3 เยาวชน ขี่ จยย. เฉี่ยวชนเสาไฟฟ้า ดับ 2 ราย - คนขี่สาหัสได้หมวกกันน็อคช่วยชีวิต

3 เยาวชนขี่จักรยานยนต์เฉี่ยวชนเสาไฟฟ้าข้างทาง ดับ 2 ราย คนขี่สาหัส ได้หมวกกันน็อคช่วยชีวิตไว้

กล้องวงจรปิดหน้าอู่ช่างรุ้ง ตั้งอยู่ริมถนนสายชัยภูมิ-ห้วยชั้น ใกล้กับชุมชนมอดินแดง ต.รอบเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ จับภาพได้อย่างจัดเจน ขณะที่มี 3 เยาวชนหญิง ขี่รถจักรยานยนต์ คนขับขี่สวมหมวกกันน็อค ส่วนเยาวชนหญิงซ้อนท้ายมา 2 คน ไม่สวมหมวกน๊อค ขี่มาด้วยความเร็วลักษณะเหมือนหยอกล้อกันมา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุคล้ายหมวกปิดบังตาคนขี่มองไม่เห็นถนนได้หักออกวิ่งตามไหล่ทาง ก่อนเกิดเฉี่ยวชนกับเสาไฟฟ้าข้างถนนและถังขยะของชาวบ้าน รถจักรยานยนต์ได้เสียหลักล้มคว้าลงกับพื้น ไหล่ทางหน้าร้านซ้อมรถยนต์ ทั้ง 3 คน ศรีษะฟาดพื้นไหลทาง หน้าร้านซ้อมรถยนต์ เจ้าของร้านซ้อมรถยนต์และช่างซ่อมหลายคนได้รีบวิ่งออกมาให้การช่วยเหลือ หญิงเยาวชนทั้ง 3 คน พบ 2 ไม่สวมหมวกกันน๊อค ไม่มีสติ ชีพจรหยุดเต้น อีกคนเป็นคนขี่รถจยย.สวมหมวกกันน็อคยังพอมีสติ ได้รับบาดเจ็บสาหัส รีบแจ้งขอความช่วยเหลือหน่วยกู้ชีพกู้ภัยมูลนิธิสว่างคุณธรรมสถาน จ.ชัยภูมิ รีบเดินทางมายังที่เกิดเหตุ รีบเข้าไปให้การช่วยเหลือ ปั้มหัวใจ 2 เยาวชนหญิงจนมีสัญญาณชีพจรหัวใจเต้นขึ้นมา ก่อนจะรีบให้การช่วยเหลือ นำตัวทั้ง 3 เยาวชนหญิง ส่งรักษาตัวที่ รพ.ชัยภูมิ แต่สุดท้าย 2 ใน 3 เยาวชนหญิง ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมาที่ รพ.ชัยภูมิ คือ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ชาวบ้านโนนมะเกลือ ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ 2.ด.ญ.บี (นามสมมตอ) อายุ 13 ปี ชาวบ้านห้วยกุ่ม ต.นางแดด อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ ส่วนคนขับขี่รถจยย.ที่สวมหมวกกันน็อคทราบชื่อด.ญ.ก้อย (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสเจ้าหน้าที่ยังคงเร่งช่วยเหลือ ในที่เกิดเหตุยังพบรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนสีน้ำเงินดำล้มคว่ำอยู่ริมถนน

ร.ต.อ.ขันติ เพียรสูงเนิน รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งจากทาง 191 สถานีตำรวจภูธรเมืองชัยภูมิ ว่ามีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักลงข้างทางมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 รายบริเวณหน้าอู่ช่างรุ้ง ถนนชัยภูมิ-ตาดโตน จึงรุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์โรงพยาบาลชัยภูมิได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณหน้าร้าน และกล้องวงจรปิดที่อยู่ก่อนหน้าว่าเกิดจากสาเหตุใด และเดินทางไปดูอาการผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลชัยภูมิ อีกทั้งยังได้ประสานญาติให้มาติดต่อรับร่างกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนา ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บหากอาการดีขึ้นก็จะเชิญตัวมาสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งต่อไป