ผบช.สอท.ยันมีผลงาน จะอยู่ครบวาระหรือไม่เป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชา

1 พ.ค. 67

ผบช.สอท.ยืนยันมีผลงาน ปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีไม่มีการแต่งเติมตัวเลขการจับกุม ส่วนจะอยู่ครบวาระหรือไม่ ให้เป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชา

 

พลตำรวจโทวรวัฒนา วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีนายเศรษฐา ทวีสินนายกรัฐมนตรี ได้กำชับการปฎิบัติงานให้ตำรวจไซเบอร์ เร่งปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ โดยให้มีผลงานเป็นรูปธรรมภายใน 30 วัน ว่า

1714542595847

ตลอด 30 วันที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ ได้ออกปฏิบัติการอย่างเข้มข้น มีการลงพื้นที่นำกำลังเข้าจับกุม จนสามารถเกิดผลงานตามที่ปรากฏบนสื่ออย่างต่อเนื่อง ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 30 เมษายนที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 593 คน ตรวจยึดอายัดทรัพย์สินกว่า 1,500 ล้านบาท ประสานปิดกั้นเว็บไซต์พนันออนไลน์กว่า 15,000 เว็บ และปิดกั้นเพจมิจฉาชีพกว่า 2,700 เพจ

ซึ่งทรัพย์สินที่ยึดและอาญาทั้งหมด จะมีการประสานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อนำเข้ากระบวนการตรวจสอบ หากมีหลักฐานพบว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิดจะถูกนำมาเฉลี่ยคืนให้แก่ผู้เสียหายต่อไป

นอกจากนี้ตำรวจไซเบอร์ยังได้สนธิกำลังทั้งในและนอกสังกัดสืบสวนจนเกิดปฏิบัติการ ตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาสำคัญหลายครั้ง เช่น การเปิดปฏิบัติการทลาย 9 เครือข่ายเว็บพนันหวยแลนด์ซึ่งมีเงินหมุนเวียน 5,000 ล้านบาท บุกจับเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ในจังหวัดจันทบุรีพบเงินหมุนเวียน 300 ล้านบาท และ ล่าขบวนการหลอกลวงลงทุนคริปโตยึดทรัพย์กว่า 125 ล้านบาท

ขอบคุณนายกนายกมนตรี ที่ยังให้โอกาส เพราะที่ผ่านมาตำรวจไซเบอร์ได้ทำงานอย่างเต็มที่ทุกมิติ ทั้งยึดและอายัดทรัพย์สินรวมถึงจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญได้เป็นจำนวนมาก แต่ส่วนผลการประเมินเป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชา

ซึ่งส่วนตัวยอมรับว่าตำรวจไซเบอร์มีผลปฏิบัติงานเพิ่มมากขึ้น เปรียบเทียบจากผลงานของปีที่ผ่านมา ที่สามารถตรวจยึดอายัดทรัพย์สินได้เพียง 900 ล้านบาท แต่ในเฉพาะเดือนเมษายน 2567 เพียงเดือนเดียวสามารถตรวจยึดอายัดทรัพย์สินได้กว่า 1,500 ล้านบาท พร้อมกับยืนยันว่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดอายัดได้ทั้งหมด เป็นตัวเลขจริงที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เนื่องจากเป็นการทำงานร่วมกับปปง.ไม่มีแต่งเติมตัวเลขเพื่อให้ดูมีมูลค่าสูง

ส่วนกรณีที่นายเศรษฐา มองว่าการปฏิบัติงานของตำรวจไซเบอร์ไม่มีการจับกุมผู้ต้องหารายใหญ่ หรือผู้บงการระดับหัวหน้าได้นั้น ทำให้ยังไม่พอใจผลงาน พลตำรวจโทวรวัฒนา ยืนยันว่าตำรวจไซเบอร์ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ ส่วนจะส่งผลกระทบกับตำแหน่งหรือไม่ ส่วนตัว ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องดังกล่าว และขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้บังคับบัญชา สำหรับประเด็นที่มีหลายฝ่ายมองว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทำเว็บพนัน จนทำให้ไม่สามารถปราบปรามได้อย่างจริงจัง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ส่วนนี้เป็นเรื่องของระบบ ซึ่งตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างประสานการทำงานร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จนสามารถปิดกั้นเว็บพนันได้สูงถึงกว่าร้อยละ 60 แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ที่จะถูกมองว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะเป็นหน่วยงานปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกัน.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส