อดีตผู้บริหารสาว เปิดใจครั้งแรก ปมถีบ รองผกก.หน้าหงาย ปฎิเสธข้อหาขัดขืน-ทำร้ายร่างกาย ขอแจงในชั้นศาล ลั่น “ชั้นต่ำ” เป็นคำพูดแรงที่สุดในชีวิต
จากกรณีอดีตผู้บริหารสาว บริษัทดังระดับโลก ก่อเหตุเมาแล้วขับ ต่อสู้ขัดขวางถึงขั้นถีบยอดหน้า พ.ต.ท.ดาราธร ขจรศิลป์ รอง ผกก.5 บก.จร. ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ พร้อมด่าเจ้าหน้าที่ว่า “ชั้นต่ำ”
ล่าสุดวันที่ 27 เม.ย. 67 อดีตผู้บริหารสาวบริษัทดังระดับโลก ให้สัมภาษณ์เปิดใจเป็นครั้งแรก กับทีมข่าว “อมรินทร์ออนไลน์” ยืนยันว่า ไม่เคยถูกดำเนินคดีเมาแล้วขับเมื่อช่วงเดือน ส.ค. ปี 2565 หรือเมื่อช่วง 2 ปี ก่อน ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาให้ข้อมูลแต่อย่างใด
ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดี หรือจะแจ้งข้อหาหมิ่นประมาทนั้น ส่วนตัวยังไม่ทราบเรื่องนี้ แต่เบื้องต้นได้พูดคุยเจรจากับ พ.ต.ท.ดาราธร คู่กรณีจบไปแล้ว ส่วนในวันเกิดเหตุตนเองถูกทำร้ายร่างกายหรือไม่นั้น ไม่ขอตอบคำถามนี้ แต่ขอไปให้การในชั้นศาล เช่นเดียวกับกรณีข้อหาการทำร่างกายและประเด็นอื่นๆ ขอให้การในชั้นศาล ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการสอบสวน แต่ยังคงรอการนัดแนะจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง
ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนแบบไหนก็ให้เป็นไปตามที่เป็นข่าว ซึ่งในส่วนของตนเองยังไม่เคยออกมาให้การกับใคร แต่ขอเปิดเผยข้อมูลในชั้นสอบสวน ที่ต่างฝ่ายจะต้องนำหลังกฐานมาพิสูจน์ตัวเอง แต่สิ่งที่ตัวเองพิสูจน์ได้ในเวลานี้คือตนเองไม่เคยถูกดำเนินคดีใดๆ ในอดีต
จากคลิปที่ถูกเผยแพร่ออกไป โดยมีคำพูดของตัวเองกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า “ชั้นต่ำ” นั้น คลิปที่ถูกเผยแพร่ไปเป็นแค่บางช่วงที่ถูกตัดต่อ และเผยแพร่ออกไป ซึ่งคลิปจริงๆนั้นมีความยาวมากกว่านึ้ โดยการเจรจาในวันเกิดเหตุไม่ได้มีแค่คำนี้คำเดียว และคำพูดดังกล่าวที่ได้พูดออกไปน่าจะเป็นคำพูดที่แรงที่สุดชีวิตของตัวเองแล้ว เพราะปกติเป็นคนไม่ใช้คำหยาบ ยืนยันว่าไม่ได้ด่าใคร แต่ที่พูดออกไปเพราะมีที่มาที่ไป
เมื่อถามว่า ที่ใช้คำพูดแบบนั้น เพราะความเมาหรือไม่นั้น อดีตผู้บริหารสาวคนดังกล่าวย้อนถามกลับว่าปริมาณแอลกอฮอล์ 104 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ถือว่าเมาหรือไม่
ส่วนเรื่องผลกระทบทางจิตใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ส่วนตัวได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกรอบแล้ว และไม่มีอะไรติดใจกัน
ด้าน พ.ต.ท.ดาราธร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวอมรินทร์ออนไลน์ผ่านโทรศัพท์ว่า วันนี้ทางพนักสอบสวนไม่ได้นัดหมายให้เข้าพบ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งอยู่ระหว่างการไปตรวจร่างกาย เพื่อนำหลักฐานมายื่นให้กับพนักงานสอบสวนในเรื่องของการทำร้ายร่างกาย แต่ยืนยันว่าจากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังจากระบบ CRME ทางผู้กระทำความผิดเคยถูกดำเนินคดีเมาแล้วขับเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ณ จุดด่านจรวจเดิมที่เกิดเหตุล่าสุด
