ผลชันสูตร "น้องสา" สาวพม่า พบถูกแทงลำคอ 3 แผล เอาจีวรปิดทับก่อนโยนศพทิ้งบ่อน้ำร้าง

ผลชันสูตร "น้องสา" สาวพม่า พบถูกแทงลำคอ 3 แผล เอาจีวรปิดทับก่อนโยนศพทิ้งบ่อน้ำร้าง ตำรวจเร่งล่าตัวแฟนหนุ่มผู้ต้องสงสัยหนีกบดานข้้ามจังหวัด คาดภายในค่ำนี้ศาลจะออกหมายจับได้อย่างแน่นอน

จากกรณีสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับการประสานขอความช่วยเหลือติดตามหาตัว “น้องสา” แรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ลูกจ้างร้านกาแฟในศูนย์การค้า “นครดีซี” ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หายตัวปริศนาไปจากหอพักตั้งแต่เย็นของวันที่ 3 มี.ค.2567 ก่อนที่วันนี้เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 11 มี.ค.67 ชาวบ้านแจ้งว่าพบศพหญิงสาวในบ่อน้ำร้างภายในห้องน้ำร้างข้างตลาดท้าวโคตร ภายในวัดท้าวโคตร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

เจ้าหน้าที่ใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะนำศพสาวพม่าขึ้นมาจากบ่อได้สำเร็จตำรวจค้นบ้านแฟนหนุ่มเจอหลักฐานรอยเลือดและหลักฐานอื่นๆอีกหลายรายการเร่งล่าตัวคาดกบดานพื้นที่ต.อ่าวนางจ.กระบี่

ต่อมาเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่มูลนิธิใต้เต๊กตึ้งได้ใช้ความพยายามนานหลายชั่วโมงในการใช้เชือกโรยตัวพร้อมถังอ็อกซิเจนลงไปในบ่อน้ำร้างซึ่งมีความลึกประมาณ 5-6 เมตร แล้วใช้เชือกขนาดใหญ่ผูกมัดร่าง น้องสา สาวพม่า แล้วใช้รอกและเจ้าหน้าที่ดึงร่างศพน้องสาขึ้นมาปากบ่อด้วยความทุลักทุเล เนื่องจากน้องสาเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8-9 วัน ซึ่งเบื้องต้นสภาพศพเน่าส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วบริเวณ มีบาดแผลถูกทุบตีที่ศีรษะและลำตัว ซึ่งแพทย์เวร รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ได้มีการนำศพไปทำการผ่าชันสูตรศพอย่างละเอียดอีกครั้ง

ด้าน พ.ต.อ.กิตติชัย ไกรณรา ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เผยว่าชัดเจนแน่นอนแล้วว่าผู้เสียชีวิตคือ นางสา สาวชาวพม่าวัย 32 ปี และผู้ก่อเหตุคือแฟนหนุ่มชื่อนายพิทญา หรือนายบุญญัติศักดิ์ อายุ 27 ปี ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่งชอบเที่ยวเตร่ตามสถานบันเทิงต่างๆ ระยะหลังนายพิทญาได้มาอาศัยอยู่กับนางมัชฌิมา บุญญัติศักดิ์ แม่วัย 45 ปี ที่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่เกิดเหตุประมาณ 20 เมตร

ตนได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนและตำรวจพิสูจน์หลักฐานไปตรวจค้นห้องพักของนายพิทญา โดยในห้องนอนพบหลักฐานหลายอย่างเช่น รอยคราบเลือดจำนวนหนึ่ง และพบร่องรอยมีการรื้อพลิกเก็บที่นอนใหม่หมด และยังมีการเก็บเสื้อผ้าต่างๆ ของนายพิทญาหรือนายผู้ต้องหาไปตรวจหาดีเอ็นเอต่อไป คาดว่าค่ำนี้ศาลจะออกหมายจับนายพิทญาได้อย่างแน่นอนเพราะพยานหลักฐานมัดตัวแน่นหนา

ขณะที่แนวทางการสืบสวนสอบสวนทราบว่านายพิทญาได้หลบหนีไปกบดานซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ ต.อ่าวนาง จ.กระบี่ ซึ่งทางตำรวจกระบี่ และจ.นครศรีธรรมราชกำลังิดตามและคาดว่าจะสามารถจับกุมตัวได้แน่นอน

ล่าสุด หลังจากมีการนำศพของ น้องสา ขึ้นมาจากบ่อน้ำร้างในตลาดภายในวัดท้าวโคตร อ.เมืองนครศรีธรรมราช แพทย์เวร รพ.มหาราชนครศรีธรรมราชและตำรวจได้ร่วมทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดพบว่าสภาพศพมีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมเข้าลำคอจำนวน 3 แผลเป็นแผลฉกรรจ์ ซึ่งคาดว่าเป็นบาดแผลสำคัญทำให้น้องสาเสียชีวิต โดยตำรวจคาดว่าเหตุการณ์น่าจะเกิดภายในห้องพักของนายพิทญา ผู้ต้องหาที่อยู่ห่างจากจุดพบศพประมาณ 20 เมตร

หลังจากนายพิทญาได้ลงมือฆ่านางสาแล้วนายพิทญาก่อนปลดเอาสร้อยทองคำของผู้ตายหนัก 2-3 บาทเก็บไว้ จากนั้นจึงอาศัยช่วงเวลากลางคืนนำศพมาโยนทิ้งบ่อน้ำร้างดังกล่าวเพื่ออำพรางคดีโดยใช้ผ้าห่มโยนปิดทับและผ้าจีวรปิดทับศพเพื่ออำพรางคดีก่อนวางแผนหลบหนีข้ามจังหวัดดังกล่าว ซึ่งทางตำรวจกำลังขยายผลว่ามีผู้ร่วมขบวนการก่อเหตุอีกหรือไม่ต่อไป