จากกรณีที่ทีมข่าวอมรินทร์ได้นำเสนอเรื่องราวของ
นายอภิรักษ์ ชัชอานนท์ หรือ เสี่ยโป้ อายุ 26 ปี ออกมาแฉพฤติกรรมฉ้อโกงของ
นายธนบดี จิตตา หรือ “มีน” (21 ปี) หลอกขายรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น เอ็มอาร์เอส สีเหลือง ให้กับนายบอล รุ่นน้องของเสี่ยโป้ ขณะที่ ต่อมา
นายณัฐวุฒิ สุดธนกิจ หรือ “บูม” (38 ปี) เจ้าของรถตัวจริง ได้ติดต่อมาหา เสี่ยโป้ พร้อมระบุว่า รถคันดังกล่าวตนเป็นเจ้าของตัวจริง โดยเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2560 พร้อมติดต่อเสี่ยโป้ เพื่อขอรถคืนในวันที่ 11 สิงหาคม 2560 แต่กลับไม่ได้รถคืน เนื่องจากรถได้ถูกเปลี่ยนมือขายไปอีกทอด โดยนายบอล น้องเสี่ยโป้ ได้รับปากว่าจะหารถมาคืนให้เร็วที่สุด
ล่าสุด (14 ส.ค.) ทีมข่าวอมรินทร์เดินทางมาพบ
นายณัฐวุฒิ สุดธนกิจ หรือ บูม เจ้าของรถโตโยต้า รุ่น เอ็มอาร์เอส สีเหลือง ได้เดินทางเข้ามาแจ้งความที่สน.คันนายาว เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยดำเนินในเรื่องรถอีกทางหนึ่งด้วย หลังจากเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว นายณัฐวุฒิ เผยว่า วันนี้ ตนได้แจ้งความกับ
นายฐาภพ พงษ์สมัย หรือบอส เจ้าของเต็นท์รถย่านสายไหมแล้ว เป็นคนนำรถของตนไปจำนำ แจ้งความข้อหายักยอกทรัพย์ เนื่องจากหลังคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนมีหลักฐานที่ชัดเจนว่า ได้นำรถไปฝากขายไว้ ซึ่งทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียก นายฐาภพ เข้ามาให้ปากคำด้วย และจะทำการเดินเรื่องสืบสวนข้อมูลให้ ทั้งนี้ส่วนตัวตนยังไม่ได้แจ้งความกับบุคคลอื่น ซึ่งมองว่า
น้องบอล น้องเสี่ยโป้ มีเจตนาที่จะคืนรถ ถ้าตนแจ้งความ น้องบอลก็จะถูกข้อหาฐานรับซื้อของโจรด้วย ตอนนี้ตนจึงยังไม่แจ้งเอาผิด เพราะว่าน้องบอลรับปากแล้วว่าจะช่วยนำรถมาคืนตนด้วย
ขณะนี้ ตนติดต่อกับทางครอบครัวเสี่ยโป้และน้องบอลตลอด อย่างวันนี้ ที่มาแจ้งความน้องบอลก็ทราบ เพราะได้ทักข้อความทางเฟซบุ๊กไปพูดคุยกับเสี่ยโป้แล้ว ว่า ถ้าตนยังไม่ได้รถต้องขอแจ้งความเอาไว้ก่อน ซึ่งทางเสี่ยโป้ก็บอกว่าแจ้งความได้เลย เพราะทางนี้ตนมองว่าพวกเขามีเจตนาในการคืนรถอยู่แล้ว ซึ่งจากการคุยกันล่าสุดนั้น น้องบอลได้แจ้งว่า น่าจะภายในสัปดาห์หน้า จะได้รถคืน ตอนนี้ตนไม่กังวลเรื่องที่จะได้รถคืนแล้ว แต่ที่กังวลคือขั้นตอนของคนที่นำรถไปขายแบบไม่ถูกต้องมากกว่า และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ กับคนพวกนี้มากกว่า
ด้าน
ร.ต.อ.สมศักดิ์ ลีกา ร้อยเวรที่รับเรื่อง เปิดเผยว่า ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายเรียก นายฐาภพแล้ว ซึ่งคดีนี้อยู่ที่ทางดุลยพินิจของผู้เสียหายว่าต้องการจะดำเนินคดีกับใคร ในกรณีนี้ นายณัฐวุฒิ มีความประสงค์ที่จะดำเนินคดีกับเจ้าของเต็นท์รถคือ นายฐาภพ พงษ์สมัย หรือนายบอส เพียงคนเดียว เท่ากับว่าคนอื่นถือว่ายังไม่มีความผิด เว้นแต่ว่า นายฐาภพ เข้ามาให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตามหมายเรียก และซัดทอดคนอื่นต่อ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
อย่างไรก็ตามกรณีนี้ ต้องดูที่เจตนาของผู้ซื้อรถด้วย ว่า มีเจตนาที่จะซื้อรถคันนี้มา ทั้งๆที่รู้ว่าผิด หรือว่าถูกหลอก หรือไม่ ส่วนรถคันนี้ ที่หาเจอนั้น จะไม่ใช่รถของกลาง เพราะนายณัฐวุฒิ มีหลักฐานยืนยันการเป็นเจ้าของรถชัดเจน ทั้งนี้ ทางฝั่งนายณัฐวุฒิ สามารถไปตกลงไกล่เกลี่ยนอกรอบ กับทางคู่กรณีได้ตลอด หากได้รถคืน และสามารถมาถอนแจ้งความในภายหลังได้