ล่าระทึก หนุ่มใหญ่ขับเก๋งเติมน้ำมัน 500 ไม่จ่าย ซิ่งหนีข้าม 3 จังหวัด

10 พ.ค. 67

ล่าระทึก หนุ่มใหญ่ขับเก๋งเติมน้ำมัน 500 ไม่จ่ายเงิน ซิ่งหนีข้าม 3 จังหวัดกว่า 160 กม. พยายามขับชนรถตำรวจ ชนรถชาวบ้านมั่วไปหมด

 

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 พ.ค.67 ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 จังหวัดเพชรบุรี ได้รับแจ้งจาก น.ส.กันตนา พึ่งโพทอง แคชเชียร์ของปั๊มแห่งหนึ่ง ในพื้นที่แม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม ว่ามีหนุ่มใหญ่ 1 ราย ขับรถเก๋งวีออสสีเทาป้ายทะเบียน กธ-3087 สระแก้ว เข้ามาเติมน้ำมันภายในปั๊มจำนวน 500 บาท พอเติมน้ำมันเสร็จ ก็ขอแสกนจ่าย จังหวะนั้นคนขับก็รับขับรถเก๋งหลบหนีออกไปจากปั๊มหน้าตาเฉย ก่อนขับหลบหนีเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี

ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 จังหวัดเพชรบุรี ได้สั่งการให้ตำรวจ สภ.เขาย้อย สภ.ท่ายาง นำรถยนต์กระบะ สายตรวจออกสกัดจับ และติดตามรถคันดังกล่าว โดยพบว่ารถคันดังกล่าวได้ขับหลบหนี โดยใช้ความเร็วสูงขับผ่านเขต สภ.เมืองเพชรบุรี สภ.บ้านลาด สภ.ท่ายาง สภ.ชะอำ

โดยผู้ก่อเหตุสามารถแหกจุดสกัดได้ทุกจุด และหลบหนีมุ่งหน้าเข้าเขต สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะหลบหนีรถคันดังกล่าวพยายามขับชนรถสายตรวจ และพยายามขับชนรถเก๋งของ น.ส.กันตนา แคชเชียร์ของปั๊ม ที่ขับติดตามมา ก่อนขับไปชนท้ายรถไฟฟ้าของครูโรงเรียนหัวหินรายหนึ่ง ในพื้นที่ อ.ท่ายาง ก่อนขับหลบหนีไป

ตำรวจทางหลวงเพชรบุรีได้นำรถสายตรวจพร้อมด้วยกู้ภัยสว่างสรรเพชญ จุดชะอำ ได้ขับติดตามรถคันดังกล่าว ไปจนถึงบริเวณถนนเพชรเกษม 4 แยกไฟแดง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ ตำรวจได้ใช้อาวุธปืนยิงยางเพื่อสกัดรถคันดังกล่าวได้ ก่อนควบคุมตัวคนขับลงมาจากรถได้

1715316212704

รวมระยะทางขับหลบหนีผ่าน จ.สมุทรสงคราม จ.เพชรบุรี จ.ประจวบคิรีขันธ์ ระยะทางกว่า 160 กม. ทราบชื่อคือนายปรีชา ชิตมน อายุ 53 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น ตรวจค้นภายในรถไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ที่ สภ.ปราณบุรี

1715317285720

น.ส.กันตนา พึ่งโพทอง แคชเชียร์ของปั๊มดังกล่าว เล่าว่า ก่อนหน้านี้เพิ่งจะโดนมาแล้ว 1 เคสที่ออกเป็นข่าว วันนี้ลุงขับเข้ามาเติมน้ำมันตามปกติ จากนั้นแจ้งว่าขอสแกนจ่ายเหมือนเดิม จังหวะที่เด็กปั๊มเดินมาที่ตู้เพื่อหยิบเครื่องสแกนจ่าย ลุงก็รับขับหนีออกไปจากปั๊มอย่างรวดเร็วตน และเพื่อนจึงขับรถเก๋งติดตามมาตลอดเส้นทาง โดยลุงได้ขับหลบหนีและพยายามขับชนรถตำรวจอีกด้วย.

advertisement

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส