ผู้เชี่ยวชาญชี้ 'ฉลามกระทิง' กัดนักท่องเที่ยวสาหัส ที่ จ.พังงา เผยเป็นหนึ่งในสายพันธุ์สุดโหด

เหตุการณ์ฉลามกัดนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ในทะเล จ.พังงา ของไทย เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 63 ที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญด้านฉลามระดับโลก ให้สัมภาษณ์ผ่าน "นิวส์วีค" สื่อยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ โดยยืนยันว่าเป็น "ฉลามกระทิง" หรือ "บูลล์ ชาร์ค" หนึ่งในสายพันธุ์ฉลามที่ดุร้ายที่สุดในโลก เกวิน เนย์เลอร์ ผู้อำนวยการโครงการวิจัยฉลามแห่งมลรัฐฟลอริด้า และผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติฟลอริด้า ซึ่งถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านฉลามที่มีชื่อเสียงในระดับโลก ให้สัมภาษณ์กับนิวส์วีค ระบุว่า ฉลามที่จู่โจมกัดที่ขาขวาของ ฮันส์-เพเทอร์ มัลเท่น นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน วัย 75 ปี จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะลงไปว่ายน้ำบริเวณนอกชายหาดนางทอง ที่ จ.พังงา แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของไทย คือ ฉลามกระทิง หนึ่งในฉลามนักล่าที่ดุร้ายที่สุดของโลก รายงานข่าวระบุว่า รอยกัดที่ขาของนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันรายนี้ เป็นรอยกัดรูปครึ่งวงกลมที่มีขนาดใหญ่กว่า 7.9 นิ้ว (หรือมากกว่า 20 เซนติเมตร) ซึ่งใกล้เคียงกับตำแหน่งฟันและเขี้ยวของฉลามกระทิง ขณะเดียวกันจุดที่นักท่องเที่ยวชาวเยอรมันถูกจู่โจมจากใต้น้ำ ก็อยู่ห่างจากชายฝั่งราว 6-7 เมตร ซึ่งถือเป็น "ระยะสังหาร" ของฉลามกระทิงเช่นกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านฉลามชาวอเมริกันรายนี้ ยังระบุว่า ฉลามกระทิง ขึ้นชื่อในเรื่องความดุร้าย เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ฉลามที่มีพฤติกรรมการ ออกล่าเหยื่อใน "เขตน้ำตื้น" ใกล้ชายฝั่ง รายงานของนิวส์วีคระบุว่า จนถึงขณะนี้ ตำรวจไทยยังไม่สามารถสรุปได้ว่า นักท่องเที่ยวชาวเยอรมันรายนี้ถูกฉลามชนิดใดทำร้าย ทั้งนี้ ฉลามกระทิง เมื่อโตเต็มที่อาจมีน้ำหนักตัวมากถึงเกือบ 320 กิโลกรัม และมีความยาวลำตัวเกือบ 4 เมตร โดยฉลามกระทิงถือเป็นฉลามเพียงไม่กี่สายพันธุ์ในโลก ที่สามารถว่ายน้ำจากทะเล เข้ามาล่าเหยื่อในแม่น้ำต่าง ๆ ได้ โดยที่ผ่านมาเคยมีรายงานการพบฉลามชนิดนี้เข้ามาล่าเหยื่อในแม่น้ำหลายสาย เช่น แม่น้ำอเมซอนในบราซิล แม่น้ำแยงซีในจีน รวมถึงแม่น้ำแม่กลองในประเทศไทย ถือเป็นฉลามนักล่า 2 น้ำ ที่ล่าเหยื่อได้ทั้งน้ำจืด และน้ำเค็ม