คนร้ายขับกะบะไล่ยิงช่างติดฟิล์มรถยนต์ ขณะขี่จักรยานยนต์บาดเจ็บ ภรรยาเผย สามีสาหัสถูกยิงกระสุนฝังก้น กระดูกสะโพกแตก ลำไส้ฉีกขาด เชื่อไม่ใช่ปัญหาเรื่องส่วนตัว
เหตุยิงวัยรุ่นสุพรรณบุรียังปริศนา ผู้ใหญ่บ้านเผย คนเจ็บเป็นคนนอกพื้นที่ และหมู่บ้านนี้ครั้งแรกที่มีเหตุยิงกัน ด้านรถมอเตอร์ไซค์คนเจ็บ แต่งเต็มระบบ คราบเลือดเต็มรถ
จากเหตุการณ์ เมื่อช่วงเวลา 21.30 น. วันที่ 7 มีนาคม 2567 นายเอกชัย เจนจิต อายุ 27 ปี ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนขับกะบะอีซูซุสีดำไม่ทราบทะเบียน ขับตามมาและใช้อาวุธปืนยิงใส่ จนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดหน้าปั้มแก๊สริมถนนสาย 340 บางปลาม้า-สุพรรณบุรี ขาเข้าตัวเมืองสุพรรณบุรี
ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุที่หน้าปั้มแก๊สริมถนนบางปลาม้า-สุพรรณบุรี พบกองเลือดขนาดใหญ่ อยู่ริมถนนบริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน จากการสอบถามพนักงานปั๊มแก็สก็บอกว่า ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ในช่วงเวลาดังกล่าว ส่วนรถมอเตอร์ไซต์ของผู้บาดเจ็บขณะนี้ตำรวจได้นำไปจอดอยู่ที่ สภ. เมืองสุพรรณบุรี โดยรถของผู้บาดเจ็บเป็นรถฮอนด้าเวฟ 110i ท่อผ่า เปลี่ยนเป็นโช๊คแต่ง ลงล้อเล็ก ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และสภาพรถเต็มไปด้วยเลือดของผู้บาดเจ็บ
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวจึงเดินทางเข้าไปพบนายณัฐฐิวุฒิ พันธุ์วิหก ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1. ต.ท่าระหัด ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อคืนเวลาประมาณสามทุ่มเศษ ได้มีลูกบ้านมาแจ้งตนว่ามีเหตุยิงกันบริเวณหน้าปั๊มแก๊ส หลังจากนั้นจึงรีบเดินทางไปทันที เมื่อไปถึงก็พบว่าคนเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว ส่วนเส้นทางการก่อเหตุของมือปืนก็อยู่บนถนนบางปลาม้า-สุพรรณบุรี โดยเส้นทางดังกล่าวนั้นเป็นถนนเปลี่ยวไม่มีบ้านผู้คน จึงไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ ส่วนสาเหตุที่ยิงกันนั้นตนเองก็ไม่ทราบมาก่อนว่ามาจากอะไรกันแน่ เพราะที่ผ่านมาในพื้นที่นี้ไม่เคยมีเหตุยิงกันมาก่อน และผู้บาดเจ็บไม่ใช่ลูกบ้านของตนตอนนี้ยังงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้านนางอรพรรณ ศรีเจริญ อายุ 36 ปี ภรรยานายเอกชัย ผู้บาดเจ็บ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงอาการล่าสุดของสามีว่า สามีถูกยิงเข้าบริเวณก้นด้านขวา กระสุนฝังใน ทำให้ลำไส้ฉีกขาดกระดูกสะโพกแตก ล่าสุดเมื่อคืนแพทย์ยังไม่สามารถผ่าเอาหัวกระสุนออกมาได้ต้องรอวินิจฉัยจากแพทย์เฉพาะทางอีกครั้งนึง ส่วนลำไส้ที่ฉีกขาดทางแพทย์ได้ทำการผ่าตัดลำไส้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้อาการสามีฟื้นขึ้นมาแล้ว แต่ยังมีอาการ สะลึมสะลือ เพราะถูกรมยาสลบ สามียังไม่สามารถเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ตนเองฟังได้
สำหรับสามีเพิ่งเดินทางมาอยู่กับตนเองได้ประมาณเจ็ดวัน เพราะที่ทำงานสามีอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดนพักงานเจ็ดวัน เพราะทำผิดกฎบริษัท และวันนี้ก็จะเป็นวันเดินทางกลับไปทำงานในวันแรก ตัวเองเชื่อว่าสามีไม่ได้ไปมีปัญหากับใครแน่นอน ส่วนระหว่างทางจะมีปัญหากับใคร หรือขับขี่ปาดหน้า แข่งรถกันหรือไม่ตนเองก็ยังไม่ทราบ
ขณะเดียวกันความคืบหน้าล่าสุด ที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เบาะแสรถผู้ต้องสงสัยแล้วหนึ่งคัน ตอนนี้ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างละเอียด และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกำลังเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี เพื่อเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
