เตือนภัย โจ๋ใช้แบงก์ 1,000 ปลอม ซื้อของชำร้านตายาย

เตือนภัย 2 โจ๋ เมืองอุดรฯ ใช้แบงก์ 1,000 ปลอมซื้อของร้านของชำตายาย

จากกรณีได้มีสื่อออนไลน์ทำการโพสต์ภาพ และข้อความเตือนภัยแบงก์ปลอมระบาดหลังได้รับข้อมูลจากเจ้าของร้านขายของชำในซอยสุขสมบัติ ม.9 ชุมชนหนองเหล็ก ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานีว่า เวลาประมาณ 18.46 น. วันที่ 11 มีนาคม 2567 มีโจรในคราบลูกค้าเป็นชายวัยรุ่น 2 คนไม่คุ้นหน้าตา ไม่น่าใช่คนในพื้นที่แถวนี้ ขับรถจักรยานยนต์มาขอซื้อน้ำมัน น้ำอัดลม และขนม เป็นเงิน 42 บาท โดยใช้แบงก์ 1,000 บาท ปลอมมาจ่ายจึงได้ทอนเงินไป 958 บาท ก่อนพากันขี่รถหลบหนี แต่พอมาดูเงินชัด ๆ จึงรู้ว่าเป็นแบงก์ปลอม โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับใบหน้าของ 2 คนไว้ได้ พร้อมฝากเตือนภัยให้เพื่อนพ่อค้าแม่ค้า ให้ระมัดระวังกันด้วย
 
วันนี้ (12 มี.ค. 67) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังร้านของชำที่เกิดเหตุชื่อว่าร้านคูก้า ในชุมชนหนองเหล็ก ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี พบกับนางทองมาก มั่งสวัสดิ์ อายุ 68 ปี และนายเพชรรัตน์ มั่งสวัสดิ์ อายุ 71 ปีสามีภรรยาเจ้าของร้านให้ข้อมูลและภาพกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งหน้าร้าน 2 ตัว ที่สามารถบันทึกภาพคนร้ายขณะก่อเหตุเอาไว้ได้

โดยในภาพวงรปิดคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 2 คน อายปุระมาณ 18-20 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียน แต่เห็นไม่ชัดเจนคนซ้อนเดินถือถุงขนมลงจากรถ แล้วไปสั่งซื้อสินค้ากับตายายเจ้าของร้าน ก่อนที่เจ้าของร้านจะยื่นสินค้าที่สั่งผ่านทางช่องประตูลูกกรงเหล็ก ก่อนคนร้ายที่นั่งอยู่รถจักรยานยนต์เดินลงไปจะช่วยกันหยิบเอาสินค้าที่สั่งเป็นน้ำอัดลม 1 ขวด ขนมขบเคี้ยว 1 ห่อ และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 1 ขวดมาเติมใส่รถจักรยานยนต์รวมเป็นเงิน 42 บาท ซึ่งนางทองมาก คุณยายเจ้าของร้าน ได้ทอนเงินให้คนร้ายไป 958 บาท ก่อนคนร้ายจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางหน้าปากซอยสุขสมบัติ โดยใช้เวลาก่อเหตุประมาณ 4.50 นาที

คุณยายนางทองมาก เล่าว่า พอคนร้ายขี่รถไป ตนจึงหยิบแบงก์ขึ้นมาตรวจสอบแต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นของปลอมหรือของจริงเพราะมองไม่ชัด จึงเดินเข้าไปในบ้านให้ลูกชายตรวจสอบจึงรู้ว่าเป็นแบงก์ปลอม

ลูกชายจึงส่งข้อมูลและภาพแบงก์ปลอมรวมทั้งภาพตำหนิรูปพรรณคนร้ายไปทางเพจข่าวอุดรโฮมเคเบิล เพื่อเตือนภัยให้กับร้านของชำต่าง ๆในพื้นที่ โดยเฉพาะคนสูงวัยที่มักจะตกเป็นเหยื่อ ขนาดตนระวังแล้วก็ยังเจอขายของมา 20 ปี เพิ่งเจอครั้งแรก ไม่คิดว่าจะมาเจอกับตัวเองหลังจากเห็นแต่ในข่าวตน ไม่ได้ไปแจ้งความก็เพราะว่าหากแจ้งแล้วตำรวจตามจับตัวได้ก็คงไม่ได้เงินคืน เพียงแค่อยากเตือนภัยให้ระมัดระวังกันเท่านั้น และอยากฝากถึงคนร้าย ยังหนุ่มและมือไม้ดีให้ไปหางานที่สุจริตทำจะดีกว่าไม่ใช่ตระเวนใช้แบงก์ปลอมมาซื้อสินค้ากับคนแก่อย่างตนเองระวังมันจะเป็นบาปกรรม