เจ้าของร้านจำหน่ายออกซิเจนหัวร้อนยิงเมียดับ ก่อนยิงตัวเองตายตามแต่ไม่ตาย ปมทะเลาะบิลสั่งของลูกค้า
เมื่อเวลา 12.10 น.วันที่ 11 เม.ย. ตำรวจ สน.คันนายาว รับแจ้งเหตุยิงกันตาย เหตุเกิดที่บริษัททองคำออกซิเจน แอนด์ โปรดักส์จำกัด ถนนเลียบคลองสอง แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม.
ที่เกิดเหตุพบเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น2คูหา จำหน่ายออกซิเจน ไนโตนเจน อาร์กอน คาร์บอนไดออกไซต์ อะเซทิลีน ฮีเลียมไนตรัส อุปกรณ์เครื่องตัด น็อตสกรู อะไหล่แอร์ ทั้งปลีกและส่ง ชั้นล่างเปิดขายของที่พื้นภายในร้านพบศพนางวรรณา อายุ 60 ปี สภาพศพนอนคว่ำหน้า ถูกยิงที่ศีรษะ1นัด ที่เกิดเหตุพบนายนันฐกุล อายุ 68 ปี ผู้บาดเจ็บเป็นสามีผู้เสียชีวิตและเป็นผู้ก่อเหตุ ใช้ปืนที่ก่อเหตุยิงตัวเองเฉียวขมับด้านขวา มีคนเห็นเหตุการณ์ นำส่งรพ.นพรัตน์
จากการสอบสวนนายอลงกร อา ยุ29 ปี ลูกชายผู้เสียชีวิต ให้การว่า ตนเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว พ่อแม่เปิดร้านจำหน่ายออกซิเจนมาหลายสิบปี ปกติแม่จะเป็นคนดูแลร้าน เป็นเสาหลักสร้างครอบครัวสร้างฐานะ พ่อไม่ค่อยสนใจช่วยเหลือขายของในร้าน ชอบดื่มเบียร์เคี้ยวใบกระท่อม นอกจากนี้ยังชอบพนันตีไก่ ปกติพ่อกับแม่ทะเลาะกันเป็นประจำอยู่แล้ว แม้กระทังเป็นเรื่องเล็กน้อย ทะเลาะกันเรื่องขายของเรื่องการใช้ชีวิตประจำวันพูดจาไม่เข้าหูกัน เงินในร้านหาย 20 บาท เป็นต้น ส่วนปืนเป็นของแม่ซื้อไว้ป้องกันตัว ก่อนเกิดเหตุตนอยู่ห้องนอนชั้นบน พ่อกับแม่ขายของอยู่ในร้านข้างล่าง ต่อมาได้ยินเสียงปืน 1 นัดวิ่งลงมาดูเห็นพ่อใช้ปืนจ่อหัวตัวเองและลั่นไกรดังสนั่นอีก 1 นัดต่อหน้า ตนเองตกใจตนห้ามไม่ทัน ร่วมกับเพื่อนบ้านและเจ้าหน้าที่มูลนิธินำพ่อส่ง รพ.นพรัตน์ ส่วนแม่เสียชีวิตแล้ว
เจ้าหน้าที่สอบพยานแวดล้อม ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้บาดเจ็บผู้เสียชีวิตทะเลาะกันเรื่องบิลส่งของลูกค้า ทะเลาะมีปากเสียงกันรุนแรง สามีจึงเดินไปหยิบปืนในรถยนต์จอดหลังร้านและกลับมายืนโต้เถียงกันอีกครั้ง ไม่ทราบว่าภรรยาพูดอะไรกับสามี สามีโกรธด่าภรรยาถึงโคตรเหง้าและใช้ปืนยิงภรรยาเสียชีวิตทันที ตัวเองกลัวความผิดใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเองแต่ยังไม่เสียชีวิต
ด้าน พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.สน.คันนายาว กล่าวว่า สาเหตุเกิดจากผัวเมียทะเลาะกันส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาครอบครัวเล็กๆน้อย ทะเลาะตบตีกันเป็นประจำ ครั้งนี้รุนแรงสุดสามีใช้ปืนยิงเมียเสียชีวิตและยิงตัวเองบาดเจ็บ ขณะนี้คนเจ็บกำลังผ่าตัด มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนดูแลควบคุมและรอการสอบสวนสาเหตุที่แท้จริง.
