สอบญาติ-คนสนิท คดีฆ่าโหดเจ้าของสวนทุเรียนระยองทิ้งสระน้ำ เชื่อฝีมือคือคนใกล้ตัว พบเบาะแสใหม่สนิท รปภ.ธนาคาร ตำรวจหิ้วเค้น
จากกรณีพบศพ นางฉวีวรรณ ใจช่วย หรือ ป้าอี๊ด อายุ 69 ปี เจ้าของสวนทุเรียน ถูกฆาตกรรมมัดมือไพล่หลัง กางเกงพันศีรษะครอบด้วยถังพลาสติก ทิ้งศพในสระน้ำ ภายในสวนทุเรียน ริม ถ.ไร่อ้อย-เขายายพริ้ง ม.4 ต.กองดิน อ.แกลง จ.ระยอง
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกผู้ใกล้ชิดสอบสวน ประกอบด้วย บุตรสาว 2 คน และ บุตรชาย รวม 5 คน รวมถึงคนดูแลสวนทุเรียน อายุ 74 ปี ส่วนคนกรีดยาง ซึ่งเป็นคนสนิทของผู้เสียชีวิต ตอนแรกยังไม่พบตัว ตำรวจจึงพุ่งเป้าไปที่คนใกล้ชิด ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว
ความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว วันที่ 8 มี.ค. 67 พ.ต.อ.พิมุข นาคขำพันธ์ ผกก.สภ.ปากน้ำประแสร์ ระยอง ได้เรียกตัว นายวิว อายุ 69 ปี คนกรีดยาง และคนใกล้ชิดของ นางฉวีวรรณ หลังจากเมื่อวานยังไม่พบตัว เพราะออกไปหาปลา จนกระทั่งกลับมา จึงเข้ามาให้การ ที่ สภ.ปากน้ำประแสร์ในวันนี้
นายวิว ให้การว่า ตนออกไปหาปลาจึงไม่อยู่ จนกลับมาจึงรีบมาให้การ ตนเป็นคนกรีดยาง และช่วยผู้เสียชีวิตทำงาน พบผู้เสียชีวิต เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 67 โดยขี่รถจักรยานยนต์พาไปซื้ออุปกรณ์การเกษตรที่ตลาด แล้วก็พามาส่งที่บ้าน ต่อมายังพบเห็นนั่งอยู่หน้าบ้าน แต่ไม่ได้คุยกัน จนกระทั่งมาทราบข่าวว่าเสียชีวิตแล้ว ขอยืนยันว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตาย และก็ไม่มีเหตุที่ตนเองจะต้องไปฆ่า พร้อมให้ตรวจสอบ
ที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตกับนายแอ๊ว บุตรชาย และภรรยา มักจะมีปากเสียงทะเลาะกับผู้เสียชีวิตบ่อยครั้ง และยังชอบทำลายข้าวของด้วย นอกจากนี้ผู้เสียชีวิตยังเคยพูดให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องของบุตรชายที่ติดยาบ้า และเคยเข้าแจ้งความตำรวจให้มาตรวจสอบบุตรชาย รวมถึงยังพูดเกี่ยวกับมรดกที่ดินที่มีอยู่ว่าจะแบ่งให้กับลูกทั้ง 5 คน โดยส่วนตัวเชื่อว่าผู้ก่อเหตุไม่ใช่ใครอื่น ต้องเป็นคนใกล้ตัว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวนายแอ๊ว พร้อมด้วยลูกอีก 4 คน มาสอบสวนเพิ่มเติม แต่ทุกคนยังให้การปฏิเสธ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจปัสสาวะ นายแอ๊ว ปรากฎว่า ผลออกมาปัสสาวะสีม่วง มีสารเสพติดจึงควบคุมดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ขณะที่นางยาหยี อายุ 38 ปี ลูกสะใภ้ ยืนยันหนักแน่นว่าอยู่ด้วยกันกับนายแอ๊ว ตลอดเวลา สามีไม่ใช่คนฆ่าแม่แน่นอน
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีได้เบาะแสใหม่ จากการตรวจสอบหลักฐานและกล้องวงจรปิด รวมถึงการสอบสวน พบว่า ที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตเดินทางไปทำธุระกรรมที่ธนาคารแห่งหนี่งใน อ.นายายอาม จ.จันทบุรี บ่อยครั้ง และได้รับการดูแลอำนวยความสะดวกจาก รปภ.ของธนาคาร จนเกิดความสนิทสนม และเคยไปรับประทานอาหารด้วยกัน
ล่าสุดตำรวจได้มีการควบคุมตัว รปภ.รายนี้ไปทำการสอบสวนแล้ว แต่ก็ยังไม่ทิ้งประเด็นอื่นทั้งหมด