จุดเดียวกันกับผมคุณอยู่ไม่ได้หรอก
เราเองไม่รู้ว่าเค้าเก็บของหรือย้ายของเพราะอยู่ขอนแก่นเห็นในเฟซบุ๊ก แต่เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้คิดอะไรเพื่อความสบายใจแม้แต่อยู่ในรั้วเดียวกันแต่ก็อยู่คนละหลังเป็นหลังที่เขาสร้างเอาไว้ตั้งแต่เป็นสาว
เรื่องแฟนคลับเลือกฝั่งเลือกฝ่ายเป็นสิทธิ์ของแฟนคลับ เลือกไปเถอะสุดท้ายแล้วมันก็อยู่ที่ความสบายใจของแฟนคลับอยู่ดี แม้เราจะบังคับมาให้ดูแต่เมื่อแฟนคลับไม่สบายใจเขาก็ไม่อยู่เหมือนเดิม เพราะฉะนั้นเอาที่แฟนคลับสบายใจดีกว่า
สำหรับการจะกลับมาพูดคุยหยอกล้อกับ "แพรวพราว" เหมือนเดิมนั้น มันก็เป็นเรื่องของเวลา ต้องใช้เวลาสักพัก ในการร่วมงานกันก็ไม่มีปัญหาอะไร ในเดือนมีนาคมนี้มีด้วยกัน 3 งาน ก็จะไปเหมือนเดิมทุกงาน
ส่วนกระแสที่ออกมาว่าตนเองไม่ไปนั้นก็งงเหมือนกันว่าเอากระแสตัวนี้มาจากไหน ใครเป็นคนเอาออก การที่วงของ "แพรวพราว" ไปทำการแสดงและไม่มีตนเองก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับวงเดิมแล้วเค้าไม่ได้จ้างก็ไม่มีหน้าที่ไป แต่ถ้างานไหนเค้าจ้างมาเราก็ไปตามจรรยาบรรณจากวิชาชีพของเรา
ในส่วนการเปลี่ยนชื่อก็เป็นสิทธิ์ของทางวงเต็มร้อย ให้ความเคารพกับทางวงว่าจะตัดตัดสินใจอย่างไร เราก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องต้องถามทางวง เรื่องนี้หากถามว่าเสียดายไหมตอบได้เต็มปากว่า ภูมิใจมากกว่า สิ่งที่ทำมารู้สึกภูมิใจว่าครั้งหนึ่งในชีวิตได้ทำด้วยใจและมีสิ่งนี้ขึ้นมา
เมื่อก่อนยอมรับว่า เรื่องที่ผ่านมาเยอะมากแต่พอตอนนี้เดือนมีนาคมแล้ว ไม่ได้คิดเรื่องเก่าๆ อีกเลย คิดเพียงเรื่องงานที่มีเข้ามาจนเต็มตลอดทั้งเดือน
ในส่วนของศิลปินในสังกัดที่มีกระแสว่า มีทั้งคนอยู่ มีทั้งคนไป ในเรื่องนี้จะมีการแถลงการณ์ออกมา แต่ส่วนตัวเราได้บอกศิลปินทุกคนหากใครจะมาอยู่ที่นี่ วงเราไม่ใช่วงหมอลำแบบเดิม เราในนามค่ายเพลงออกทีวี ออกคอนเสิร์ต ออกงานอีเวนต์ เราไม่ใช่คณะใหญ่เหมือนเดิม เพราะฉะนั้นใครไม่สบายใจตนเองฉีกสัญญาให้หมดทุกคน
เพราะไม่อยากเห็นคนมาทำงานแล้วมีความไม่สบายใจเกิดขึ้น เพราะหากเราสบายใจเราก็จะทำงานได้สะดวก เราก็อยากมองเห็นศิลปินในสังกัดความสบายใจ ไม่อยากจะเห็นใครที่แบบอึดอัดถ้าไม่อยากอยู่ก็ให้มาบอกเราก็จะฉีกสัญญาต่อหน้า โดยให้เอฟซีเห็นด้วย เดี๋ยวจะหาว่าตนเองไล่ออก ถ้าใครจะออกตนเองจะไม่มีการปรับเงินเหมือนบริษัทใหญ่ใหญ่ ใครอยากออกเราก็จะให้ออกเราลงทุนให้ศิลปินทุกคน คนละ 400,000-500,000 โดยที่ไม่มีกำไรแม้แต่บาทเดียว
แต่หากจะออกไปเราก็ยินดี เพราะเราทำให้ด้วยความเต็มใจและทำสัญญาแค่ 2-3 ปี จะไม่ทำสัญญา 10 ปี เพราะเป็นอาถรรพ์ และตอนนี้ตนเองจะมุ่งหน้าปั้นศิลปินหน้าใหม่โดยเฉพาะในวันที่ 1-4 เม.ย. 2567 ตนเองจะเปิดรับออดิชั่นศิลปินหน้าใหม่ที่บริษัท ส่วนกระแสดราม่าต่างๆ นั้นหากจะเข้ามาตนเองก็ยินดีต้อนรับ มีลานจอดไว้รอดราม่า ตอนนี้รู้สึกว่าชอบดราม่ามาก พวกเอฟซีและผู้ชมจะได้มีงานคอมเมนต์กันและต่อให้ดราม่าเราอยู่ในจุดนี้เราอยู่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตไม่คดโกงใคร เราก็เชื่อว่าเราอยู่ได้ยาวอย่างแน่นอน
ในส่วนแฟนคลับที่มีกระแสมาว่า ตนเองใจแข็งตัดสินใจเด็ดขาด ไม่สงสารอีกฝ่าย เรื่องนี้บอกได้เลยว่าสงสารทุกฝ่ายแต่บางทีก็ต้องสงสารตัวเองด้วย และเราต้องมีสติเพื่อให้เดินหน้าต่อได้ วันแรกที่เกิดเรื่องคุณแม่จินตหรา พูนลาภ โทรมาก่อนเพื่อนแต่ตนเองก็ไม่ได้รับสายเพราะยังไม่พร้อมจะพูดกับใครในเรื่องนี้ และยังมีพี่น้องโทรเข้ามาหาตลอดทั้งวัน 270 กว่าสาย ซึ่งตนเองไม่พร้อมรับสาย ไม่พร้อมพูดว่ามันคืออะไร แต่มันคงเป็นวาสนาที่จะได้เป็นเพื่อนกันมากกว่า
เรื่องของสาวๆ ตอนนี้ก็มีเข้ามาเยอะมาก แต่ขอบอกไว้เลยว่าตอนนี้รู้สึกกลัว อาจจะพูดได้ว่าตอนนี้กลัวแต่อีก 3 เดือน 6 เดือนอาจจะไม่กลัว แต่ตอนนี้ยังกลัวรู้สึกระแวงและยังไม่ได้คิดถึงเรื่องผู้หญิง โฟกัสที่งานกับลูกเท่านั้น เราต้องนึกถึงลูกเรามากกว่าว่าลูกเราจะจะเป็นยังไง มากกว่าความรักและการเลี้ยงลูกก็เลี้ยงแบบด้วยฤกษ์สะดวก ว่าใครมีงานมากงานน้อย แต่ถ้างานยุ่งทั้งคู่ก็จะมีป้าแจ๋วคอยดูแล และมีพี่สาวของคุณแพรวพราวเป็นคนดูแลอีก
เรื่อง "แพรวพราว" ออกมาคู่นั้นส่วนตัวยังไม่ได้คุยกัน แต่ก่อนที่จะมีดราม่านั้นตนเองก็คุยปกติและไม่รู้ว่ามีประเด็นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ซึ่งในตอนที่เป็นข่าวตนเองอยู่มัลดีฟส์ ก็ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นเป็นอะไรและก่อนที่จะบินไปนั้นก็บอกกับแพรวพราวว่าเหมือนเดิมทุกงานนะ พอคุยเสร็จก็บินเลยก่อนจะมีข่าวออกมาว่าไปงานทุกสิ่งทุกอย่าง ตอนนี้ทำให้มันดีขึ้นไม่ได้ทำให้มันแย่ลง
สำหรับบ้านคฤหาสน์ชายโสด ตั้งใจจะสร้างที่จังหวัดอุดรธานี ตอนนี้หาที่อยู่แต่ยังหาไม่ได้เพราะบ้านที่เราสร้างจะต้องใช้พื้นที่มากหน่อยเพื่อลูกของเราด้วย เวลาไปเรียนที่อุดรจะได้เดินทางได้สะดวกสบายขึ้น เผื่อมีเพื่อนของลูกลๆ มาอาศัย เราเริ่มต้นใหม่เราเริ่มจากศูนย์ เรามาแต่ตัวและหัวใจมาเริ่มต้นใหม่ดีกว่าเรื่องอื่นๆ ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต บริษัทเราดำเนินการปกติ สินค้าเราขายดี เราต้องเดินหน้าต่อเราจะทำให้เต็มที่ ตอนนี้สภาพจิตใจเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์
ในส่วนของเรื่อง "เบสท์ คำสิงห์" นั้นได้ติดต่อมาอยากจะทำ YouTube รายการของเขา บอกจะขับรถมารับแต่ตนเองก็ยังไม่มีเวลาให้ ซึ่งก็ได้บอกไว้ว่าจะหาคิวให้ หากจะถามว่าจะจิ้นกันได้ไหม เราก็ไม่รู้ว่าจะจิ้นแบบไหนเพราะไม่น่าจะใช่ทางของเราทั้งคู่ ตอนนี้ไม่อยากคิดกับใคร กลัวมากขออยู่คนเดียวใช้สมองสองมือทำงานดีกว่า
สุดท้ายขอฝากเพลงฝากเพจเฟซบุ๊ก YouTube ค่ายเพลงโตเกียวมิวสิค กำลังจะเปิดรับศิลปินหน้าใหม่ แต่รอบนี้ไม่รับเด็กและเยาวชนแล้ว จะเริ่มเปิดรับในระดับรุ่นโตขึ้นมาอีกรุ่น 23 ปีขึ้นไป มีความสามารถพร้อมทุกอย่างซึ่งจะเลือกเฉพาะคนที่พร้อมลุยงานเลยดีกว่า
