กระบะชนเสาไฟดับ 5 ศพ ญาติเผยคนขับง่วง เมียเตือนบอกให้พัก แต่ฝืนขับต่อจนเกิดเหตุสลด

19 เม.ย. 67

กระบะชนเสาไฟดับ 5 ศพ ญาติเผยคนขับง่วง เมียเตือนบอกให้พัก แต่ฝืนขับต่อจนเกิดเหตุสลด พ่อเศร้า สูญเสียเมีย ลูกชาย หลานสาว และญาติในคราวเดียวกัน

จากกรณีรถกระบะ 4 ประตูสีดำ ทะเบียน ขท 4108 กรุงเทพมหานคร กลับจากไปเยี่ยมญาติ แล้วคนขับเกิดอาการหลับในเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าริมทางหลวง 223 สายสกลนตร-นาแก ช่วงบ้านดอนโทน ต.ก้านเหลือ อ.นาแก จ.นครพนม จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ศพ บาดเจ็บ 1 ราย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

กระบะกลับจากเยี่ยมญาติ วูบหลับใน พุ่งชนเสาไฟรถพังยับ ดับคาที่ 5 ศพ

ทีมข่าวได้ทราบว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่มูลนิธิเพชรเกษมอำนาจเจริญ ได้นำศพมาส่งให้กับทางญาติที่วัดบ้านโคกสูง ต.นาผือ ทั้งหมด 2 ศพ และนำส่งวัดบ้านดอนคำไหล ต.โนนหนามแท่ง ทั้งหมด 3 ศพ เพื่อที่จะให้ทางญาติประกอบพิธีทางศาสนาให้กับผู้เสียชีวิต

1713503903603

ล่าสุดวันนี้ ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่วัดบ้านดอนคำไหล ต.โนนหนามแท่ง อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งทั้งหมด 3 ศพ คือ นางสมสี สาระคุณ อายุ 62 ปี แม่คนขับ นายกาญไชย์ สาระคุณ อายุ 42 ปี ลูกชายซึ่งเป็นคนขับ และหลานสาว น.ส.กนกกร สาระคุณ อายุ 16 ปี บรรกาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าของบรรดาญาติพี่น้องที่มาร่วมงาน เพราะทั้งหมดต่างไม่คาดคิดคาดฝันว่าจะเกิดเหตุการณ์น่าสลดเช่นนี้ขึ้น

437937707_441935195003262_316

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายสำราญ สาระคุณ อายุ 73 ปี เผยกับทีมข่าวว่า วันที่เกิดเหตุภรรยาได้ให้ลูกชายพาไปรดน้ำดำหัวพ่อตาแม่ยายที่อยู่ จ.สกลนคร ซึ่งตอนนั้นตนต้องดูแลไร่นาและวัวที่เลี้ยงไว้เลยไม่ได้ไปด้วย ก็มีแต่ภรรยา ลูกชาย ลูกสะใภ้ หลานสาว และญาติอีก 2 คนเดินทางไปด้วยกัน ซึ่งก่อนจะไปก็ไม่ได้มีลางสังหรณ์อะไร ก็พูดคุยกันตามปกติดี เขาก็ยังโทรมาคุยว่ากำลังจะเดินทางกลับแล้ว ตนก็ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นที่ต้องมาเสียภรรยา ลูกชาย และหลานสาวในคราวเดียวกัน

438921691_441935241669924_464

ขณะที่ทางด้านนายปุ่น บุญตาม อายุ 71 ปี ญาติที่เดินทางไปรับ น.ส.ไพจิตร อายุ 42 ปี ภรรยาคนขับรถดังกล่าวผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว ที่ จ.นครพนม มารักษาตัวต่อ รพ.อำนาจเจริญ อยู่ในขณะนี้ เปิดเผยกับทีมข่าวว่า จากการที่ตนได้พูดคุยกับ น.ส.ไพจิตร เบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุ คนขับบอกว่าง่วงจึงได้แวะปั๊มน้ำมันและใช้ให้ น.ส.ไพจิตร ไปซื้อเครื่องดื่มชูกำลัง ผ้าเย็นเพื่อมาเช็ดหน้า แต่ น.ส.ไพจิตร ก็บอกสามีอยู่ว่าถ้าง่วงไม่ไหวก็จอดนอนพักก่อนก็ได้ค่อยเดินทาง แต่สามีก็ยังฝืนขับรถออกมา ซึ่งตอนที่เกิดเหตุ น.ส.ไพจิตรนอนหลับเลยไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ฟื้นอยู่ที่ รพ.นครพนม

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส