รวบ "โบ๊ท พระประแดง" มือยิงอริหมดโม่ กลาง ถ.ลาซาล-แบริ่ง

5 ก.ค. 67

รวบแล้ว "โบ๊ท พระประแดง" ยิงอริหมดโม่ กลางถนนลาซาน-แบริ่ง พบเป็นระดับหัวโจกในแก๊งอิทธิพลเถื่อนด่านสำโรง อ้างแค้นถูกท้าทาย

จากเหตุอุกอาจเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 67 เวลา 03.00 น. บริเวณสามแยกไฟแดงลาซาล-แบริ่ง (ตัดใหม่) แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพ เกิดเหตุกลุ่มชายฉกรรจ์ ยกพวกไล่ยิงคู่อริ โดยขับขี่รถจักรยานยนต์ไล่ล่า ก่อนจอดรถ ตั้งป้อมและใช้อาวุธปืน ยิงไปที่รถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีดำ เป็นเหตุให้นายเจษฎา วิริยะ ที่นั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับ เสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังเกิดเหตุนครบาล นำกำลังชุดสืบนครบาล กว่า 100 นาย เปิดปฏิบัติการ “โค่นอิทธิพลเถื่อนด่านสำโรง” นำหมายค้นศาลบุกทลาย “เซฟเฮ้าส์” แหล่งกบดาน 5 จุด ตรวจยึดอาวุธปืน 38 กระบอก กระสุนกว่า 800 นัด พร้อมยุทธภัณฑ์จำนวนมาก จากนั้นได้ขยายผลจนสามารถพิสูจน์ทราบมือยิงได้ คือ “นายชนะพันธ์ หรือโบ๊ท พระประแดง

จนกระทั่งวันนี้ (5ก.ค.) “ผู้การจ๋อ” พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้การสืบนครบาล นำกำลังไปรวบ นายชนะพันธ์ หรือโบ๊ท พระประแดง ได้กลางถนน ขณะกำลังหอบเสื้อผ้าเตรียมหลบหนี ตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ข้อหา “สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใด ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนอันเป็นความผิดฐานซ่องโจร , ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว , พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันสมควร , ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน , ทะเลาะกันอย่างอื้ออึงในทางสาธารณะ , ชักหรือแสดงอาวุธในการวิวาทต่อสู้”

ในชั้นจับกุม นายชนะพันธ์ หรือ โบ๊ทพระประแดง ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองอัดอั้นตันใจอยากจะแจ้งให้สื่อมวลชลทราบว่า แก๊งครู่อริก็ใช่ย่อย แก๊งของตนเองช่วยเหลือชาวบ้านมาเยอะ

โดยนายเพชร หัวหน้ากลุ่มก็เคยไปมอบของบริจาคช่วยเหลือชาวบ้านตั้งหลายครั้ง โดยที่มีเรื่องกันครั้งนี้ก็เพราะฝ่ายคู่อริโพสต์เฟซบุ๊กท้าทายว่า กูไม่กลัวมึง เลยทำให้เกิดอารมณ์เดือดดาล และยอมรับว่าตนเองเป็นคนตามภาพกล้องวงจรปิด 1 ใน 2 คน ที่ยืนตั้งป้อมเหนี่ยวไกปืน ซึ่งตนเองยิงไป  6นัด หมดโม่

จากนั้นได้หลบหนีและนำปืนไปทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยาละแวก อ.พระประแดง ส่วนผู้ที่เหนี่ยวไกปืนอีกคนที่นั่งซ้อนท้ายตนเองมาก็คืนนายมีน แต่ตอนนี้ไม่ทราบว่าไปอยู่ไหนแล้ว โดยยอมรับอีกว่าหลังเกิดเรื่องตนเองก็ระหกระเหินนอนไม่เป็นที่เพราะกลัวถูกจับกุม”

หลังจับกุมขยายผลได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางนา ดำเนินคดีต่อไป

advertisement

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส