“ทนายรณรงค์” ชี้ การอ้างเคยกินยาจิตเวชไม่สามารถชี้ได้ว่า ฆาตรกรป่วยวิกลจริตจริง
จากกรณีหนุ่มวัย 18 ปี ฆ่าเปลือยหั่นศพแฟนสาววัย 18 ปี อุ้มร่างทิ้งพงหญ้าที่ใต้ทางด่วนอุดรรัถยา ม.4 ต.บางพูน อ.เมืองปทุมธานีเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยผู้ก่อเหตุมีประวัติรักษาอาการจิตเวช ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งนั้น ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะกินยาที่รักษาอาการของตัวเองเกินขนาด จนหมดสติไป ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่า ผู้ก่อเหตุจะนำเรื่องอาการป่วยของตัวเองเป็นข้ออ้างในการรับโทษหรือไม่นั้น
ในมุมของกฎหมาย ทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร มองว่าที่ผ่านมาเมื่อเกิดเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้น มักจะมีการนำอาการป่วยวิกลจริตมาอ้างเพื่อที่จะลดหย่อนโทษ ในชั้นศาล เพราะตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 65 เป็นบุคคลไม่รู้ดีรู้ชั่ว หรือในทางกฎหมายระบุว่า เป็นคนวิกลจริต ศาลอาจจะไม่ลงโทษเลยก็ได้ แต่ถ้ายังมี สติสัมปชัญญะอยู่บ้าง ศาลจะลดโทษ แล้วแต่ศาลพิจารณา
แต่การอ้างว่าเคยกินยารักษาอาการจิตเวช มาก่อน ไม่สามารถนำมาอ้างที่จะไม่ถูกดำเนินคดี และลงโทษได้ เพราะต้องมีการตรวจสอบองค์ประกอบอื่น ๆ อย่างละเอียด เพราะจากคำฎีกาในอดีต หากบุคคลดังกล่าว สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติประกอบกิจการการงานได้ศาล ไม่เชื่อว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวชแน่นอนเค้าจะต้องรับโทษเต็มๆ