ชาวบ้านสุดทน บุกร้องผู้ว่าฯ จัดการหนุ่มเส้นใหญ่ ยักยอกทรัพย์ชาวบ้านเสียหายกว่า 10 ล้าน ลอยนวลคดีไม่คืบหน้า
เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 67 ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายไกรสร วิจิตร อายุ 36 ปี พร้อมด้วยชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้นำเครื่องขยายเสียงรถแห่มาประท้วงเรียกร้องขอความเป็นธรรมกรณีถูกนายดำ (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ยักยอกทรัพย์รถไถนา โดยอ้างว่ายืมไปใช้งานแต่ไม่นำกลับมาส่งคืนซ้ำยังหายไปแบบไม่พบร่องรอยของทรัพย์นั้น
มีชาวบ้านได้รับความเสียหายจำนวนหลายรายและได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเอาไว้แล้ว ผ่านไปหลายปีแต่คดีไม่คืบอีกทั้งผู้ก่อเหตุยังอ้างว่ามีนายคุ้มครองไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น จึงได้มาร้องขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษช่วยเหลือ
นายไกรสร กล่าวว่าก่อนนี้เมื่อต้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมานายดำ ได้มาขอทำงานรับจ้างขับรถไถให้ตน ตนก็รับไว้เพราะรถไถตนไม่มีคนขับจากนั้นก็ได้มาทำงานไถปรับที่นาอยู่ใกล้บ้าน โดยแรก ๆ ก็ได้ขับรถไถตนกลับไปเก็บที่บ้านของนายดำ ขับไปกลับอยู่ประมาณ 2-3 วัน ต่อมานายดำได้มาขอยืมผานไถตน ซึ่งซื้อมาราคา 70,000 บาท โดยอ้างว่าผานไถของนายดำชำรุด ตนก็ให้ยืมไปโดยไม่คิดอะไร ต่อมามีเพื่อนของตนได้โทรศัพท์มาบอกว่าให้ระวังนายดำให้ดีเพราะมีประวัติยืมรถเกี่ยวข้าวคนอื่นไปใช้งานแล้วสูญหายไป ไม่รู้ว่าหายจริงหรือนำไปขายต่อกันแน่และเป็นเรื่องเป็นราวเป็นคดีความกันมาแล้ว หลังเพื่อนแจ้งเตือนตนจึงได้โทรไปหานายดำเพื่อขอให้นำผานไถมาคืน โดยนายดำบอกว่าจะนำมาคืนให้ในเวลา 1 ทุ่มแต่แล้วตนก็รอจนถึงเที่ยงคืน และโทรศัพท์หากว่า 20-30 สาย ก็ไม่รับสายตนตนจึงตัดสินใจไปแจ้งความร้องทุกข์ที่สภ.เมืองศรีสะเกษซึ่งตำรวจก็บอกว่านายดำอีกแล้วหรือ เพรามีประวัติถูกแจ้งความจับกรณีลักษณะนี้บ่อยมาก พอขึ้นศาลก็เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยขอผ่อนจ่ายทุกเคส ทำผิดซ้ำ ๆ อยู่แบบนี้มาโดยตลอดซึ่งโชคดีที่ตนไปนำรถไถกลับมาได้แต่ก็พบว่ามีการนำลูกกุญแจรถไถไปปั้ม เชื่อว่ามีการเตรียมการที่จะขโมยรถตนอย่างแน่นอน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างจริงจังเพราะปัจจุบันมีผู้เสียายแล้วมากกว่า 10 รายมูลค่าความเสียหายมากกว่า 10 ล้านบาทแล้ว
ด้านนายประวัติศรีสุรักษ์อายุ 75 ปีกล่าวว่าเมื่อปี 2564 ที่ผ่านมาตนได้ซื้อรถไถมาในราคากว่า 7 แสนบาท โดยผ่อนจ่ายเป็นรายปีปีละ 1 แสนบาท 7 งวดโดยซื้อในนามชื่อหลานชายตน แต่ตนเป็นคนผ่อนชำระต่อมานายดำได้มาขอยืมรถไถตนไป ใช้งานเป็นเวลา 15 วัน ตนก็ยินยอมให้ยืมเพราะเป็นคนรู้จักกัน แต่พอครบกำหนดเวลา นายดำไม่ยอมนำรถมาคืนและได้ไปติดตามทวงถามก็บอกปัดไปทุกครั้งจนผ่านไปนานนับเดือนปรากฏว่ารถของตนหาย ถามนายดำก็ตอบอ้ำอึ้ง จนในที่สุดติดต่อไม่ได้ตนจึงไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ตั้งแต่เมื่อปี 2564 จนปัจจุบันคดีก็ยังไม่คืบหน้าไม่สามารถจับกุมตัวผู้กระทำผิดได้ และตนก็ต้องจ่ายค่าเช่าซื้อต่อไปทุก ๆ ปีไม่เช่นนั้นก็จะถูกฟ้องร้องและได้รับความเดือดร้อนมากและทุกข์ใจหนักไม่รู้จะไปพึ่งใครจึงได้มาร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษเพื่อให้ช่วยเหลือ
ขณะที่ พ.ต.ท.ศราวุฒิ คำน้อย รองผกก.(สืบสวน)สภ.เมืองศรีสะเกษ กล่าวว่าในส่วนของตำรวจ เบื้องต้นจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่ามีอยู่ 3 คดี ที่ทางตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วและเมื่อมารับทราบข้อกล่าวหาแล้วก็จะได้มีการปล่อยตัวชั่วคราวส่วนอีก 2 คดีอยู่ระหว่างการดำเนินการเรียกตัวมาพบพนักงานสอบสวนซึ่งหากไม่มาพบก็จะได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 และถ้าหากไม่เข้ามาก็จะออกหมายจับ และล่าสุดก็มีผู้เสียหายเดินทางเข้ามาแจ้งความเพิ่มอีก 1 คดีซึ่งอยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้เสียหายพยานดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายแต่อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่าปัจจุบันนายดำผู้ก่อเหตุมีหมายจับติดตัวอยู่หลายหมายโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งดำเนินการจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร่งด่วนต่อไป