ตำรวจ จับยกแก็ง 8 มาเฟียท่าแพก๊วนเดิม ไม่เข็ดข่มขู่รีดไถเงิน ขายอาหารนกนักท่องเที่ยว สร้างความเดือดร้อน ทำลายภาพลักษณ์เชียงใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เคยมีการกวาดล้างจับกุม กลุ่มคนที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับนักท่องเที่ยว และชาวเชียงใหม่ ซึ่งมีพฤติกรรมตั้งตัวเป็นมาเฟียท่าแพ นำอาหารนกมาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อใช้หว่านเรียกนกพิราบที่อยู่บริเวณโดยรอบข่วงประตูท่าแพกลางเมืองเชียงใหม่ ให้ลงมากินอาหาร หวังเพื่อที่จะให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพ
โดยจะมีการเรียกร้องให้ซื้ออาหารให้นกพิราบ และทำทีว่าบริการถ่ายภาพให้กับนักท่องเที่ยวคู่กับฝูงนกพิราบ แต่หลังจากนั้นก็จะเรียกร้องเอาเงินค่าถ่ายภาพจากนักท่องเที่ยว ซึ่งนอกจากจะสร้างความสกปรกจากเศษซากอาหาร และมูลนกพิราบแล้ว ยังทำให้นกพิราบเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว และเสี่ยงที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อโรคต่างๆ ที่นกเป็นพาหะนำโรคมา อีกทั้งยังสร้างความเสื่อมเสียภาพลักษณ์ให้กับเมืองท่องเที่ยวด้วย
แต่หลังจากที่เคยจับกุมไปแล้วก็เพียงเปรียบเทียบปรับทำประวัติ แต่ยังพบว่าไม่นานก็เริ่มกลับมาอีกครั้ง โดยเฉพาะช่วงหลังที่การท่องเที่ยวของเชียงใหม่กลับมามีนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวจีนที่เริ่มกลับมา ก็พบว่ากลุ่มคนเหล่านี้กลับมาสร้างความเดือดร้อนอีกครั้ง
ล่าสุดวันที่ 20 พ.ค. 67 กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว นำโดย พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้มีนโยบายปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายการกระทำความผิด ในคดี 10 กลุ่มต้องห้าม, Overstay และความผิดอื่นๆ ที่มีผลการกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทุกรูปแบบ
งานสืบสวน กก.2บก.ทท.2 โดย พ.ต.ท.อวิรุทธ์ สุขแย้ มสารวัตรสืบสวน ได้เห็นถึงปัญหามาเฟียนกพิราบ ที่กลับมาอาละวาดสร้างความเดือดร้อนอีกครั้ง จึงได้บูรณาการกำลังร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีเจ้าหน้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ สถานีตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ และเทศกิจเชียงใหม่ วางแผนปิดล้อมลานข่วงประตูท่าแพ และสามารถจับกุมกลุ่มคนที่ขายอาหารนก และเรียกเงินนักท่องเที่ยวได้ทั้งสิ้น 8 ราย
โดยแจ้งข้อหา “กระทำการเดือดร้อนรำคาญผู้อื่นในที่สาธารณะ” นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งจากการขยายผลกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มคนไร้บ้าน และคนจรจัด จะรู้วงรอบช่วงเวลาในการออกตรวจของเจ้าหน้าที่ และพยายามหลีกเลี่ยง ทำให้ยากต่อการจับกุม และบังคับใช้กฎหมาย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ได้ดำเนินคดีทางกฎหมาย ทั้งการปรับ ตักเตือน การทำประวัติผู้ก่อเหตุไว้แล้วทั้งหมด