บุกจับแก๊งค้ายาบ้าเทพ คารถบรรทุกปูน 10 ล้านเม็ด มูลค่า 300 ล้านบาท!

18 มี.ค. 67

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถบุกจับแก๊งยาบ้าเทพ ที่ซ่อนยาบ้าไว้ในรถบรรทุกปูนผง 10 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท!

ช่วงเช้าของวันที่ 17 มีนาคม 67 เจ้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดสระบุรีร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 1, ภูธรจังหวัดลพบุรี และสำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 1 โดยนางจีระพรรณ กาญจนประดิษฐ์ ผอ.ปปส.ภาค 1 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกนายในสังกัดบูรณาการร่วมกันสืบสวนจับกุมบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังสระบุรีได้รับราบงานจากสายว่า จะมีแก๊งค้ายาบ้าลำเรียงยาบ้าจากภาคเหนือ เข้าสู่ภาคกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามรถต้องสงสัย เป็นรถบรรทุกปูนผง ทะเบียน จ.สระบุรี ใช้ขนยาบ้า โดยมีรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าแจ๊สสีขาวทะเบียน จ.สระบุรี คอยสำรวจเส้นทางด่านตรวจยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตำรวจได้ขับรถติดตามมาบนถนนสายเอเชีย(สายเหนือ) มุ่งหน้าเข้า จ.ลพบุรี และ จ.สระบุรี ช่วงเข้าสู่รอยต่ออำเภอเมืองลพบุรีกับ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรีผู้ต้องหาเกิดไหวตัวทัน ขับรถหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามมามาถึงบริเวณถนนบายพาส ลพบุรี ต.ป่าตาล อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี จึงได้เข้าสกัดรถนำทางกับรถบรรทุกปูน โดยคนขับรถปูนได้วิ่งหลบหนีลงไปข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจวิ่งติดตามจับกุมตัวไว้ได้ และได้เข้าตรวจค้นรถบรรทุกปูนผง 22 ล้อ พบยาบ้าจำนวน 50 กระสอบ ซุกซ่อนอยู่ในถังใส่ปูนผง บรรจุกระสอบละ 2 แสนเม็ด รวม 10 ล้านเม็ด และนำยาบ้าไปตรวจนับที่ สภ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี และนำตัว นายวสันต์ กุลดวงจันทร์ หรือจ้อ อายุ 33 ปี ขับรถบรรทุกปูนผงและนายยศพล กุลดวงจันทร์ หรือเท่ห์ อายุ 30 ปี คนขับรถเก๋งนำทางมาสอบสวนขยายผลที่ สภ.พระพุทธบาท พร้อมนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ส่งบันทึกการจับกุมที่ สภ.เมืองลพบุรี ที่เป็นพื้นที่จับกุมตัวได้ นายวสันต์ หรือจ้อ จะได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 300,000 บาท และนายยศพล หรือเท่ห์ จะได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 10,000 บาท

นายวสันต์ และนายยศพล ทำหน้าที่ในการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือเพื่อลงมาส่งมอบให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ตอนในของประเทศ

การจับกุมเครือข่ายยาเสพติดทีมลำเลียงซึ่งใช้ชื่อแก๊งเทพสองคอน เป็นชาวอำเภอแก่งคอย จ.สระบุรี ขนปูนบังหน้ายึดของกลางยาบ้าจำนวน 10,000,000 เม็ด มูลค่ากว่า 300,000,000 บาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะขยายผลถึงกลุ่มลูกค้าผู้สั่งการและบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดรวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดโดยจะนำมาตรการสมคบสนับสนุนช่วยเหลือฟอกเงินและยึดทรัพย์สินมาใช้ดำเนินการกับบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหานายวสันต์  และนายยศพล ว่ากระทำผิดฐานร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และกล่าวหานายวสันต์ เพิ่มเติมว่ามีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส