ผอ.โรงเรียนแจง เด็ก ม.3 ดับขณะทัศนศึกษา หลังแม่ร้องเพจดัง

22 เม.ย. 67

ผอ.โรงเรียนแจง เด็ก ม.3 ดับขณะไปทัศนศึกษา หลังแม่ร้องเพจดัง ยันโรงเรียนช่วยเต็มที่ผ่านทางตายาย ไม่เคยทอดทิ้ง เห็นข่าวแล้วรู้สึกเสียใจมาก 

จากกรณี น.ส.พัชรี (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี แม่ของ น้องดริฟ อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.เพชรบูรณ์ เข้าร้องทุกข์กับ เพจสายไหมต้องรอด ว่าลูกชายไปร่วมปัจฉิมนิเทศ ที่โรงเรียนจัดขึ้น ในพื้นที่หาดนางรำ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมา แล้วเกิดอุบัติเหตุขณะทำกิจกรรมพุ่งลงทะเล ศีรษะกระแทกพื้นทรายจนเสียชีวิต เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม 

ต่อมาวันที่ 22 เม.ย. 67 นายก้องเกียรติ มากสมบูรณ์ ผอ.โรงเรียนบ้านไร่เหนือ เปิดเผยว่า โรงเรียนจัดกิจกรรมการเรียนรู้นอกสถานที่ โดยการพาเด็กนักเรียนเดินทางไปทัศนศึกษาที่ จ.ชลบุรี ไม่ใช่ปัจฉิมนิเทศตามที่เป็นข่าว เพราะการจัดกิจกรรมปัจฉิมนิเทศทางโรงเรียนจัดเสร็จเรียบร้อยไปก่อนหน้านี้แล้ว 

ส่วนงานศพของ น้องดริฟ อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 ที่เสียชีวิต ตนและคณะครูช่วยกันจัดงานให้อย่างสมเกียรติ คอยดูแลตลอดงานทั้งอาหารเครื่องดื่ม เนื่องจากเด็กที่เสียชีวิตอาศัยอยู่กับตาและยาย ส่วนค่าใช้จ่ายทางโรงเรียนช่วย 10,000 บาท กองทุนหมู่บ้านช่วย 10,000 บาท เพื่อนๆของตนช่วย 10,000 บาท เขตพื้นที่การศึกษาช่วยมา 5,000 บาท ทางทหารเรือที่ชลบุรีช่วยมาอีก 5,000 บาท เงินจากผู้มาร่วมงาน 10,000 บาท รวมแล้ว 50,000 บาท 

ซึ่งก็เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงาน ส่วนเงินประกันอุบัติเหตุจำนวน 100,000 บาท ทางโรงเรียนกำลังเดินเรื่องให้ ซึ่งเงินจำนวนนี้คุณตาและคุณยายขอเป็นผู้รับเอง เพราะตากับยายเป็นคนเลี้ยงดู และดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด ตนยืนยันว่าไม่เคยทอดทิ้งดูแลมาตั้งแต่วันที่เกิดเหตุดูแลตลอด แต่พอมาเห็นข่าวตนรู้สึกเสียใจมากเพราะสิ่งที่ตนทำไปเพราะความรักเด็ก ไม่ใช่เพราะความผิด 

นางสายรุณ (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี น้าของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ เนื่องจากไปทัศนศึกษากับทางโรงเรียน เปิดเผยว่า การเสียชีวิตของหลานชายเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดขึ้น เพราะขณะเกิดเหตุทั้งเด็กและครูก็ลงเล่นน้ำกัน ครูก็ดูแลใกล้ชิด ส่วนตนนั่งดูอยู่ด้านบน แต่ก็เห็นหลานชายกระโดดน้ำอย่างสนุก โดยการพุ่งตัวลงน้ำ แต่เป็นจังหวะที่คลื่นซัดน้ำลงทะเล ทำให้หัวไปกระแทกกับทรายทำให้คอหัก ได้ยินเสียงเด็กตะโกนเรียกว่าดริฟหัวแตก ตนจึงวิ่งไปดูถามหลานดริฟว่าเป็นไรบ้าง หลานตอบว่าหายใจไม่ออกก็มีคนมาช่วยทำพีซีอาร์ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล 

ด้าน นางทองม้วน (สงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี ยายของน้องดริฟ เล่าว่า เลี้ยงหลานมาตั้งแต่ตัวยังเล็ก เพราะพ่อแม่แยกทางกัน ต่างคนก็ไปมีครอบครัวใหม่ เป็นหลานคนเดียวที่คอยช่วยยาย เป็นคนพายายไปหาหมอ ถ้าหลานยังอยู่วันพรุ่งนี้หลานต้องพายายไปหาหมอ แต่ตอนนี้ไม่มีใครพายายไปหาหมอแล้ว เพราะตาเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัว ตามีอาชีพขายลอตเตอรี่

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส