สส.ก้าวไกล ลงพื้นที่ดูปัญหาหญ้าทะเล หลัง พะยูนตรังลดจำนวน ชี้ฝ่ายค้านเชิงรุกทำงานร่วมทุกฝ่าย เตรียมนำข้อมูลอภิปรายเสนอแนะต่อในสภาฯ
วันที่ 20 มี.ค. 67 ที่เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง นาย นิติพล ผิวเหมาะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ร่วมกับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จากกรณี พะยูนตายเกยตื้น และปัญหา หญ้าทะเลที่ลดจำนวนลงจนส่งผลกระทบต่อประชากร พะยูนในพื้นที่
นายนิติพล ระบุว่า ปัญหาหลักที่ได้ลงมาศึกษาก็คือเรื่องของ หญ้าทะเล แหล่งอาหารหลักของ พะยูนที่มีจำนวนลดลงอย่างมาก ส่งผลต่อวิถีและจำนวนประชากร พะยูนที่ลดลง กลายเป็นปัจจัยหนึ่งที่นำไปสู่ความตายของ พะยูนดังที่ปรากฏเป็นข่าวเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว
อาจสรุปได้ว่าความเสียหายที่เกิดกับ หญ้าทะเลนั้นมาจากสองส่วนด้วยกัน ส่วนหนึ่งคือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ และการกระทำของมนุษย์ โดยในแง่ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ วันนี้ที่ตนได้ลงพื้นที่และได้ได้สัมผัสมากับตัวโดยตรง ก็คือความแปรปรวนของกระแสน้ำ จากสองจุดห่างกันไม่ถึง 200 เมตร พบว่ามีอุณหภูมิน้ำที่แตกต่างกันมาก ซึ่งแน่นอนว่านำไปสู่การเปลี่ยนสมดุล จนเป็นส่วนหนึ่งที่หญ้าทะเลไม่สามารถเติบโตแพร่พันธุ์ได้
นายนิติพล กล่าวต่อว่า อีกส่วนหนึ่งคือการกระทำของมนุษย์ ทั้งการปล่อยมลพิษทั้งทางตรงและทางอ้อมลงสู่ทะเล หรือการสร้างสิ่งก่อสร้างแข็งหรือการขุดลอก การถม ฯลฯ ที่มีผลทำให้เปลี่ยนทิศทางของน้ำ ขณะเดียวกัน เมื่อหันกลับมาทางภาครัฐ ต้องยอมรับว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดขาดแคลนจริงๆ โดยเฉพาะงบประมาณ ทำให้การทำงานของหน่วยงานที่ต้องสู้กับทั้งปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมที่เกิดจากน้ำมือของมนุษย์ กลายเป็นเรื่องที่ยากขึ้นกว่าเดิม
นายนิติพล กล่าวอีกว่า สำหรับข้อมูลทั้งหมดที่ตนได้มาในวันนี้ จะได้มีการนำไปอภิปรายในสภาฯ เพื่อให้เกิดมาตรการดังกล่าวขึ้นต่อไป ซึ่งตนต้องขอขอบคุณกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพราะหลังจากที่ สส. ฝ่ายค้านได้สื่อสารออกไปในการอภิปราย หรือสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ กระทรวงก็ได้ประสานงานให้ลงพื้นที่ดูหน้างานด้วยกันทันที นับเป็นการตอบรับที่ดีจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ
“การทำงานร่วมกันของเราในวันนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่าฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลทำงานร่วมกันได้ ลงพื้นที่ร่วมกัน รับฟังพูดคุยกัน มีข้อเสนอแนะแลกเปลี่ยนกัน นี่คือการทำงานในแบบที่ พรรคก้าวไกลอยากจะทำในฐานะฝ่ายค้านเชิงรุก เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน” นาย นิติพล กล่าว