"น้ำเพชร อิสรีย์" เปิดใจ! ชวดมง miss fabulous Thailand เพราะ "พวงหรีด" ?

น้ำเพชร อิสรีย์ ควง อาไท เปิดใจ! ชวดมง miss fabulous Thailand เพราะ “พวงหรีด” ยันยังรักกันดี ไม่เลิกตามที่ลือ

 
บอกเลยว่า ณ ตอนนี้นางงามเวทีไหนก็ไม่ร้อนแรงจนติดเทรนด์เท่านางงามเวที miss fabulous Thailand หรือ ฟ้าบุญเลิศ ที่เพิ่งตัดสินไปเมื่อวานก่อน ซึ่งหนึ่งในนั้นที่ต้องพลาดมงเพราะกติกาของเวทีอย่าง  “น้ำเพชร อิสรีย์” ที่พอหลังจากพิธีกรประกาศ เจ้าตัวถึงกับปล่อยโห เพียงเพราะโดนตัดคะแนนจาก “พวงหรีด” รวมไปถึงชาวเน็ตก็เป็นงง ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าตัวคะแนนนำเป็นที่หนึ่งในเกือบๆ ทุกแคมเปญ และในรายการ “คุยแซ่บshow” เจ้าตัวพร้อม “อาไท กลมกิ๊ก” ก็ควงกันมาเปิดใจเรื่องนี้ รวมไปถึงเรื่องว่ายังรักกันดีอยู่จริงไหม เพราะที่ผ่านมาไม่ได้เห็นรูปคู่ของทั้งสองคนแล้ว

 
5 เดือนที่ผ่านมา ที่คบกันค่อนข้างหนักหน่วง?
อาไท : สิ่งที่มีปัญหากันบ่อยคือเรื่องความคิดแหละครับ และก็นิสัยพื้นเดิมของแต่ละคนก็ทำให้มีปัญหากัน
น้ำเพชร : อย่างที่บอกว่าเพชรเป็นคนลูกคนโต แทบจะเป็นหัวหน้าครอบครัว เราทำงานมาแต่เด็กด้วยกันทั้งคู่ เรามีความคิดของการเป็นผู้นำทั้งคู่ มีการถกเถียงกันตลอด ส่วนใหญ่จะเถียงเรื่องงาน ทำงานร่วมกันก็จะทะเลาะกัน
อาไท : ทะเลาะกัน บางทีก็มีเสียน้ำตา เสียทั้งคู่ แต่เราเสียบ่อย เพราะเราเป็นคนอ่อนไหว ซึ่งก็ไม่มีใครชนะ เพราะเวลาผ่านไป ก็จะลืมมัน ซึ่งก็แล้วแต่เรื่อง

 
แต่  “อาไท” คือคลั่งรักหนักมาก?
อาไท : ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาไม่เคยลดลง ผมติดเขามาก ซึ่งถ้าเป็นผู้หญิงทั่วไป เขาคงอึดอัด ถ้าเขาทำงานเราจะไม่ยุ่ง แต่ถ้าเราทำงาน เราก็อยากให้เขาไปกับเรา แต่ถ้าเขาไม่ทำงาน อยากให้เขาอยู่กับเรา ผมเป็นคนเพื่อนน้อย ทั้งหมดของผมคือเขา เลิกงานเราโทรหาเขาเลย แต่เราก็จะน้อยใจเมื่อเวลาเราโทรหา และเขาอยู่กับเพื่อนเขา เพราะทั้งหมดเราอยากให้เขาอยู่กับเราตลอดเวลา แค่เห็นเขาอยู่ในสายตา เราก็สบายใจแล้วครับ ไม่อยากให้คาดสายตา

น้ำเพชร : ถามว่ารำคาญบ้างไหม แต่ก็มีบ้าง ขนาดเขาอยู่ชั้น 1 และหนูอยู่ชั้น 3 ก็ไม่ได้นะ เขาโทรตามหยิกๆ เราก็อยากอยู่คนเดียวบ้าง (ยิ้ม) เราเป็นคนโลกส่วนตัวสูง อีกอย่างเราชอบทำคอนเทนส์อยู่แล้ว เวลาเราเต้น เราก็ไม่อยากให้เขาเห็นเยอะ เราก็อายบ้าง หรือบางทีเรารีวิวเครื่องสำอาง เขาก็บอกว่าไม่สนใจเขาเลยนะ เราก็เลยบอกไปว่าขอเวลาแป๊ปนึง หลังเราก็ตกลงกันได้ และเราก็มาผสานมาเป็นโลกของเราทั้งสองคน
อาไท : อย่างที่บอกว่าผมไม่มีเพื่อน ก่อนหน้านี้ไม่มีแฟน ผมเป็นคนโลกส่วนตัวสูง ชอบทำอะไรคนเดียว แต่พอมาคบกับเขา โลกของเรามีเขาไปซะหมดเลย ขนาดกินข้าวคนเดียวก็ไม่ได้ พะอืดพะอม (แสดงว่าขี้หึงมาก?) มากถึงมากที่สุดเลยครับ หวงทุกอย่าง ใครเป็นผู้ชายเข้ามา ผมถามก่อนเลยว่าคนนี้ใคร

 
ล่าสุดเราเป็นสปอนเซอร์?
อาไท : ไม่ถึงเป็นสปอนเซอร์แต่อย่างใดหรอกครับ ผมก็แค่ร่วมโหวตให้คะแนน
น้ำเพชร : โหวตให้เยอะมาก เราก็บอกเขาไปว่าฉันอยากได้ที่หนึ่งจังเลย มันก็มีพี่ๆ ที่ช่วยกันโหวตอยู่แล้ว และตัวเขาก็บอกว่าขาดอีกเท่าไร ก็ใส่มาอีก 2 หมื่น นอกจากโหวตแล้ว ก็ยังทำป้ายไฟ และดูแลเรื่องด้อมด้วย

อาไท : และผมมีพี่น้องก็ช่วยดูแลเขาและดูแลด้อมของเขาด้วยแต่สิ่งที่ยากสุดคือรับอารมณ์ พอเขาประกวด เขาจริงจัง เขาอาจจะมีงอแงกันบ้าง เอาแต่ใจบ้าง ก็บอกกับตัวเองว่าอย่าเพิ่ง ยังไม่ถึงเวลาเถียง ให้ประกวดให้จบก่อน ถ้าเราทะเลาะกัน เขาจะประกวดแบบไม่มีความสุข และผมไปปรึกษาพี่เกลือ ปรึกษาว่าผมกับแฟนทะเลาะกันบ่อยมากเลย พี่เกลือถามว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร ผมก็บอกไปเรื่องที่ผมเถียงเขาเนี่ยแหละ พี่เกลือก็เลยบอกไปว่าไม่ใช่ทั้งสองคนไม่นิ่ง คนที่ไม่นิ่งคือตัวผมเอง เพราะถ้าตัวผมนิ่งมากกว่าพอ ก็จะไม่เถียงเขา และแฟนเองก็จะมีความสุข ตัวผมเองก็มีความสุข เราก็นิ่งขึ้น

 
นอกจากเขาเป็นสปอนเซอร์แล้ว เขายังช่วยซัมพอร์ตในเรื่องของความคิดยังไง?
น้ำเพชร : เรื่องแรกก่อนเลย ซีนแนะนำตัว เขาก็แนะนำให้เราพูด แต่เราก็ไม่ได้ใช้และซีนที่ใส่ชุดว่ายน้ำ เขาก็ให้ควงกระบอง 2ท่อน เขาเป็นคนสอนให้ควง เพราะเขาเคยควงมาก่อน
อาไท : เวลาผมสอน เราจะจริงจังนิดนึง เราอยากให้เขาทำได้
 
miss fabulous Thailand หรือ ฟ้าบุญเลิศ ดราม่าสนั่นทำเราไม่มง?
น้ำเพชร : เราไม่รู้ว่าจะมงหรือไม่ง แต่มันคืองานนึง ที่เราต้องทำให้สมบูรณ์แบบมากที่สุด ไม่ให้กลับมามองแล้วเราเสียดาย แต่กระแส เราไม่สามารถไปห้าใครได้ ว่าจะวิจารณ์กันยังไง เป็นเรื่องของชาวเน็ตที่ถกเถียงกัน บางคนก็เสียดายแทนเรา ซึ่งเราไม่เสียใจแต่เราเสียดายนิดนึง
 
หรือเพราะกติกาเรื่องของพวงหรีด?
น้ำเพชร : คือเขาเก็บคะแนนหลายส่วนมาก ตั้งแต่ปลายปี 25%และไฟนอล 25% และคะแนนโหวตในแอฟ 30% ยอดขายในติ๊กต๊อกอีกและคะแนนที่เพิ่งรู้หน้างานคือการเอาพวงหรีดที่ไม่ให้คนไหนมง เราก็เอาไปให้เขา เพื่อเป็นการลดคะแนน เราโดนไป 5 หมื่น เพราะสปอนเซอร์คือเจ้าของร้านพวงหรีด เป็นพวงหรีดจากการรียูช แต่เพชรก็ไม่เห็นด้วยกับการลดคะแนนนะ เพราะเราก็ตั้งใจทำทุกแคมเปญให้มันได้ที่ 1 มาโดยตลอด แต่มันเป็นแคมเปญที่เวลาเขาจัดขึ้นมา เราก็ต้องยอมรับผล เราก็เข้าใจ ซึ่งที่ทุกคนเห็นเราปล่อยโห คือมันเสียใจนะ เราเป็นรองมาโดยตลอด เราไม่เคยได้มงเลยนะ ครั้งนี้เราทำเต็มที่ เวทีนี้มันก็ตอบโจทย์จริตของเราด้วย เราก็อยากจะมงในที่ๆ เป็นของเราด้วย แต่สุดท้ายไม่มง เราก็เสียใจ หรือเราไม่เหมาะกับการเป็นนางามหรือเปล่า

 
พอมงไม่ลง แล้วคนอื่นว่ายังไงบ้าง?
น้ำเพชร : ถ้าเอาโมเม้นท์ตอนนั้นก่อน เราช็อคมาก เราไม่ได้เตรียมใจไว้ เพราะเราทำเต็มที่ทุกๆ แคมเปญเพื่อเอาที่หนึ่ง แต่พอมันไม่ได้ เราผิดหวัง เสียใจ แต่มันใช้เวลาไม่ได้ที่จมอยู่กับตรงนั้น พอจบงาน เราก็สามารถเคลียร์ตัวเองได้เลย ซึ่งคนในงานก็ไม่มีใครเห็นด้วยกับกติกานี้ แต่สุดท้ายมันก็เหมือนเกมส์ๆนึงเท่านั้น ก็ต้องยอมรับเท่านั้นเอง
อาไท : ตอนนั้นผมรู้สึกว่า เรายอมรับ เขาตัดสินใจมาแล้ว ก็เดินไปบอกเขาว่า มันก็ไม่เป็นไรหรอก ไหนๆ ก็ชวดแล้ว ก็มีฉลุ ขาล เถาะ เราอยากให้เขาแข็งแรง

น้ำเพชร : เขาก็พูดว่าเราเต็มที่มากเลย เราสวยมากเลย อย่างน้อยเราเต็มที่แล้ว ไม่มีอะไรจะต้องเสียใจแล้ว
อาไท : ก็บอกเขาไปว่าคิดซะว่าเขาจ้างเราไปทำงาน เขาจ้างเราไปแล้ว ทำออกมาให้ดีที่สุด ทุกคนจะได้เห็นว่าคุณทำดีมากที่สุดแล้ว แต่ชาวเน็ตก็แซวว่าน้ำเพชรดีจัง มีพ่อมาเชียร์ด้วย (หัวเราะ) ซึ่งจริงๆ คือผมครับ เราทำผมด้วย คนเลยบอกว่าน้ำเพชรน่ารักจังมีพ่อมาเชียร์ด้วย  

 
ยืนยันว่ายังรักกันดีอยู่หรือว่าเลิกกันแล้ว?
น้ำเพชร : ยังรักกันดีอยู่ค่ะ ยังคบกันอยู่ เป็นแฟนกันจริงๆ
อาไท : ที่ผ่านมาอาจจะมีทะเลาะกันบ้าง หรือว่าแยกกันบ้าง แต่แค่เวลาสั้นๆ 2 วัน ซึ่งเราก็ฟุ้งซ่าน ขาดเขาไม่ได้ อยู่ไม่ได้ (ยิ้ม) ก็ง้อกัน สลับกันไปมา (ไม่รู้รักแค่ไหน แต่ทาเล็บเป็นชื่อน้ำเพชร ) ผมชอบทาเล็บมาก แต่เขาบอกว่าทาทำไม อยู่แบบสะอาดก็ได้ พอวันที่เขาซ้อม ผมก็แอบไปทาเล็บ และเพ้นท์เป็นชื่อเขาด้วย เขาเห็นแล้ว เขาก็ดีใจที่เป็นชื่อเขา และอีกอย่างที่เราจริงจังก็พาไปหาพ่อของผมด้วย พ่อผมพูดคนเดียว ทำให้น้ำเพชรไม่ได้พูดเลย (หัวเราะ)
น้ำเพชร : คุณพ่อเขาก็โพสต์เชียร์เราด้วย

อาไท : คือที่เขาชอบก็คงจะภูมิใจที่กล้ามาคบกับลูกเขามั้ง เขาก็เลยรักเป็นพิเศษ
น้ำเพชร : เขาจะชอบน้อยใจ เพราะชาวเน็ตชอบพูดว่าคบคนไม่หล่อ แต่เราก็จะบอกว่าที่คบไม่เกี่ยวกับหน้าตา แต่เขาหล่อไปทั้งข้างใน จิตใจเขาก็ดีด้วย ไปไหนก็มีคนรัก ขนาดยามยังรักเลย
 
วางแผนอนาคตยังไง?
น้ำเพชร : วางแผนรายวันเลย ช่วงนี้เราทำงานเยอะ และเราชอบทำงานในวงการบันเทิง และก็มีคอนเทนส์ที่ต้องทำคู่กันด้วย
อาไท : ที่บอกว่ารายวันคือ แค่ไม่ทะเลาะกันก็พอแล้ว ที่ผ่านมาเราทะเลาะกันบ่อย จนตอนนี้แค่คิดว่าเรารักกันก็พอแล้ว ตื่นมาให้มันรักกันมากกว่าเดิม เท่านั้นเอง
น้ำเพชร : ตอนนี้ความรักเราดีขึ้น อาไทอายุ 22 และเราอายุ 27 แล้ว ความนิ่งมาก ซึ่งอาไทอาจจะมีความอ้อนมาก  แต่ก็ปรับตัวไปเรื่อยๆ