แจ้ง 3 ข้อหาหนัก ส.ต.อ. มือยิงหนุ่มชาวเมียนมาดับคา รพ. สารภาพไม่พอใจผู้ตายก่อกวนบิดาที่นอนเตียงติดกัน จึงใช้ปืนยิงด้วยอารมณ์ชั่ววูบ
8 มิ.ย.67 ที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ รองผบก.ภ.จว.ขอนแก่นและพ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญญานิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมกันให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าในการสอบปากคำ ส.ต.อ.วีระพงษ์ ตำแหน่งผบ.หมู่สถานีตำรวจภูธรพระยืน จังหวัดขอนแก่น ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ยิงนาย KyawSwarAong(อ่านว่าจอ-ชอ-อ่อง) อายุ 29 ปี สัญชาติเมียนมาเสียชีวิตขณะที่กำลังนอนอยู่บนเตียงคนไข้อาคารศัลยกรรมระบบปัสสาวะชั้น 5 ที่โรงพยาบาล
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.เมืองขอนแก่น,สืบสวนภ.จว.ขอนแก่นและสืบสวนภาค 4 สามารถจับกุมตัว ส.ต.อ.วีระพงษ์ ได้แล้ว หลังญาติได้ติดต่อขอพาเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมตรวจยึดรถยนต์กระบะที่คนร้ายใช้ขับมาก่อเหตุเสื้อผ้าที่สวมใส่และอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่ใช้ก่อเหตุได้ที่บ้านพักของ ส.ต.อ.วีระพงษ์ ในพื้นที่อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น
พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า จากการสอบปากคำ ส.ต.อ.วีระพงษ์ ผู้ต้องหาในเบื้องต้นยังให้การได้ไม่มากนัก เนื่องจากผู้ต้องหาอยู่ในอาการเครียดสับสนและพูดน้อยมีพฤติกรรมที่เสี่ยงจะทำร้ายตัวเอง ซึ่งได้ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ว่าที่ทำไปเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ เนื่องจากในวันและเวลาที่ก่อเหตุนั้นผู้ต้องหาได้เดินทางไปเยี่ยมบิดาที่เข้ารับการรักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาล ตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งได้พักรักษาตัวอยู่ที่อาคารศัลยกรรมระบบปัสสาวะชั้น 5 ซึ่งเป็นห้องเดียวกันกับที่ผู้เสียชีวิตนอนรอเข้ารับการผ่าตัดอยู่ ซึ่งเตียงพ่อของผู้ต้องหาอยู่ติดกับเตียงของผู้ตาย โดยผู้ต้องหาอ้างว่าผู้ตายพูดจาก่อกวนพ่อของตนเอง จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายจนเสียชีวิต โดยที่ผู้ตายและผู้ต้องหาไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
ส่วนประเด็นสงสัยที่ว่าเกี่ยวกับการใช้รถยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาก่อเหตุนั้นจะมีการสอบปากคำต่อไปเพื่อให้สิ้นสงสัยแต่ข้อจำกัดในตอนนี้คือผู้ต้องหามีความเครียดและสับสน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้สอบถามประวัติการรักษาของผู้ต้องหาทราบว่ามีอาการป่วยซึมเศร้าแต่ขาดการทานยารักษา ส่วนในประเด็นที่มีการใช้สารเสพติดหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
พล.ต.ต.อนุวัตร กล่าวอีกว่า ในช่วงที่ผู้ต้องหาปฏิบัติหน้าที่เป็น ผบ.หมู่ที่สถานีตำรวจภูธรพระยืน จ.ขอนแก่น ทราบว่า ยังคงทำหน้าที่ที่โรงพักตามปกติเพียงแต่ไม่ได้ออกไปปฏิบัติงานที่ต้องพบปะกับผู้คนแต่เป็นคนค่อนข้างเก็บตัว ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ก็จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงเพื่อเอาผิดทางวินัยควบคู่ไปกับคดีอาญา โดยจะต้องให้ออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งหลังจากนี้จะมีการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้พกและยิงปืนโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชนส่วนจะมีข้อกล่าวหาใดเพิ่มหรือไม่นั้นต้องพิจารณาจากพยานหลักฐาน