สาธุอลเวง! เงินวัดหาย 2.9 แสน กินน้ำสาบานทั้งวัด ชาวบ้านร้องอำเภอเข้าตรวจสอบ
วันที่ 29 เมษายน 2567 เวลา 09.30 น. นายชาญชัย แก้วหนองติ อายุ 56 ปี ผช.ผู้ใหญ่บ้านทมนางาม ม.1 และนายสุรินทร์ ดีสร้อย อายุ 63 ปี อดีต ผญบ.ทมนางาม ม.1 นำชาวบ้าน ต.ทมนางาม อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี จำนวน 30 คน เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายอำเภอโนนสะอาด เรียกร้องให้มีการตรวจสอบนางบุญมี ปิดตาลโพ ผู้ใหญ่บ้านทมนาดี ม.4 และผู้ช่วย รวม 3 คน หลังเกิดเหตุเงินทำบุญผ้าป่าวัดบัวระพา หายไป 298,645 บาท ทั้งที่ไม่ใช่กรรมการวัด แต่เป็นผู้ถือเงิน
โดยมีนายติณณ์ ชัยนา ปลัดอำเภอ หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม อ.โนนสะอาด เป็นตัวแทนรับมอบและร่วมรับฟังปัญหา
สืบเนื่องจากวัดบัวระพา ได้มีการจัดสร้างพระพุทธโสฬสบูรพารัศมี หรือองค์พระเจ้าใหญ่ พระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 10 ม. สูง 15 ม. วางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2563 ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และมีงานฉลององค์พระเจ้าใหญ่ 11 – 13 เมษายน ที่ผ่านมา มีการตั้งกองผ้าป่าสามัคคี และเงินทำบุญจากชาวบ้าน เงินจากกิจกรรมภายในงาน รายได้รวม 1,992,865 บาท หักค่าใช้จ่ายมหรสพและจัดเตรียมงาน เหลือ 1,158,645 บาท หลังเสร็จงานบุญ วันที่ 14 เมษายน กรรมการวัดมาช่วยกันนับเงินทำบุญใส่ถุงพลาสติกเข้าตู้บริจาค ซึ่งได้มีการตรวจเช็dจำนวนเงินและยอดเงินก่อนปิดล็อdตู้ ก่อนเก็บไว้ในกุฏิเจ้าอาวาส
บ่ายวันที่ 18 เมษายน เจ้าอาวาสและลูกศิษย์ได้นำไปฝากธนาคารออมสิน สาขา อ.โนนสะอาด ซึ่งเป็นบัญชีของเจ้าอาวาส แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าเงินทำบุญยอดไม่ตรงกับบัญชีที่นำมาด้วย ขาดไป 298,645 บาท เมื่อกลับถึงวัด ได้เรียกกรรมการมาสอบถาม ยังหาสาเหตุไม่ได้ว่าเงินขาดไปได้อย่างไร เมื่อชาวบ้านรู้เรื่องจึงมีการขอตรวจสอบ แต่ยังสรุปไม่ได้ว่าเงินหายไปจริงหรือนับเงินไม่ถูกต้อง จนมีการทำพิธีดื่มน้ำสาบานต่อหน้าพระประธาน เมื่อวันที่ 23 เมษายน ชาวบ้านบางส่วนยังติดใจในการบริหารจัดการเงินวัด ระบุว่า ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 และผู้ช่วย 2 คน ไม่ยินยอมให้กรรมการคนอื่นมาร่วมจัดการ ทำงานไม่โปร่งใส จนมีการร้องเรียนดังกล่าว
เบื้องต้นนายติณณ์ ชัยนา ปลัดอำเภอ ได้รับเรื่องไว้ และเตรียมรายงานไปยังนายชวิศ ป้องขันธ์ นายอำเภอโนนสะอาด ซึ่งจะได้ทำหนังสือเชิญผู้ถูกกล่าวหา และตัวแทนชาวบ้าน มาเจรจาไกล่เกลี่ย เพื่อหาทางออกเรื่องดังกล่าว ต่อมากลุ่มชาวบ้านได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.โนนสะอาด ซึ่งพบว่า นางบุญมี ปิดตาลโพ ผู้ใหญ่บ้านทมนาดี ม.4 ได้มาแจ้งความว่าเงินวัดหายไป เมื่อวันที่ 20 เมษายน เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดนำเงินวัดไป กลุ่มชาวบ้านจึงแจ้งความซ้ำอีกในเรื่องดังกล่าว และให้ตรวจสอบพฤติกรรมของ ผู้ใหญ่บ้านทมนาดี ม.4 และพวก รวม 3 คน
นายชาญชัย แก้วหนองติ อายุ 56 ปี ผช.ผู้ใหญ่บ้านทมนางาม ม.1 เปิดเผยว่า แต่ก่อนที่วัดมีกรรมการ 13 คน ปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนเหลือ 5 คน ก่อนจัดงานผู้ใหญ่บ้านทมนาดี ม.4 และผู้ช่วย ได้เข้ามาเป็นตัวตั้งตัวตี ในการจัดงานฉลององค์พระเจ้าใหญ่ เสนอตัวเป็นผู้จัดการ และเก็บเงินทั้งหมดไว้ พวกเขาไม่ให้กรรมการวัดเข้าไปยุ่งวุ่นวายเรื่องเงินด้วย แต่เมื่อเกิดเรื่องขึ้น ก็จะอยากรับผิดชอบ เป็นครั้งแรกที่เกิดปัญหา ที่ผ่านมาก็มีเรื่องเงินขาดหายบ้าง แต่ไม่เยอะขนาดนี้ จนมีการกินน้ำสาบานกัน ตั้งแต่เจ้าอาวาส พระรูปอื่น รวมถึงชาวบ้านที่เกี่ยวข้อง ประมาณ 20 คน ทำเพื่อความบริสุทธิ์ใจ
“มาวันนี้อยากให้ทางอำเภอตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เนื่องจากไกล่เกลี่ยกันแล้วก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ อ้างแต่ยอดที่หายไป ต้องชี้แจงและหาเงินมาคืน เรื่องทางแพ่งก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ทางวินัยก็อยากให้ตรวจสอบ เขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรรมการ แต่มาถือเงินวัดไว้ มันไม่เหมาะสม กรรมการทั้ง 5 คน ก็ต้องตรวจสอบ เพราะทำงานกันไม่โปร่งใส”
นายสาย ซ้อนนอก อายุ 59 ปี ชาวบ้านทมนางาม ม.9 เปิดเผยว่า ที่ชาวบ้านติดใจคือตอนแรกเมื่อนับเงินเสร็จแล้ว ตอนเช้าก็มีการประกาศเสียงตามสาย แจ้งจำนวนเงิน 1,158,645 บาท เขาก็เอาเงินไปฝากไว้กับเจ้าอาวาส หลวงพ่อก็ไม่ได้นับเอง แต่เมื่อเงินหายไปเขาก็ชี้แจงไม่ได้ ไกล่เกลี่ยกันแล้วก็ตกลงกันไม่ได้ ชาวบ้านจึงรวมตัวกันมาวันนี้ พวกตนไม่ได้ติดใจเจ้าอาวาส แต่ติดใจกลุ่มผู้ใหญ่ที่มาถือเงิน และกรรมการวัด ส่วนที่ผู้ใหญ่บ้านทมนาดี ม.4 ไปแจ้งความก่อนหน้านี้ ตนคิดว่า เขาร้อนตัว และต้องการทิ้งความผิดให้เจ้าอาวาส อ้างว่านับเงินครบแล้ว แล้วเอาไปฝากเจ้าอาวาสไว้
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดบัวระพา พบกับพระครูบูรพา สารสุนทร หรือหลวงปู่แสง อายุ 59 ปี เจ้าอาวาสวัดฯ ก่อนเปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง ยังตอบไม่ได้ว่าเงินขาดหายไปยังไง ไม่รู้ว่านับเงินไม่ครบ หรือเงินหายไป สอบถามกรรมการก็ไม่ได้คำตอบ จึงมีการดื่มน้ำสาบาน ลั่นวาจาว่าใครเอาเงินวัดไปขอให้พบเจอแต่เรื่องไม่ดี หากไม่ได้ทำก็ขอให้เจริญรุ่งเรือง ตอนแรกไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ อยากให้ไกล่เกลี่ยกัน ไม่อยากให้ชาวบ้านทะเลาะกัน เรื่องที่ผิดก็แล้วกันไป อยากให้พูดคุยกันดีดี
“แต่เมื่อเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการกฎหมาย ใครผิดก็ว่าไปตามผิด อาตมาก็พร้อมให้มาตรวจสอบเช่นกัน ที่วัดมีบัญชีกลางอยู่แล้ว แต่ที่ฝากเข้าบัญชีของตัวเองก่อน เนื่องจากบัญชีของวัดนั้นธนาคารอยู่ อ.กุมภวาปี มีระยะทางไกล เงินทั้งหมดก็มีจำนวนมาก จึงนำมาฝากเข้าบัญชีตัวเองก่อน เพราะธนาคารอยู่ อ.โนนสะอาด กลัวว่าจะไม่ปลอดภัย เพราะไปถึงธนาคารช่วยบ่าย กว่าจะนับเงินแล้วเสร็จก็ถึงเย็นพอดี ฝากเงินไป 867,570 บาท ล่าสุดเงินส่วนหนึ่งอาตมาก็โอนเข้าบัญชีของวัดส่วนกลางแล้ว 5 แสนบาท เป็นไปตามข้อตกลงของกรรมการวัด ที่เหลือไว้ในบัญชีตัวเองอีกก็เพราะต้องนำไปจ่ายค่าซ่อมรถวัด”
ผู้สื่อข่าวพยายามนัดหมายพูดคุยกับนางบุญมี ปิดตาลโพ ผู้ใหญ่บ้านทมนาดี แต่ยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ ก่อนเปิดเผยผ่านโทรศัพท์ว่า เงินหายไปจริง ยังไม่รู้ว่าหายไปได้อย่างไร อาจจะนับขาดนับเกินไปตอนที่นับร่วมกับกรรมการคนอื่น ซึ่งก็นับอยู่หน้ากุฏิเจ้าอาวาส เราก็นอนนับกันไปนับกันมา นับเสร็จก็กินข้าว ก่อนกลับบ้านไปตามปกติ ตนไม่ได้ถือกุญแจตู้บริจาค กุญแจก็อยู่กับเจ้าอาวาส ยินดีให้มาตรวจสอบ เพราะตนเองก็บริสุทธิ์ใจเช่นกัน”