เปิดสาเหตุถังออกซิเจนบึ้มสนั่นซอย ทำหนุ่มลูกจ้างวัย 30 ร่างขาด 2 ท่อน คาดถังออกซิเจนกระแทกพื้นจนเกิดระเบิดขึ้น
23 พ.ค. 67 พ.ต.ต.วชิรวิชญ์ วิสุทธิ์เสรีพันธุ์ สว.(สอบสวน) สน.หนองแขม รับแจ้งเหตุถังออกซิเจนระเบิดมีผู้เสียชีวิต ซอยเพชรเกษม 77/8 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพฯ จึงรายงานผู้บังคับบัญชา ไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.คงศักดิ์ ปานน้อย ผกก.สน.หนองแขม.และฝ่ายสืบสวน และฝ่ายป้องกันปราบปราม สน.หนองแขม แพทย์เวรนิติเวช รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ สูง 2 ชั้น เปิดกิจการเป็นร้านขายส่งออกซิเจน บริเวณหน้าบ้านชั้นล่างใช้เก็บถังออกซิเจน พบรถกระบะ ท้ายรถกั้นคอกสูงภายในมีถังออกซิเจนวางเรียงอยู่ท้ายกระบะกว่า 10 ถัง จอดอยู่ พบเศษซากถังออกซิเจนกระจายทั่วพื้นและคราบเขม่าสีดำจากแรงระเบิด ส่งผลให้ตัวบ้านและกันสาดพังยับเยิน บริเวณท้ายรถกระบะ พบร่างนายบัณฑิต อายุ 30 ปี เป็นลูกจ้างรายวัน สภาพคว่ำหน้าร่างแหลก ตัวขาดครึ่งท่อนจากสะโพก เหลือเพียงท่อนบน หายใจรวยรินในชุดเสื้อยืดสีส้มจมอยู่ในกองซากถังออกซิเจน แต่ยังมีชีพจรอยู่และโต้ตอบเจ้าหน้าที่ได้ กระทั่งทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ใกล้กันพบชิ้นส่วนอวัยวะภายในแตกกระจาย และข้อเท้าตกอยู่ 1 ข้าง เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถาม นายชัยวัฒน์ เจ้าของกิจการและเจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ตัวเองประกอบกิจการ จัดเก็บถังออกซิเจน จากโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อเอามาไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว เพื่อเตรียมนำไปเติมออกซิเจนจากโรงงาน ก่อนนำถังเหล่านี้ส่งให้กับโรงงานอุตสาหกรรมอีกทอดหนึ่ง ไม่ได้ประกอบหรือมีการต่อเติมถังออกซิเจนแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุการเกิดระเบิดขึ้น เป็นช่วงเวลาที่คนงานของตัวเอง กำลังขนถังออกซิเจนเปล่าลงจากรถกระบะ เพื่อนำไปเติมออกซิเจน แต่ไม่ทราบถึงสาเหตุการเกิดระเบิดขึ้น ว่าเป็นเพราะเหตุใด ซึ่งปกติแล้วเป็นไปได้ยาก สันนิษฐานว่า ถังที่ระเบิดอาจมีออกซิเจนหลงเหลืออยู่ภายใน
ด้านนายมานะ เข็ญภาค อาสาสมัครฐานบุญวิภา 11 เปิดเผยว่า ตนได้สอบถามกับชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้บอกว่า ผู้เสียชีวิตได้มีการขนย้ายถังออกซิเจนลงจากรถกระบะคันสีแดงดังกล่าว กระทั่งจู่ๆถังออกซิเจนเกิดกระแทกพื้นจนเกิดระเบิดขึ้น
ขณะที่เพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ติดกัน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเวลา 11.00 น. ได้ยินเสียงระเบิดเกิดขึ้นจนทำให้บ้านของตัวเองเกิดการสั่นสะเทือน จึงแจ้งให้ทุกคนในบ้านออกจากภายนอกตัวอาคาร เพราะกลัวว่าจะเกิดระเบิดซ้ำขึ้นอีก สำหรับจุดเกิดเหตุเพื่อนบ้านให้การว่า ประกอบอาชีพเกี่ยวกับการจัดเก็บถังออกซิเจนจากโรงงานอุตสาหกรรม ประกอบอาชีพมาเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปีแล้ว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ก็เกิดความกังวลอยู่ว่า จะเกิดเหตุระเบิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งหลังจากนี้อาจจะมีการพูดคุย กับเจ้าของกิจการ ถึงมาตรการรักษาความปลอดภัย ถ้าหากเป็นไปได้อยากให้ย้ายออกจากพื้นที่
ด้าน นางสาวสกาวเดือน อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เปิดเผยว่าภารกิจการช่วยเหลือเมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง พบผู้ได้รับบาดเจ็บ มีสภาพขาดครึ่งท่อน อวัยวะ ส่วนขาและแขน กระเด็นออกไปไกลจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 ถึง 30 เมตร แต่ยังพบมีชีพจรอยู่ จึงพยายามกู้ชีพอย่างเร่งด่วน แต่ไม่เป็นผลเสียชีวิตในเวลาต่อมา
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนจะทำการ เชิญผู้เกี่ยวข้องไปสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนร่างผู้ตายส่งไปชันสูตรที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ รพ.ศิริราช เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ก่อนมอบให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป