รวบหนุ่มขี่จยย. กระชากกระเป๋าสาวแม่ลูกอ่อน เตรียมเงินไปซื้อนมให้ลูก ขณะที่คนร้ายรับสารภาพ นำเงินไปซื้อนมให้ลูกเหมือนกัน
วันที่ 26 เม.ย. 67 พ.ต.อ.ลักษณ์ รัตนถาวร ผกก.สภ.เขาบางแกรก พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปิยะวัตร ชำญาณไพร รองผกก.สืบสวน ภ.จว.อุทัยธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เขาบางแกรก ภ.จว.อุทัยธานี นำหมายศาลจังหวัดอุทัยธานี เข้ารวมจับกุมตัวนายพีระพงษ์ อายุ 37 ปี ในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกในการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหนีการจับกุม
โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ในวันที่เกิดเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งแฟนไปทำงานที่ อ.ลานสัก หลังจากนั้นก็ขี่รถกลับมา โดยใช้เส้นทางบ้านท่าชะอม
ซึ่งตนเองได้ไปจอดใต้ต้นไม้ และก็นั่งคิดที่แฟนบ่นเรื่องเงินซื้อนมลูกบ้างอะไรบ้าง ตนเองปวดหัวเลยตัดสินใจดังกล่าว ซึ่งตอนที่กระชากกระเป๋าหน้ารถ มั่นใจว่ามีเงิน ซึ่งในกระเป๋าจำนวน 2 พันบาท และนำเงินบางส่วนไปให้ภรรยาซื้อนมให้ลูกดังกล่าว
โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 20 เม.ย. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยุ 191ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ว่า มีคนร้ายได้ขับขี่รถตามหลังมาประกบสาวที่กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่เช่นกัน แล้วแซงขึ้นหน้าได้กระชากกระเป๋าสตางค์ที่วางอยู่ที่หน้าตะแกรงรถ แล้วขับหลบหนีบนถนนสายบ้านท่าชะอม-หนองฉาง หมู่ 4 บ้านเด่นรัง ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ผู้เสียหายยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ที่สะพานบ้านเด่นรัง
พบผู้เสียหาย น.ส.กัญญ์วรา คนดี ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนด้วยอาการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเล่าว่า มีอาชีพขายของอยู่ที่บ้านวังเตย ซึ่งจะมาซื้อของที่ในตลาดหนองฉางเป็นประจำ และในวันนี้ก็เช่นกัน ได้ขับขี่รถมากับลูกชาย 3 ขวบนั่งหน้า และหลานชายนั่งหลัง โดยตนได้ขับมาใช้ความเร็วประมาณ 40-50 กม. พอมาถึงก่อนจุดเกิดเหตุ ซึ่งช่วงนั้นเป็นทางโค้ง ทางด้านขวามือที่ใต้ต้นไม้ ตนเห็นรถจักรยานยนต์จอดอยู่ริมทางคันหนึ่ง พอตนขับผ่านไปรถคันดังกล่าวก็ขับตามหลังมา ตนก็พยายามให้รถคันดังกล่าวแซงขึ้นหน้า แต่ก็ไม่ยอมแซง ระหว่างนั้นได้หยิบกระเป๋าเงินที่ห้อยมากลับแฮนด์หน้ารถ เปลี่ยนมาว่างไว้ที่ตะกร้ารถ จังหวะนั้นคนร้ายได้บิดรถแซงด้วยเร็วขึ้นมา
คนร้ายสวมเสื้อคลุมแขนยาวสีเขียว เปิดหน้าสวมกางเกงยีนขายาว มีหนวด โดยคนร้ายได้ปิดทะเบียนรถ เห็นเลขด้านเลข 7 ตัวเดี่ยว ได้หยิบกระเป๋าเงินที่ว่างไว้ในตะกร้า มีเงินสด 3 พันบาท บัตรเอทีเอ็ม 3 ใบ ใบขับขี่รถยนต์ของสามีที่อยู่ในกระเป๋า
หลังจากตั้งสติได้รีบขี่รถไล่ตามหลังคนร้ายไป พร้อมกับตะโกนให้คนข้างทางได้ยินว่ากำลังไล่คนร้าย ไปถึงหัวโค้งสะพานปูนบ้านเด่นรัง ซึ่งเป็นทางโค้งหักซอก ทำให้คนร้ายเสียการทรงตัว ตนรีบบอกคนร้ายให้หยุด แต่ไม่กล้าลงไปเกรงว่าคนร้ายจะทำร้ายตนเองลูกและหลาน ทำให้คนร้ายฉวยโอกาสขี่รถหลบหนีไปได้ด้วยความรวดเร็ว แต่ก็มีพ่อค้าไก่ย่างข้างทางได้ยินเสียง ตนตะโกนได้ช่วยไล่ติดตามคนร้ายไปเช่นกันแต่ตามไปไม่ทันคนร้ายหลบหนีไปได้ก่อน
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ติดคนร้ายตามกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายได้ขี่รถมาถนนสายบ้านดงประดาพระ จนพบคนร้ายและทราบชื่อ จึงขอหมายศาลจังหวัดอุทัยธานี
ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตัวนายพีระพงษ์ ผู้ต้องหาพยายามหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ได้ใช้กำลังหลายนาย จึงหนีการจับกุมไม่ได้ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายพีระพงษ์ไปชี้จุดที่นำเสื้อผ้าไปทิ้งไว้ข้างทาง พร้อมกับกระเป๋าเงินที่โยนทิ้งไว้ในคลอง เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน