นัท นิสามณี โดนโกงเงิน 10 ล้าน ไม่บอกใครเพราะอาย เผยชีวิตนี้ไม่เคยคิดอยากเป็นเจ้าแม่ดราม่า
ยูทูบเบอร์และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง "นัท นิสามณี เลิศวรพงศ์" หรือที่รู้จักกันในนาม "นัทนิสา หิ้วหวี" เปิดใจครั้งแรก! ในรายการ WOODY FM เรื่องโดนโกงเงิน 10 ล้านแต่ไม่กล้าบอกใครเพราะอาย ลั่น! ชีวิตนี้ไม่เคยคิดอยากเป็นเจ้าแม่ดราม่า พร้อมเผยเรื่องความรักครั้งล่าสุดตอนนี้รู้สึกมีความสุขที่สุดในชีวิต
ชีวิตคุณโลดโผนมากเลย แฟชั่นก็อลังการ ขายของก็จัดเต็มมาก ดราม่าที่เข้ามาในชีวิตก็สุด ชีวิตเป็นอะไรที่สุดมากเป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กไหม ?
นัท นิสามณี : ตอนเด็กหนูไม่คิดว่าชีวิตจะมาถึงจุดนี้ ตอนเด็กคิดว่าความสุขคือรอวันเกิด ได้กินไก่ KFC หรือได้สุกี้ MK คือความสุขหนูแล้วในชีวิตแค่นั้นเลย ความฝันใหญ่สุดเราแค่นั้น ตอนนั้นคิดว่าการกินไก่ทอดในวันเกิดคือหรูมากแล้ว หรือได้นั่งรถ ปอ. จากหัวลำโพงที่บ้านเก่าไปสยาม ความรู้สึกหนูเหมือนได้นั่งลีมูซีนเลย เพราะว่าทั่วๆไปต้องรอรถเมล์ฟรี
แปลว่าเราเริ่มต้นมาจากเกือบศูนย์ไหม ?
นัท นิสามณี : ติดลบค่ะ สำหรับหนูมันเกินที่หนูเคยฝันไปแล้ว อันนี้ยังไม่เคยเล่าที่ไหนเพราะอายไม่กล้าพูด มันเหมือนทุกคนชมเราว่าพี่นัทปังมาก พี่นัทประสบความสำเร็จเป็นคนเก่ง เชื่อไหมว่านิสามณีเคยโดนหลอกเงิน 10 ล้านบาทหายไปเลยกับการลงทุนที่เขาโดนกันเยอะมาก หนูเห็นคนในวงการมาบอกว่านี่ก็โดนนั่นก็โดน เรานึกในใจว่าถ้าออกไปบอก ตอนนั้นเราคิดเยอะกลัวว่าคนก็จะตัดสินเราว่าเป็นคนโง่ ซึ่งทำตัวเอง หนูเป็นคนที่มูฟเร็วกับความเศร้าหรือผิดหวังอะไรก็ตามบางทีไม่ใช่แค่ความรักนะคะ เรื่องเงินหนูก็มูฟเร็ว 10 ล้านสำหรับหนูเยอะมาก วิ่งงานสู้ตายมาก
หนูได้เงินมาแล้วมีคนมาบอกว่ารู้จัก Passive Income มันเป็นคำที่หอมหวานสำหรับคนทำงานหนักอย่างหนูมาตลอดชีวิต เลยรู้สึกว่าเอาเงินไว้ในธนาคารดอกเบี้ยเท่าไหร่เอง ตรงนี้ 20% เลยเหรอต่อเดือน เอาไปลงดีกว่า ด้วยความที่ทำในสิ่งที่เราไม่ถนัด แล้วเราเป็นกระเทยที่ไม่ชอบเอกสาร ตอนนั้นมีเงินเก็บ 10 ล้านแรกคือเงินเก็บทั้งหมดที่หามา เอาไปลงเลย 10 ล้านอีกเดือนเดียวมันจะต้องเพิ่มมาเป็น 12 ล้าน พอเอาไปลงปุ๊บเดือนต่อมาระบบล่ม เป็นคนที่มองโลกแง่บวก
ผ่านไป 3 เดือนเริ่มไปถามใจเย็นมาก รู้ตัวอีกทีเขาบินไปต่างประเทศเป็นเรื่องเป็นราว อ๋อ! หนูโดนโกงเหรอ แฟนเก่าหนูลงแค่ 2-3 ล้านนะจะเป็นจะตายนอนไม่หลับเป็นเดือนเพราะเขาเครียดกว่าเรามาก หันไปดูเขาไม่กินข้าว ซูบผอม เงินก็ไม่ได้กลับมา ไม่เครียดละกันเพราะเครียดไปก็ไม่ได้กลับมา ร้องไห้ให้ตายเงินก็ไม่ได้กลับมา ก็คิดว่าพรุ่งนี้เริ่มใหม่ ยังไม่ตายมือเท้าครบหน้าเรายังสวยอยู่ ยังขายของได้อยู่ หาใหม่ สิ่งที่ได้เรียนรู้ก็คืออย่าไปทำอะไรที่เราไม่ถนัดหรือไม่รู้ แล้วหนูก็มีภูมิคุ้มกันเรื่องการลงทุนมากขึ้น แต่ไม่ได้บอกว่าหนูไม่เคยเครียดนะ เป็นคนที่เครียดเป็นแต่ว่าจบเร็ว
ถามถึงเรื่องดราม่า เหมือนทุกคนพร้อมรอคอยที่จะดราม่าไปกับเรื่องของคุณ ?
นัท นิสามณี : ทุกรายการเวลาเชิญหนูไปก็จะบอกว่าเราเป็นเจ้าแม่ดราม่า หนูขอพูดตรงนี้เลย ไม่เคยอยากเป็นเจ้าแม่ดราม่า
(เสียงสั่นจะร้องไห้) ไม่เคยอยากมีภาพที่เวลาคนพูดถึงว่าแบบ นิสามณีสตรอง ผ่านมากี่ดราม่าก็รอดได้ ไม่เคยตื่นมาแล้วใช้ชีวิตว่าวันนี้ทำเรื่องอะไรดีให้มันดราม่าดีกว่าแล้วจะได้ดัง ไม่เคยเลย ทุกวันนี้ใช้ชีวิตแค่ว่าอยากทำคอนเทนส์ที่มันสนุกกับตัวเรา ที่มีคุณภาพ ถ้าใครเป็น FC หนูจริงๆ จะรู้ว่าถ้าไปเที่ยวไหนเราจะแทรกเกร็ดความรู้ที่นั่นหรือแนวการใช้ชีวิต อยากเป็นบุคคลที่ Play Safe ไม่ได้อยากให้คนด่าจะได้ดัง ๆ เพิ่มยอดฟอล คนเข้าใจผิดไปเยอะมาก คนก็จะมาเมนต์ว่าคนนี้อีกแล้ว คนเดิม ไม่เข็ดเลยเนอะ เมื่อไหร่จะคิดได้อะไรแบบนี้ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้อยากจะเป็น
ซึ่งเคยเป็นปมของหนูมาก เคยรู้สึกว่าหรือไม่ทำต่อดี เพราะถ้าไม่ทำแปลว่าจะไม่มีดราม่าเกิดขึ้น ถ้าเราไม่ขยับตัวเลยหรือเลิกถ่ายวีดีโอใดๆก็ตาม มันจะไม่มีคำว่าปังหรือพังไง แต่มาวันหนึ่งหนูคิดได้ว่าเราไม่ได้อยากจะเป็นแบบนั้น ต้องกลับมาคุยกับตัวเองเลยนะ หนูทำงานโดยสุจริต หาเงินมาได้โดยสุจริต ไม่ได้ไปโกงใคร ไม่ได้ไปฆ่าใครตาย ดังนั้นดราม่าที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มันเป็นความไม่พอใจมายาคติบางคน หรือบางคนเห็นเราแล้วหมั่นไส้ อยากให้เราโดนดราม่ามันมีหมดเลยทุกรูปแบบ มันดันมาเกิดกับหนู ซึ่งก็ไม่รู้ทำไมต้องเป็นเราที่ถูกเลือกให้เป็นเจ้าแม่ดราม่า
ยอดติดตาม Follower ตอนแรกคิดว่าคนมาฟอลเพราะเขารักเรา ไม่ใช่ใช่ไหม ?
นัท นิสามณี : ตอนนี้หนูโตขึ้นมากเลย ในความคิดของหนูนะคะ ถ้าเทียบกับตัวเองตอนเด็ก ตอนเด็กหนูเคยคิดว่าคนที่มา Follower ก็ต้องชอบเรา เพราะเวลาหนูฟอลใครก็แปลว่าอยากดูชีวิตคนนั้นอยากสนับสนุนเขา เพราะถ้าไม่ชอบใครคงไม่กดคิดแบบนั้น พอโตมาวันหนึ่งเราเริ่มมีดราม่าครั้งแรก หนูใจสลายมากพี่วู้ดดี้ ตั้งแต่เริ่มมีชื่อเสียงในอินเตอร์เน็ตทุกคนจะชมไปทางบวกทั้งหมด อยู่มาวันหนึ่งมีคนด่าแบบ มันช็อกอ่ะ แบบมีคนเกลียดเราขนาดนี้เลยเหรอ พอเปิดเข้าไปดู เอ้า! เขาฟอลเราอยู่ ดังนั้นแปลว่าบนโลกใบนี้ ทุกคนไม่ได้คิดเหมือนหนู บางคนมาติดตามเรา อาจจะไม่ชอบเราก็ได้แต่รอวันที่เราอาจจะทำอะไรพลาดแล้วขย้ำเลย
แก๊งหิ้วหวี เริ่มต้นได้ยังไง ?
นัท นิสามณี : จุดเริ่มต้นมาจากแค่หนูเป็นคนหัวการค้ามาก คือ มิกซ์ เฉลิมศรี เขาชวนหนูไปเที่ยว เราก็เลยบอกว่าไปเที่ยวมันเสียเงิน พวกเราสามารถไปเที่ยวแล้วได้เงินได้ด้วยนะ คือหนูเป็นคนที่เห็นทุกอย่างเป็นโอกาส เป็นเงิน เป็นคอนเทนส์ ได้หมดเลย หนูก็ไม่รู้พระเจ้าออกแบบสมองหนูมาเป็นแบบนี้ได้ยังไง คือถ้าใครบอกหนูเป็นเจ้าแม่ดราม่าเราไม่ยอมรับ แต่ถ้าบอกว่าเป็นเจ้าแม่คอนเทนส์หนูยอมรับ ไปแล้วเราก็ได้เงินทำรายการกัน รายการเที่ยว แล้วเราก็ออกไป แล้วมันก็กลายเป็นหิ้วหวีมาถึงทุกวันนี้
มีอะไรอยากจะบอกกับทุกคนที่สนับสนุนไหมที่ให้เรามาถึงวันนี้ ?
นัท นิสามณี : กว่าจะมีวันนี้ที่วู้ดดี้และหลายๆ คนพูดถึงหิ้วหวีได้แบบว่าพวกคุณเก่งมากนะ วันแรกที่พวกหนูออกมา เราโดนด่านะว่าเป็นแก๊งกระเทยตลาดล่าง ก็อปปี้ คือตอนนั้นพวกหนูต้องสู้กับเงาของรุ่นพี่ที่ใหญ่มากกับแก๊งเทยเที่ยวไทย เพราะว่าพอเราทำรายการแก๊งกระเทยรวมตัวกันออกไปเที่ยวทุกคนก็จะพูดกันตลอดเลย ช่วงแรกๆที่พวกหนูยังไม่สตรอง ว่าก็อปเทยเที่ยวไทย ทำตามรอยเทยเที่ยวไทย
ซึ่งหนูต้องบอกว่าพวกพี่ๆเขาเป็นตัวอย่างที่ดีมาก เป็น Role Model ที่มันอาจจะซึมทั้งทางตรงและทางอ้อมที่ทำให้มีหิ้วหวี เพราะทุกอย่างที่เราเสพมันมีส่วนผสมมาเป็นประสบกราณ์เรา แต่พวกหนูก็เหนื่อยมากกับการที่ต้องต่อสู้กับคำกดดันหรือถากถาง ถ้าพูดตรงๆ วันแรกที่เริ่มมีหิ้วหวี หนูบอกกับมิกซ์ว่าเรามีทำรายการเที่ยวกันอีก 5 ปีเราจะครองพื้นที่สื่อ ตอนนั้นหนูคิดแค่ว่าไปทำรายการเที่ยวกันเดี๋ยวเราจะได้สปอนซ์สัก 1-2 แสน อะไรแบบนี้มันจับพลัดจับผลูมาหมด
มีทั้งวันที่ดีวันที่แย่ปะปนกันมาเรื่อยๆ แล้วสิ่งหนึ่งที่หนูเชื่อว่าทำให้อยู่ถึงทุกวันนี้ อย่างหนึ่งมันมาจากแฟนๆ FC ต้องขอบคุณมากๆ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือพวกหนูไม่เคยปล่อยมือกัน กล้าพูดได้เลยว่าแก๊งหนูไม่เคยอิจฉากัน แทงข้างหลังกันหรืออะไร มันเป็นกลุ่มเพื่อนที่มหัศจรรย์มาก ไม่ได้บอกว่าหิ้วหวีเพอร์เฟคนะคะ เรื่องแย่ๆ ชั่วโมงหนึ่งก็เล่าไม่หมด (หัวเราะ) แต่ตอนนี้ขอเล่าเรื่องดีๆก่อน เวลาที่เราเกิดปัญหาอะไร ทุกคนก็พร้อมโดนไปด้วยกัน เลยรู้สึกว่าเพื่อนที่เวลาเราล้มแล้วเจ็บไปพร้อมกับเราได้ คือเพื่อนที่ต้องนึกถึงเวลาที่เราประสบความสำเร็จ
เรื่องความรักปัจจุบัน ทำไมถึงไม่ยอมเปิดหน้าแฟน ?
นัท นิสามณี : (หัวเราะ) อย่างที่หนูบอกว่าเป็นเจ้าแม่คอนเทนส์ หนูขอเล่าก่อนนะคะว่าชีวิตจริงหนูกับแฟนคนปัจจุบันนี้เดินไปไหนไม่เคยปิดนะคะเดินเปิดหน้าตลอด พูดเลยในแก๊งหิ้วหวี 5 คนเจอหนูง่ายสุด เข้าถึงหนูได้ง่ายสุด เดินตามห้างบ่อย ทุกคนที่เจอก็จะเห็นแฟนหนู ขอถ่ายบ้าง แอบถ่ายบ้าง หนูก็จะบอกว่าถ่ายได้เลยลูก ถ่ายรวม 3 คนได้เลยนะ เก็บไว้วันที่แม่เปิดตัวนะช่วยแม่หน่อย ช่วยแม่ทำมาหากิน ชีวิตจริงเราไม่เคยปิดแต่หนูเป็นนักเล่าเรื่อง รู้ว่าต้องทำอะไร เราคือผู้กำกับของช่องสะบัดแปรง หนูรู้ว่าคนดูอยากดูอะไร เพราะคอนเทนส์ที่เราจะปล่อยไปจะมีแก่นเดียวเลยคือคิดในมุมคนดู บางคนก็อาจจะไม่เข้าในงานเราที่สุ้นจนเยี่ยวเหนี่ยวเม็ดเยอะเกิน เดี๋ยวจะอันฟอลแล้วนะ นั่นแปลว่าเรากำลังไปถูกทางที่วางไว้ เพราะถ้าเราปิดแล้วคนไม่สนใจแสดงว่าเราอ่านเกมส์ผิด ถ้าคนยิ่งลุ้นหรือยิ่งโมโหแปลว่าหนูกำลังทำซีรีย์ที่มันถูกต้องอยู่
แล้วตกลงว่าความรักเป็นยังไงบ้าง ?
นัท นิสามณี : แอร๊ย! อยากจะอวดมากเลย ตอนนี้หนูมีความสุขในมุมของความรักมากที่สุดในชีวิตตั้งแต่หนูเคยมีมา มากกว่าตอนมีแฟนปั๊บปี้เลิฟ แต่ทุกความรักดีหมดเลยนะคะ แต่แค่ครั้งนี้มันเป็นรสชาติที่แบบก่อนนอนหนูจะขอบคุณกับทุกคืนว่าขอบคุณที่เข้ามาในชีวิตนะ ตื่นเช้ามาไม่ต้องทำอะไรหนูก็มีความสุขแล้ว แค่เราเจอกันก็มีความสุขมาก เพราะสิ่งที่เขาทำ อยากจะบอกว่าทุกคนตามหาความรักในรูปแบบไม่เหมือนกัน บางคนตามหาคู่ชีวิตที่มันที่มาช่วยเรื่องการเงิน บางคนตามหาคู่ชีวิตที่ช่วยเพิ่มชื่อเสียง
ส่วนตัวหนูชัดเจนมากตามหาคู่ชีวิตที่จะมาช่วยสนับสนุนเรา ในเรื่องของความรู้สึกเอาอกเอาใจ เงินหนูไม่ต้องการหนูหาได้ ชื่อเสียงหนูมีอยู่แล้วไม่ต้องการให้ใครมาช่วยเสริมบารมี สิ่งที่ตามหาและวันนี้ที่รู้ว่าเราอยากได้สิ่งนี้มานานมากคือการได้รับการดูแล หนูไม่เคยรู้สึกภูมิใจในตัวเองหรือรูปร่างตัวเองขนาดนี้มาก่อนจนเจอแฟนคนนี้ เขาทำให้หนูรักตัวเองมาก หนูเป็นกระเทยแล้วก็ยังไม่แปลงเพศ ผู้ชายบางคนก็รับเราได้ในแบบที่ทนๆรับ หรือบางคนอาจจะรับไม่ได้เลยเวลาที่เห็นอวัยวะเพศเรา มันมีทุกรูปแบบที่เจอ คนนี้เขาภูมิใจในทุกส่วนของร่างกายเรามาก หนูไม่เคยกล้าเดินแก้ผ้าเวลาอยู่กับผู้ชาย แม้ว่าคบมา 10 ปีก็ยังไม่เคย แต่กับคนนี้เรานอนแก้ผ้ากันโดยที่เราไม่ได้เคอะเขินในทุกส่วนของร่างกายเลย นี่เป็นโมเมนต์ที่หนูมีความสุขในความรักที่สุดในชีวิต ณ ตอนนี้