โผล่อีก!ชาวบ้านเป็นงงซื้อที่ทำนามากว่า 20 ปี อยู่ดีๆมีคนมาอ้างสิทธิ์ ส.ป.ก.ฟ้องศาลขับไล่

17 พ.ค. 67

โผล่อีก!ชาวบ้านเป็นงงซื้อที่ทำนามากว่า 20 ปี อยู่ดีๆมีคนมาอ้างสิทธิ์ ส.ป.ก.ฟ้องศาลขับไล่ ขอความช่วยเหลือเพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับผู้ที่หากินโดยสุจริต

17 พ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุจิล ชาวบ้านบ้านหนองสะแก ตำบลแหลมทอง อำเภอหนองบุญมาก จังหวัดนครราชสีมา นำเอกสารหลักฐานเข้าร้องเรียนกับนางสาวนลิน โรจนวัทธิกร เจ้าหน้าที่องค์กรช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติ (NRO) เพื่อขอความช่วยเหลือทางคดีข้อพิพาทเรื่องที่ดินทำกิน หลังจากได้ซื้อที่ดินตามเอกสารสิทธิ์ ภบท.5(ภาษีบำรุงท้องที่)จำนวน 13 ไร่ แปลงหนึ่งต่อจากคนรู้จักเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว ในราคา 200,000 บาท และได้เข้าทำประโยชน์ทำนาปีเรื่อยมาอย่างเปิดเผย โดยมีเอกสารหลักฐานการเสียภาษีบำรุงท้องที่และขึ้นทะเบียนเกษตรกร เมื่อเกิดปัญหาภัยแล้งหรือน้ำท่วม ก็ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากทางภาครัฐตามหลักเกณฑ์ของเกษตรกรทุกอย่าง

16_20

ซึ่งจากการสอบถามคุณสุจิล เปิดเผยว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวนายสมพงษ์ ซึ่งเป็นพ่อตาได้ซื้อต่อมาจากนายหล่อน ซึ่งเป็นคนรู้จักในหมู่บ้าน และได้เข้าทำการเกษตรเรื่อยมา จนกระทั่ง 21 ปีผ่านมา ลูกๆของนายเถิกได้นำเอกสารสิทธิ์ส.ป.ก.ที่ได้มีการขึ้นทะเบียนไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2538 มาอ้างสิทธิ์ฟ้องศาลขับไล่ตนเองออกจากที่ดินแปลงดังกล่าว จนเมื่อสืบสาวราวเรื่องไปทำให้ทราบว่าเมื่อครั้งอดีต นายเถิกได้นำเอกสาร ภบท.5 มาขายให้นายหล่อน แต่นายเถิกก็ยังนำเอกสารไปขึ้นทะเบียนส.ป.ก.ด้วยเช่นกัน ต่อมานายหล่อนได้นำที่ดินแปลงนี้มาขายให้พ่อตาของตนใช้ทำนาต่อ จนเมื่อเวลาผ่านไปนายเถิกเสียชีวิต จึงทำให้สิทธิ์ในที่ดินส.ป.ก.ตกไปสู่ทายาท ทำให้ลูกๆของนายเถิกนำเอกสารสิทธิ์ที่ดินส.ป.ก.ที่ได้รับการตกทอดมาอ้างสิทธิ์เหนือที่ดินของตน

14_23

ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากว่า 21 ปี ครอบครัวของตนก็ทำนาอยู่ในที่ดินแปลงดังกล่าวโดยไม่มีใครมาโต้แย้งสิทธิ์ เป็นที่รับรู้กันโดยเปิดเผยทั่วไปว่า ตนเองเป็นเจ้าของที่ดิน แต่รวมถึงไม่มีการปักหมุดส.ป.ก.หรือรังวัดที่ดินแต่อย่างใด แต่เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา อยู่ๆก็มีผู้มาติดป้ายว่าห้ามบุกรุก และปลูกเมล็ดถั่วเขียว โดยอ้างว่ามีเอกสารสิทธิ์ส.ป.ก.จะเข้ามาทำการเกษตรในพื้นที่ของตนเอง และมีหมายศาลมาฟ้องตนในข้อหาบุกรุกที่ดิน จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากติดต่อแจ้งความไปที่สถานีตำรวจ สภ.หนองบุญมาก และที่ส.ป.ก.นครราชสีมา แต่เรื่องก็เงียบ จนเมื่อเห็นข่าวที่อำเภอห้วยแถลง ก็มีการโต้แย้งสิทธิในที่ดินส.ป.ก.ในลักษณะเดียวกับตน จึงได้ร้องขอความช่วยเหลือเพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับผู้ที่หากินโดยสุจริต

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ