เพจเป็นหนึ่ง ช่วยเด็ก 3 เดือน เพื่อนบ้านร้องพ่อติดน้ำท่อม เสพติดความรุนแรง ตีเมีย แล้วเมียประชดลงที่เด็ก
จากกรณี เพื่อนบ้านร้องมาทางเพจเป็นหนึ่งว่ามีหญิงสาววัย 19 ปี มีลูกน้อยอายุ 3 เดือน ทะเลาะกับสามีบ่อยๆ มักจะลงข้อความ โพสต์หน้าเฟชบุ๊กจะทำร้ายลูก จะตีลูก จะหยิกลูก เพื่อประชดสามีเป็นประจำและสามีดื่มน้ำกระท่อมและเสพกัญชา ชาวบ้านเป็นกังวลกลัว พ่อกับแม่จะทำร้ายลูก
ล่าสุดทางคุณต้นอ้อ เป็นหนึ่ง หรือ ชลิดา พะละมาตย์ เจ้าของเพจเป็นหนึ่ง ลงพื้นที่พร้อมบ้านพักเด็กกรุงเทพมหานคร พม.และตำรวจสายตรวจ สภ.หลักสอง ได้เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง และช่วยเหลือเด็กให้อยู่ในความปลอดภัยก่อน
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพร้อมกับทีมงานเป็นหนึ่งที่ ชุมชนริมคลองราชมนตรี ซอยเพชรเกษม 62/1 เขตบางแค กทม.ได้พบพ่อแม่และลูกน้อยวัย 3 เดือน เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้เชิญตัวทั้งคู่เดินทางไปให้การที่สน.หลักสอง
ผู้สื่อข่าวได้พยายามเข้าไปสอบถามกับ ผู้เป็นแม่ ที่กำลังอุ้มลูกน้อยอยู่ในอ้อมแขน แต่ปรากฏว่าผู้เป็นแม่ได้แต่เงียบไม่ยอมตอบคำถามสื่อ
ระหว่างที่นายเอ (นามสมมติ) อายุ 27 ปี ผู้เป็นพ่อกำลังเดินออกมาจากชุมชน ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปพูดคุยสอบถามถึงข้อเท็จจริงดังกล่าว นายเอ อาชีพไรเดอร์ เปิดเผยว่า ตนไม่เคยทำร้ายลูกน้อย ที่ผ่านมาเลี้ยงลูกมาเป็นอย่างดีตลอด ส่วนแฟนสาวเท่าที่เห็นไม่เคยทำร้ายลูก มีแค่เมื่อวานนี้ (24 มี.ค.67) ตนเห็นแฟนสาวแกว่งเปลลูกแรงๆ เพราะโมโหลูก เรื่องดังกล่าวนี้จึงทำให้ตนทะเลาะกับแฟนสาว ถึงขนาดแฟนสาวเดินไปคว้ามีดทำครัวจะแทงตนแต่ทำไม่สำเร็จ ซึ่งอาจทำให้ชาวบ้านได้ยินเสียงแล้วเป็นกังวล จึงไปแจ้งให้ทางเพจเป็นหนึ่งทราบ ซึ่งส่วนตัวแล้ว ตนไม่ได้มีปัญหากับเพื่อนบ้านแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายเอต่อว่าได้มีการใช้สารเสพติดด้วยหรือไม่ นายเอ ตอบว่า ตนดื่มน้ำท่อมและเสพกัญชาจริง โดยเสพมานานสักพักแล้ว แต่ยืนยันไม่ได้เสพสารเสพติดอื่น ส่วนแฟนสาวก็ไม่ได้ดื่มหรือเสพแต่อย่างใด
ส่วนเรื่องที่แฟนสาวโพสต์จะทำร้ายลูกนั้นตนยังไม่เห็น หากโพสต์จริงอาจจะเป็นเพราะว่าต้องการประชดตน และคงไม่กล้าทำจริง เพราะว่า ส่วนใหญ่เวลาที่ทะเลาะกัน ตนจะลบไลน์แฟนสาวทิ้ง ไม่อยากทะเลาะกลัวโมโหมากกว่าเดิม เนื่องจากแฟนสาวเป็นคนอารมณ์ร้อน
ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ตนกับแฟนสาวมีเชื้อเอชไอวีอยู่ในร่างกาย ซึ่งเชื้อดังกล่าวมีอยู่ก่อนตั้งท้อง ซึ่งการตั้งท้องครั้งนี้ยอมรับว่าพลาดที่ไม่ได้ป้องกัน แต่เป็นตนเองที่ดื้อรั้นไม่ยอมให้แฟนสาวไปทำแท้ง เพื่อเอาลูกออก ซึ่งจนถึงตอนนี้ ลูกน้อยก็ยังไม่ได้มีอาการอะไรออกมาให้เห็น สุดท้ายนี้ตนอยาก เก็บลูกไว้เลี้ยงเอง ตนมั่นใจว่าเลี้ยงได้ ไม่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำลูกไปเลี้ยง
ต่อมาที่สน.หลักสอง พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพ่อกับแม่ของเด็กอย่างละเอียด เพื่อหาข้อเท็จจริงถึงเรื่องดังกล่าวต่อไป
หลังจากนั้นทาง “ นายเรืองศักดิ์ กลับเนียม“ พนักงานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ โดยที่เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ของ พม.จะมีการนำไปดูแลเป็นระยะเวลา 1 เดือน ส่วนเรื่องที่เค้าเองจะมีอาการป่วยจะต้องเข้ารับการรักษาหรือในส่วนของบำบัดเกี่ยวกับเรื่องของยาเสพติดในประเด็นนี้ ตนก็ต้องประสานกับทางโรงพยาบาลอีกครั้ง ส่วนเรื่องของการทำร้ายร่างกายเบื้องต้นยังไม่พบร่องรอย คาดว่าอาจจะเป็นด้วยภาวะหลังคลอดรวมไปถึงในส่วนของสามีหลังเกิดเรื่องก็อาจจะมีการออกจากพื้นที่ เพื่อระงับอารมณ์ทำให้ทางฝ่ายหญิงไม่พอใจเลยเป็นการโพสต์ระบาย
ด้าน “ นางสาวชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ ” ทีมงานเป็นหนึ่ง เปิดเผยว่า ส่วนตัวได้รับแจ้งจากเพื่อนบ้านในระเเวกใกล้เคียงว่าก่อนหน้านร้ทางสามีและภรรยารายดังกล่สว มักจะใช้ความรุนแรงและมีการทะเลาะวิวาทกันบ่อยครั้ง ทางฝ่ายภรรยาจะชอบใช้ความรุนแรง ซึ่งฝ่ายผัวก็จะพยายามแยกตัวออกจากบ้านเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ แต่ฝ่ายเมียไม่เข้าใจ เนื่องจากอยู่ในภาวะซึมเศร้าหลังคลอดและอาละวาดหนักกว่าเดิม จนถึงขนาดมีการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่าจะมีการขู่ทำร้ายลูก หลังจากนี้เรื่องราวที่เกิดขึ้นจะมีข้อเท็จจริงอย่างไร ก็คงเป็นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบ ยอมรับว่าในห้องสอบสวนทั้งคู่เองก็ยังไม่พูดความจริงและอ้างว่าไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายลูก ส่วนเรื่องน้ำกระท่อมและกัญชา เขายอมรับว่าเสพจริง
แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าทั้งคู่เองจะไม่ได้ทำร้ายลูก แต่มองว่าสภาวะรวมถึงสถานการณ์แบบนี้ ตนมองว่าเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันอาจจะเกิดขึ้นได้ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้ ส่วนเรื่องของยาเสพติดนั้นนอกเหนืออย่างอื่นก็ต้องให้ตำรวจตรวจสอบ ตอนนี้ทางเพจทำได้แค่ประสานให้กรมกิจการเด็กและเยาวชนรับตัวเด็กไปไว้ที่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนปากเกร็ดก่อน.
_1.jpg)
