หนุ่มเจ้าของร้านประดับยนต์ ร้องจ๊าก เจ้าหนี้ 31 ราย ต้องจ่าย 4 หมื่นต่อวัน

13 มี.ค. 67

หนุ่มเจ้าของร้านประดับยนต์ ร้องจ๊าก  เจ้าหนี้ 31 ราย ต้องจ่าย 4 หมื่นต่อวัน นายอำเภอหางดงเข้าช่วย เป็นตัวกลางเจรจาไกล่เกลี่ยหาทางออกร่วมกัน 

จากกรณีเมื่อวันที่ 7 มี.ค. 67 นายเอ (นามสมมติ) อายุ 37 ปี เจ้าของร้านประดับยนต์แห่งหนึ่งใน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ร้องขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือจาก นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ หัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 สาขาจ.เชียงใหม่ และประธานสมาพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย 

เนื่องจากถูกแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบตามติด ข่มขู่ คุกคาม ทวงหนี้ถึงหน้าร้านทุกวัน ทำให้ลูกค้าหนีหาย และหวาดกลัว จนต้องปิดร้านหนี รวมทั้งเครียดถึงขั้นเกือบคิดฆ่าตัวตาย หลังจ่ายรายวันให้เจ้าหนี้ 31 ราย เป็นเงินรวมกันวันละ 40,000 บาทให้ทุกวัน นาน 2 เดือน รวมกว่า 1.4 ล้านบาทแล้ว แต่ยอดหนี้ 700,000 บาทไม่ลดลงเลย 

ต่อมาวันที่ 8 มี.ค. 67 พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้เชิญตัว นายเอ (นามสมมติ) เข้าพบให้ข้อมูล และรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการตรวจสอบดำเนินการ พร้อมยืนยันให้ความช่วยเหลือและความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ 

จากนั้นช่วงบ่ายวานนี้ (12 มี.ค.67 ) ที่ว่าการอำเภอหางดง จ.เชียงใหม่ นายชลิต ทิพย์คำ นายอำเภอหางดง เชิญตัวนายเอ (นามสมมติ) เข้าพบ เพื่อพูดคุยถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือ และความเป็นธรรม โดยมี พ.ต.อ.วีร์กวิน เสริมศรีธนชัย ผู้ผกก.สภ.หางดง ร.ต.อ.หญิงชญานิศ ภาชีรัตน์ อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย และการบังคับคดีจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทีมงาน และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอหางดง เข้าร่วมด้วย 

ซึ่งเบื้องต้นทางอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิฯ ได้แนะนำนายเอ (นามสมมติ) ว่า หากยังสามารถหาเงินมาชำระหนี้เงินกู้นอกระบบดังกล่าวได้ ให้ยุติการจ่ายไว้ก่อน ขณะเดียวกันให้รวบรวมข้อมูลหลักฐาน และรายละเอียดเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินมา และชำระคืนไปแล้วทั้งหมดให้ได้มากที่สุด เพื่อจะให้ช่วยเหลืออย่างถูกวิธี รวมทั้งเรื่องการดำเนินการ 

ด้าน พ.ต.อ.วีร์กวิน เปิดเผยว่า จากการสอบถามทราบว่า ผู้เสียหายได้กู้เงินจากเจ้าหนี้นอกระบบจำนวน 31 ราย เบื้องต้นทางตำรวจได้มีการดำเนินคดีกับผู้ให้กู้นอกระบบไปแล้ว 1 ราย ที่มีการข่มขู่ ส่วนอีก 30 ราย ไม่มีการข่มขู่ และทางผู้เสียหายประสงค์จะให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอ และทางตำรวจร่วมกันไกล่เกลี่ย เพื่อไม่ให้มีการมาข่มขู่คุกคาม หรือใช้ความรุนแรง ซึ่งผู้เสียหายได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว เพราะเกรงจะได้รับอันตราย ขณะที่จากการพูดคุยในวันนี้ทราบความประสงค์ของผู้เสียหายว่า ต้องการให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และตำรวจช่วยไกล่เกลี่ย โดยพร้อมชำระหนี้ในส่วนที่เหลืออยู่อย่างเป็นธรรม 

ขณะที่นายชลิต เปิดเผยว่า ในส่วนของตนได้ร่วมกับ ผกก.หางดง และอัยการคุ้มครองสิทธิ์ สอบถามรายละเอียดต่างๆ จากนายเอ( นามสมมติ) เท่าที่ทราบ รายนี้มีการกู้เงินผ่านเพจเฟซบุ๊ก ซึ่งมีการกู้ถึง 31 ราย มีวงเงินรวมกันประมาณ 700,000 บาท และมีการดำเนินการใช้ไปบางส่วน มีบางรายทวงถามหนี้ที่ผิดกฎหมาย ซึ่งทางตำรวจ สภ.หางดงอยู่ระหว่างการดำเนินคดี ส่วนรายอื่นก็จะเชิญมาหารือร่วมกันเพื่อที่จะไกล่เกลี่ยให้เป็นเงินกู้ที่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่มีการฝ่าฝืนกระทำผิดในเรื่องของการทวงถามหนี้ที่ผิดกฎหมาย ทางศูนย์ดำรงธรรมหางดงตำรวจและอัยการคุ้มครองสิทธิ์ก็จะเป็นตัวกลางในการที่ดำเนินการไกล่เกลี่ยให้

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส