พบแล้ว นิสิตสาว ม.นเรศวร ที่หายตัวไป พบเป็นศพลอยอยู่ในแม่น้ำน่าน พ่อเผยคุยครั้งสุดท้าย ยังไม่กลับบ้านเพราะติดงานโปรเจค
วันนี้ (26 มี.ค.67) เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยพิษณุโลก ชุดปฏิบัติการกู้ชีพกู้ภัยทางน้ำ มูลนิธิประสาทบุญสถาน ว่าพบศพลอยน้ำในแม่น้ำน่าน บริเวณบ้านวังวน หมู่3 ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก พบศพผู้เสียชีวิตลอยน้ำ
จึงนำร่างขึ้นมาจากน้ำแล้วแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมแพทย์เวรได้เข้าตรวจร่างผู้เสียชีวิต โดยมีญาติของ นางสาวธีราภรณ์ หรือ น้องธี อายุ 23 ปี นิสิตชั้นปี 4 ม.นเรศวร ที่หายตัวไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2567 มาร่วมสังเกตุการณ์ด้วย ซึ่งในช่วงเช้าหลังวันที่หายตัวไปมีผู้พบ รองเท้า กระเป๋าเงิน และโทรศัพท์ วางไว้อยู่บนสะพานข้ามเแม่น้ำน่านบริเวณนี้
นายปรีชาวุฒิ ม่วงบ้านยาง เจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัย พิษณุโลก เปิดเผยว่า มูลนิธิประสาทบุญสถาน ได้รับการแจ้งขอความช่วยเหลือจากญาติให้ช่วยตามหาทางน้ำ จึงได้นำเอาเรือท้องแบนออกตระเวนเลาะดูตลอดแนวแม่น้ำน่านไปหลายกิโลเมตร ตั้งแต่ช่วงสายของวันนี้ แต่ก็ไม่พบ จึงได้เปลี่ยนวิธีเป็นการใช้เรือท้องแบนขับวนตีน้ำแม่น้ำน่าน ที่มีความลึกประมาณ 5 เมตร ให้เกิดคลื่นน้ำ เพื่อช่วยกระตุ้นดึงร่างผู้เสียชีวิตที่อยู่ในใต้น้ำให้ลอยขึ้นมา จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.40 น.ได้พบศพลอยอยู่ห่างจากสะพานข้ามแม่น้ำน่านบริเวณนี้ประมาณ 2 กิโลเมตร
เบื้องต้นแพทย์เวรได้ทำการถ่ายภาพศพ เก็บหลักฐานเบื้องต้น พร้อมทั้งให้ญาติยืนยันว่าศพผู้เสียชีวิตคือน้องธี ที่หายตัวไป ซึ่งทุกคนยืนยันตัวตนว่าคือน้องธีจริง จากนั้นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพิษณุโลก นำร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ก่อนส่งศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนา
จากการสอบถามนายไมตรี พ่อของน้องธี ที่เดินทางมาพร้อมญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตจากบ้านห้วยทรายเหนือ หมู่ 6 ตำบลห้วยเฮี้ย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ทราบว่า ทางญาติเพิ่งมาทราบภายหลังเกิดเหตุว่าผู้ตาย มีอาการป่วยด้วยโรคซึมเศร้า เพราะว่ามีการตรวจพบยารักษาโรคที่ห้องพัก ส่วนสาเหตุของการกระโดดน้ำฆ่าตัวตายในครั้งนี้ พ่อของน้องธีบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ แม่ได้โทรไปสอบถามลูกสาวว่าปิดเทอมแล้วทำไมยังไม่กลับบ้านเหมือนคนอื่นๆ แต่น้องธีบอกว่า เธอต้องทำโปรเจคเพื่อให้จบการศึกษาก่อน โดยไม่ทราบมีเรื่องอื่นหรือไม่
หลังจากทำการชันสูตรพลิกศพที่โรงพยาบาลพุทธชินราช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง เพื่อให้ญาติสิ้นสงสัยแล้วจะได้นำส่งศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาศนาต่อไป.
