แม่ชีปีนกุฏิ ลาสิกขากลับบ้าน อ้างลูกป่วย ด้านคณะสงฆ์เตรียมตั้งกก.สอบ

แม่ชีปีนกุฏิ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดดังกลางดึก ลาสิกขากลับบ้านแล้ว อ้างลูกป่วย ด้านคณะสงฆ์เตรียมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง 

จากกรณีที่มีคลิประบุว่า แม่ชีขับรถเก๋งมาหาพระลูกวัด ที่วัดสวาทบ้านธาตุ หมู่ 5 ต.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ซึ่งแม่ชีไม่พูดอะไร แต่พระลูกวัดให้ข้อมูลอ้างว่า แม่ชีนับถือกันเป็นพี่น้อง มาทำพิธีล้างซวย เพราะเหยียบแมวตาย 

ต่อมาพระผู้ใหญ่มีมติให้พระในคลิปย้ายออกจากวัดในสังกัดเดิม มาจำพรรษาที่วัดในเมืองบ้านไผ่ เนื่องจากมีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น โดยวันนี้จะมีการประชุมคณะสงฆ์ เพื่อดำเนินการตามวินัยสงฆ์ หากพบความผิดก็จะมีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมาให้ความเป็นธรรม และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 7 พ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่สถานปฏิบัติธรรมที่แม่ชีมาบวช ในพื้นที่บ้านหนองรู้แข้ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น โดยได้พูดคุยกับพระที่ดูแลสถานปฏิบัติธรรมดังกล่าว ทราบว่าแม่ชีมาบวชชีได้ 5 เดือน มาปฎิบัติธรรมนั่งสมาธิ จะไม่เปิดวาจา สวดมนต์เริ่มตี 3 ปฏิบัติธรรมไปจนถึงสามทุ่มของทุกวัน เรื่องส่วนตัวพูดคุยกันนั้นจะน้อย ส่วนใหญ่จะตามปฏิบัติธรรมของใครของมัน เมื่อเสร็จก็แยกย้าย 

และเมื่อวานที่ผ่านมาแม่ชีได้มากราบลาพระอาจารย์ หลังจากฉันข้าวเสร็จแล้วจะขอสึก โดยบอกเหตุผลว่าลูกไม่สบาย ซึ่งพระอาจารย์ก็ได้เพียงบอกเดินทางปลอดภัยโชคดี และอวยพรให้ ส่วนข่าวที่เกิดขึ้นนั้นก็เพิ่งจะทราบ ซึ่งเราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เราก็พูดไม่ได้ว่าเจตนาของคนนั้นเป็นอย่างไร ส่วนช่วงเวลาที่เกิดเหตุนั้น ก็อยากให้ดูที่เจตนาพิจารณาเหตุผล 

และจากการสอบถามแม่ชีด้วยกันภายในสถานปฏิบัติธรรมดังกล่าวบอกว่า ถ้าถามว่ามีแม่ชีขับรถเก๋งสีขาวหรือไม่ ก็จะมีอยู่หนึ่งคนคือแม่ชี้แนน เป็นชาวจ.พระนครศรีอยุธยา แต่ในระหว่างที่ปฏิบัติธรรมนั้น ต่างคนต่างตั้งมั่นทำสมาธิ จะไม่มีใครสนใจกัน และจะไม่ได้เล่นโซเชียล จึงไม่ไม่ทราบเกี่ยวกับข่าวที่เกิดขึ้นว่าเป็นเรื่องอะไร แต่เห็นแม่ชีแนนช่วงเช้ายังอยู่ที่สถานปฏิบัติธรรม แต่หลังจากช่วงเที่ยงก็ไม่พบเห็นแล้ว แต่ทราบเบื้องต้นว่าแม่ชีแนนได้ขอลาสิกขากลับกลับบ้าน เนื่องจากลูกสาวไม่สบาย แต่ในส่วนของข่าวที่เกิดขึ้นนั้น ทุกคนในสถานปฎิบัติธรรมไม่มีใครทราบรายละเอียดแต่อย่างใด แต่ทราบจากทางสื่อมวลชนที่ลงพื้นที่มาถาม 

อย่างไรก็ตามทางคณะสงฆ์จะมีการประชุมกัน เพื่อเข้าสู่กระบวนการทางสงฆ์ ซึ่งความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป