วันนี้ (8 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 83/1 ม.3 บ้านซำเม็ง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายบุญมี อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี พร้อมด้วย นายบัวกัน อุ่นอ่อน อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.16 บ้านโนนเจริญ ต.เสาธงชัย ซึ่งเป็นน้องชายและญาติพี่น้องอีก 2 คน ได้ร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชนว่า น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี รับราชการในตำแหน่งผู้อำนวยการกองการศึกษา องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ชำ อ.กันทรลักษ์ ซึ่งเป็นลูกสาวของนายบุญเลิศ ได้หายตัวไปพร้อมด้วยรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กษ 8201 เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. 2560 ที่ผ่านมา ปล่อยทิ้งให้ลูกสาวอายุ 8 ขวบ อยู่กับพ่อและตายายมานานกว่า 1 เดือนแล้ว
นายบัวกัน อุ่นอ่อน อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้านโนนเจริญ อาของ น.ส.จุฑาภรณ์ กล่าวว่า น.ส.จุฑาภรณ์ที่หายตัวไปได้แต่งงานกับ นายวิทยา เกษแก้ว อายุ 37 ปี ทำงานเป็นต้นหนเรือเดินทะเลและมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน โดยทั้งสองคนได้ไปเช่าบ้านพักอาศัยอยู่ที่หลัง ธ.ก.ส. อำเภอกันทรลักษ์ ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต่อมาเมื่อวันที่ 3 ก.ค. หลังจากที่ น.ส.จุฑาภรณ์ไปส่งลูกสาวที่โรงเรียนอนุบาลดำรงราชานุสรณ์แล้ว พอช่วงตอนเย็นของวันเดียวกัน น.ส.จุฑาภรณ์ได้โทรศัพท์แจ้งให้นายบุญมี อุ่นอ่อน ซึ่งเป็นตา ให้ไปรับลูกสาวให้ด้วย
หลังจากนั้น น.ส.จุฑาภรณ์ได้หายตัวไปโดยไม่ยอมรับโทรศัพท์จากครอบครัว ญาติพี่น้องอีกเลย ซึ่งนายบุญเลิศ พ่อของ น.ส.จุฑาภรณ์ ได้ไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บึงมะลู เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 60 เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตาม น.ส.จุฑาภรณ์ ให้ด้วย โดยก่อนหน้านี้มีนายทหารคนหนึ่งปฏิบัติหน้าที่ใกล้เขาพระวิหาร ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับ น.ส.จุฑาภรณ์ ทั้งที่นายทหารคนดังกล่าวมีภรรยาอยู่แล้ว
หลังจากที่น.ส.จุฑาภรณ์หายตัวไป จากการตรวจสอบบัญชีเงินฝากธนาคารของ น.ส.จุฑาภรณ์ พบว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของแม่นายทหารคนดังกล่าวหลายครั้ง รวมทั้งมีการส่งไลน์มาขอให้ญาติพี่น้องโอนเงินให้ครั้งละ 20,000 บาท จำนวนหลายครั้ง รวมแล้วเป็นเงินกว่า 300,000 บาท โดยที่ น.ส.จุฑาภรณ์ ไม่ยอมรับโทรศัพท์ของญาติพี่น้องแต่อย่างใด
นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี พ่อของน.ส.จุฑาภรณ์ กล่าวด้วยน้ำตาว่า ตนคิดถึงลูกสาวมาก เพราะว่าไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้มาก่อนเลย ตนคาดว่าลูกสาวคงเสียชีวิตแล้ว เนื่องจากว่าขาดการติดต่อเป็นเวลานานกว่า 6 สัปดาห์โดยปกติ น.ส.จุฑาภรณ์ เป็นคนที่รักลูกสาวมาก
เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น จึงคาดว่าลูกสาวอาจจะโดนคนมีสีอุ้มไปฆ่าล้างหนี้ เพราะเคยเข้าไปทวงหนี้กับคนมีสีคนหนึ่งที่ยืมเงินไปจำนวนมาก แล้วไม่ยอมส่งคืน เนื่องจากคนมีสีดังกล่าวมีพฤติกรรมในการติดการพนันฟุตบอลอย่างหนัก และมีหนี้สินรุงรังอีกทั้ง
ขณะที่หายตัวไปมีการโอนเงินจากบัญชีของน.ส.จุฑาภรณ์เข้าบัญชีของคนมีสีดังกล่าวอีกด้วย ตนจึงขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามลูกสาวของตนให้ด้วย และหากว่า น.ส.จุฑาภรณ์ ยังมีชีวิตอยู่ขอให้ติดต่อกับครอบครัวโดยด่วน เนื่องจากว่าพ่อแม่ญาติพี่น้องทุกคนโดยเฉพาะลูกสาวของน.ส.จุฑาภรณ์คิดถึงแม่มากนอนร้องไห้ทุกคืน
ทางด้าน พ.ต.อ.ฉัตรพัฒน์ แก้วจันดี ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า เรื่องนี้ทางชุดสืบสวนภาค 3 ร่วมกับชุดสืบสวนภ.จว.ศรีสะเกษได้มาร่วมกันสืบสวนอย่างเต็มที่ เพื่อตามหาน.ส.จุฑาภรณ์ ขณะนี้ได้เบาะแสสำคัญหลายส่วนแล้ว เพื่อสรุปประเด็นว่าน.ส.จุฑาภรณ์หายตัวไปเพราะสาเหตุใด อีกทั้งทราบเบาะแสว่ารถเก๋งของน.ส.จุฑาภรณ์มีการโอนลอยเอาไว้ไม่ทราบว่าเอาไปขายแล้วหรือไม่อย่างไร ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังเร่งดำเนินการสืบสวนอย่างเต็มที่เพื่อหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ส่วนจะมีการเกี่ยวพันกับผู้ใดบ้างนั้นต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐานและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป