ไม่หวั่นเชื้อโรค! พบประตู “ท่าแพ” มีมาเฟีย ยังแอบขายอาหารนกพิราบให้กับนักท่องเที่ยว ขณะที่เพจหมอนูญเตือนระวังปอดอักเสบ
จากเพจของ "หมอมนูญลีเชวงวงศ์FC" ที่โพสต์แชร์เตือนภัยเรื่องเกี่ยวกับนกพิราบที่พบว่า"มีผู้ป่วยหญิงอายุ 52 ปี บ้านอยู่กทม.ปกติแข็งแรงดีไม่ไอไม่มีไข้ ไม่เบื่ออาหาร น้ำหนักไม่ลด ไม่ปวดหัว ไม่เคยสูบบุหรี่ ไม่มีโรคประจำตัว ไปตรวจร่างกายประจำปี วันที่ 12 พฤษภาคม 2567 เอกซเรย์ปอดพบก้อนเล็กๆ เกิดขึ้นใหม่ที่ปอดขวากลีบบน(ดูรูป)เอกซเรย์ปอดก่อนหน้านั้น 1 ปี ปกติ ทำคอมพิวเตอร์ปอดพบก้อนขนาด0.9ࡦ.9ࡧ.7เซนติเมตร เห็นโพรงอยู่ข้างในก้อนที่ปอดขวากลีบบน(ดูรูป) ตรวจเลือดไม่ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยไปรับการผ่าตัดปอดเอาก้อนจากปอดขวากลีบบนออกที่โรงพยาบาล ใกล้บ้าน เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม เพราะสงสัยมะเร็งปอด ผลพยาธิวิทยาเป็นปอดอักเสบ จากเชื้อราคริปโตคอคคัสตรวจเลือดหาคริปโตคอคคัสแอนติเจน หลังผ่าตัด 4 วัน ให้ผลบวกtiter1:8แพทย์เริ่มให้การรักษาด้วยยาfluconazoleผู้ป่วยมาขอคำแนะนำหลังจากนี้ควรทำอย่างไรต่อไป
ซักประวัติมีนกพิราบอยู่แถวบ้านหลายตัว ให้อาหารนกพิราบประจำผู้ป่วยรายนี้หายใจสปอร์ของเชื้อราคริปโตคอคคัสนีโอฟอร์แมนส์(CryptococcusNeoformans)จากมูลนกพิราบเข้าไปในปอดทำให้เกิดปอดอักเสบเป็นก้อนที่มีโพรงข้างใน โชคดีที่เชื้อราไม่ได้กระจายออกนอกปอด เนื่องจากร่างกายแข็งแรงมีภูมิคุ้มกันดี วางแผนให้ยาฆ่าเชื้อราฟลูโคนาโซลชนิดกินต่อไปประมาณ 6 เดือนแนะนำให้อยู่ห่างและหลีกเลี่ยงให้อาหารนกพิราบ"
ล่าสุดกลายเป็นข่าวดังข้ามคืนในเรื่องราวดังกล่าว แต่ที่เชียงใหม่เองก็พบว่ามีปัญหาที่เกิดขึ้นจากนกพิราบ และเป็นพื้นที่เสี่ยงที่อาจจะแพร่โรคต่างๆที่มาจากนกพิราบที่เป็นพาหะนำโรคได้โดยเฉพาะที่ข่วงประตูท่าแพกลางเมืองเชียงใหม่ ซึ่งมีนกพิราบจำนวนมากตามมากับอาหารที่มีกลุ่มคนนำมาหว่านเรียกนกพิราบให้มากินอาหาร เพื่อหวังที่จะให้นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปร่วมกับฝูงนกพิราบที่ออกมาสวยงามแปลกตา แต่แฝงด้วยกันตรายจากโรค จนเป็นที่มาของข่าวมาเฟียขายอาหารนกพิราบท่าแพจนเจ้าหน้าที่ต้องจับกุมและปรับทำประวัติแต่ค่าปรับเท่านั้นปัญหานี้ก็ยังคงกลับมา
แม้ล่าสุดตำรวจและเทศบาลนครเชียงใหม่ จะจัดชุดเวรยามมาตั้งป้อมกวดขันจับกุมแต่ก็ยังพบว่ากลุ่มมาเฟียขายอาหารนกพิราบก็ยังคงฉวยโอกาสที่เจ้าหน้าที่ไม่อยู่หรือนอกเวลาทำงาน มาให้อาหารเรียกนกและขายอาหารให้กับนักท่องเที่ยวอยู่ แม้จะมีการติดป้ายไปทั่วพื้นที่ว่าห้ามให้อาหารนกหรือจำหน่ายอาหารนกในพื้นที่ดังกล่าว
ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจเช้านี้(4มิย.67)ช่วงก่อนเวลา8.00น.พบว่ายังมีกลุ่มมาเฟียนกพิราบกลุ่มเดิม หน้าเดิม แอบนำอาหารนกมาซกซ่อนไว้ตามจุดต่างๆ แอบใส่แก้วน้ำดื่มซุกตามซอกมุมกำแพงบ้าง หรือแบบซุกไว้ในกล่องเก็บของท้ายจักรยานยนต์ หรือตามโคนต้นไม้และม้ามั่งบ้าง เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ และพอสบโอกาสก็จะนำออกมาหว่านให้อาหารเรียกนกพิราบลงมาในช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมาถ่ายรูป และบริการถ่ายภาพให้พร้อมกับเก็บเงินค่าบริการ
ทั้งนี้ปัญหาการเพิ่มจำนวนนกพิราบ ที่ข่วงประตูท่าแพก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้อย่างเด็ดขาด ปัจจัยหลักคือเรื่องของแหล่งอาหารหากยังมีการให้อาหารปริมาณนกก็ยังเพิมขึ้นความเดือดร้อนที่ตามมาคือสิ่งสกปรกเลอะเทอะ จากมูลนกพิราบขนนกเศษอาหารหรือแม้แต่นกที่ป่วยตายก็พบรายวันซึ่งเช้านี้ก็พบนกพิราบป่วยใกล้ตาย แอบบซุกอยู่ใต้ที่นั่งรอบต้นไม้ก็ยังมีให้เห็น
ขณะเดียวกันนกพิราบที่เพิ่มจำนวนก็สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับบ้านเรือนประชาชนโรงแรมร้านค้าร้านอาหารพบว่ามีนกพิราบไปทำรังออกลูกขยายพันธุ์กันและยังทำให้เกิดความสกปรกจากมูลนกและขนนกหวั่นว่าจะมีการแพร่ระบาดของเชื้อโรคเข้าสู่คนได้โดยง่ายปัญหานี้จึงยังต้องรอการแก้ไขต่อไป
