ด่วน! อัยการมีนบุรีสั่งฟ้อง 4 ผู้ต้องหา คดีบุกรุกบ้านอากู๋ ใน 3 ข้อหา ส่วน คดีครอบครองปรปักษ์ ศาลยังไม่ถอนคำร้อง เรียกค่าเสียหาย 3 แสน เก็บค่าเช่าย้อนหลัง 6 ปี
จากกรณีคดีมหากาพย์ คดีบุกรุกบ้านอากู๋ และคดีครอบครองปรปักษ์ ทำให้ น.ส.ภานุมาศ 1 ใน 5 ผู้ต้องหาในคดีบุกรุกบ้านอากู๋ เกิดความเครียด และตัดสินใจจบชีวิตตัวเองที่บ้านพัก ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ล่าสุดวันที่ 6 มี.ค. 67 ที่สำนักงานอัยการสูงสุดมีนบุรี ผู้ต้องหา 4 คน เดินทางเข้ามาฟังคำสั่งของอัยการใน คดีบุกรุกบ้านอากู๋ ทำให้เสียทรัพย์ และลักทรัพย์ โดยผู้ต้องหา และทนายความเดินทางมาถึงก่อนเวลานัด ผู้ต้องหาทั้งหมดเดินขึ้นไปบนอาคารทันที
ก่อนที่นายสุรศักดิ์ ภู่นาค ทนายความฝั่งจำเลยคดีบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์ และลักทรัพย์ ระบุเบื้องต้นว่า คาดว่าวันนี้อัยการจะมีคำสั่งฟ้องในคดีนี้ ซึ่งเป็นคดีอาญา โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีการพยายามพูดคุยกับฝั่งคู่กรณีอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ยังไม่ขอระบุในส่วนของประเด็นลูกความของตนเองว่ายอมรับหรือปฏิเสธในข้อหา โดยยืนยันว่าต้องการที่จะพูดคุยเพื่อไม่ให้ทุกอย่างลุกลามบานปลาย
สำหรับ น.ส.ภาณุมาศ 1ในผู้ต้องหาที่เสียชีวิตไปแล้ว ก็จะจำหน่ายคดีไป ขณะที่เรื่องการเจรจาก็ได้พูดคุยกับ นายซัน และ น.ส.อาย คู่กรณีไปบ้างแล้ว ลูกความตนเองก็ยอมรับผิดในส่วนที่ผิด พร้อมขอเวลาแก้ไข เพราะมีผู้เสียชีวิตไปแล้วก็ไม่อยากให้เหตุบานปลายไปมากกว่านี้
ด้านนายอานนท์ จิตตกูล อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญามีนบุรี 1 กล่าวว่า หลังรับตัวผู้ต้องหาแล้ว คณะพนักงานอัยการได้มีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาในความผิดฐานบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์ และลักทรัพย์ ตามที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาไว้ เนื่องจากได้พิจารณาประกอบพยานหลักฐานแล้ว พบว่ามีมูล โดยสัปดาห์ก่อน พนักงานสอบสวนได้ทำเรื่องแจ้งเข้ามาว่ามี น.ส.ภาณุมาศ 1 ในผู้ต้องหาได้เสียชีวิตลง ก็สั่งยุติคดีไป ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 4 รายก็จะนำตัวส่งฟ้องต่อศาลอาญามีนบุรีในวันนี้ทันที
นายอานนท์ กล่าวอีกว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ตั้งแต่ในชั้นสอบสวน ขณะที่ชั้นอัยการ ผู้ต้องหาไม่ได้มีข้อร้องขอความเป็นธรรมใดๆ ทั้งยังมีความพยายามจะขอเจรจากับคู่กรณีด้วย แต่ทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้มาพูดคุยกัน อย่างไรก็ตาม หากบ้านของคู่กรณีได้รับความเสียหายจากการบุกรุกก็สามารถร้องขอค่าชดเชยทางแพ่งได้
จากนั้น หลังจากผู้ต้องหาทั้ง 4 คนที่ขึ้นไปฟังคำสั่งฟ้องของอัยการใช้เวลาประมาณ 20 นาที ผู้ต้องหาทั้งหมดได้เดินทางลงมาขึ้นรถตู้ เพื่อเดินทางต่อไปที่ศาลอาญามีนบุรี โดยผู้ต้องหาทั้งหมดสวมหมวก สวมหน้ากากอนามัย และใส่แว่นตาสีดำ เมื่อลงมาจากอาคาร ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามผู้ต้องหา โดยเฉพา ะน.ส.ศรีพรรณ 1 ในผู้ต้องหาว่ายังคงให้การปฏิเสธข้อหาหรือไม่ แต่ผู้ต้องหาปฏิเสธตอบคำถาม แต่จากการสังเกตทุกคนมีสีหน้าเรียบเฉย และรีบขึ้นรถตู้ออกไปทันที
ต่อมา น.ส.อำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ทนายความฝ่ายผู้เสียหาย ระบุว่า จนถึงตอนนี้คู่กรณีรวมถึงทนายความ ยังไม่ได้ติดต่อเข้ามาพูดคุยกับลูกความอย่างเป็นทางการ แม้ที่ผ่านมาได้แสดงความประสงค์ที่จะเข้ามาเจรจา แต่ในเมื่อคดีถึงชั้นศาลแล้วก็ให้มาพูดคุยกันที่ศาล ซึ่งวันนี้อัยการได้นัดส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดในคดีบุกรุก สำหรับค่าเสียหายคดีอาญายังไม่มีการพูดคุย ต้องรอดูสำนวนของพนักงานอัยการก่อน ว่ามีการประเมินเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่ และมาพิจารณาค่าเสียหายเพิ่มเติม
ส่วนสำนวนคดีที่ 2 หรือคดีครอบครองปรปักษ์ พนักงานสอบสวนยังคงสอบสวนอยู่ แม้ น.ส.ศรีพรรณ ได้ยื่นถอนการครอบครองแล้ว แต่ศาลยังไม่มีคำสั่งถอนคำร้อง จึงต้องรอนัดหมายอีกครั้งวันที่ 18 มี.ค.นี้ ซึ่งลูกความจะเรียกร้องค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นเงิน 3 แสนบาท และเรียกเก็บค่าเช่าย้อนหลัง 6 ปีตามที่มีหลักฐาน โดยให้จ่ายเป็นเดือน เดือนละ 20,000 บาท
น.ส.อำนวยพร กล่าวอีกว่า ยังคงยืนยันว่าหากเปลี่ยนตัวทนายวัฒนา เรืองแก้ว ทนายฝั่งคู่กรณี ตามข้อตกลงของอากู๋ ก็จะเจรจากันได้ง่ายขึ้น แต่จนขณะนี้เจ้าตัวไม่เคยติดต่อเข้ามาพูดคุย และในคำสั่งถอนฟ้องปรปักษ์ของคู่กรณี ยังเป็นชื่อของทนายวัฒนา อยู่
Advertisement