ไม่ตรงปก! พระครูปลัดวัย 32 ปี ใช้รูปโปรไฟล์ขณะยังเป็นฆราวาสเล่นแอปหาคู่เกย์นัดพบกันที่ขอนแก่น อีกฝ่ายปฏิเสธโดนลากขึ้นรถก่อนตัดสินใจหักพวงมาลัยจนพุ่งชนที่กั้นริมถนน เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือพบอุปกรณ์การเสพยาเสพติดเพียบ
จากกรณีโลกโซเชียลแชร์ภาพรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีดำ หมายเลขทะเบียน ขน 6928 ขอนแก่น ขับมาประสบอุบัติเหตุชนเกาะกลางถนนถนนศรีจันทร์ หน้าโรงพยาบาลขอนแก่นราม ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น และมีผู้บาดเจ็บหนึ่งรายเป็นพระสงฆ์ทราบชื่อตามบัตรประชาชนคือ พระครูปลัดนรินทร์ กิตฺติภทฺโท อายุ 32 ปี โดยมีข้อความระบุว่า “จากเหตุเมื่อวานกำลังตรวจสอบทั้งหมด เบื้องต้นค้นกุฏิเช้านี้พบยาไอซ์พร้อมอุปกรณ์"
เบื้องต้นทราบว่า พระครูปลัดนรินทร์ เล่นแอปหาคู่เกย์แล้วนัดเจอที่โรงแรม แต่พระใช้โปรไฟล์ตอนยังไม่บวชมาคุย พอถึงโรงแรมแล้วไม่ตรงปก คนที่นัดด้วยจึงปฏิเสธ แต่พระไม่ยอมเลยลากตัวขึ้นรถมา อีกฝ่ายคงกลัวมากเลยตัดสินใจหักพวงมาลัยใส่ที่กั้นถนน รถเลยเสียหลักชนที่กั้นจนยางแตก พลเมืองดีเห็นเหตุการณ์จึงเข้าไปช่วยและแจ้งตำรวจ
พระครูวิสุทธิธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีจันทร์และรองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่นกล่าวถึงกรณีของพระนรินทร์ที่เกิดขึ้นนั้น เบื้องต้นทางคณะสงฆ์ทราบจากทางสื่อโซเชียลมีเดียว่าพระนรินทร์ซึ่งเป็นพระในสังกัดวัดสระทองบ้านบัว ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ขับรถคันดังกล่าวและเกิดอุบัติเหตุอยู่ในเมืองขอนแก่น โดยในรถพบว่ามีสิ่งผิดกฎหมายเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทางคณะสงฆ์จึงได้มีการตรวจสอบกรณีดังกล่าวขึ้นพร้อมทั้งได้สั่งการไปยังเจ้าคณะอำเภอมัญจาคีรี เจ้าคณะตำบล ตำรวจพระ และประสานฝ่ายปกครองในพื้นที่ขอเข้าตรวจค้นภายในกุฏิพระนรินทร์ที่วัดสระทอง ซึ่งพบอุปกรณ์การเสพยาเสพติดแต่ไม่พบยาเสพติด ภายหลังการตรวจสอบทางคณะสงฆ์ได้มีการประชุมและมีมติให้พระนรินทร์ต้องทำการลาสิกขาภายหลังจากเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลและแพทย์สามารถให้กลับได้ โดยหลังจากการลาสิกขาก็จะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งพระนรินทร์ก็ยอมรับและจะทำการลาสิกขาให้หลังจากที่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเสร็จแล้ว
ในกรณีของพฤติกรรมที่พระนรินทร์มีการเข้ากลุ่มเพื่อนัดพบตามที่ปรากฏในสื่อโซเชียลนั้น เบื้องต้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบซึ่งจะต้องรอให้ทางพระนรินทร์ทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาลให้เสร็จสิ้นก่อนก็จะได้สอบถามรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้ง แต่ในเบื้องต้นนั้นทราบว่าภาพโปรไฟล์ที่พระนรินทร์ใช้เข้ากลุ่มในแอปพลิเคชั่นนัดเจอกันเป็นภาพขณะที่เป็นฆราวาส และพระอีกรูปที่นัดพบทราบจากโซเชียลเช่นกันว่ามาจากจังหวัดนครพนม ซึ่งก็สอดคล้องกับข้อมูลที่อยู่ในโซเชียลมีเดียกรณีที่ไม่ตรงปก
รองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่นกล่าวอีกว่ากรณีดังกล่าวนั้นแม้เจ้าตัวจะปฏิเสธทางเจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็มีการพิสูจน์หาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อยู่แล้ว กรณีที่พระสงฆ์ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดก็จะต้องทำการสึกเท่านั้นและจังหวัดขอนแก่นเองทางคณะสงฆ์ได้ประกาศข้อห้ามชัดเจนโดยห้ามพระสงฆ์ขับรถอย่างเด็ดขาด ซึ่งมีการประกาศไว้ตั้งแต่ปี 2557 และหลังจากที่ทำการสึกไปแล้วพระนรินทร์ก็จะไม่สามารถกลับมาบวชใหม่ได้ เนื่องจากในช่วงที่เป็นพระมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและหากตรวจสอบพบว่ามีความผิดในเรื่องของการเสพเมถุนร่วมด้วยก็จะเป็นการผิดวินัยส่งร้ายแรง ทางคณะสงฆ์ก็จะมีการสลักหน้าใบสุทธิด้วยว่าให้สึกด้วยสาเหตุใด และปัจจุบันการตรวจสอบประวัติของพระสงฆ์ก็สามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้นว่าใครทำผิดคดีอาญาอะไรบ้าง