ออกหมายจับ บอล ปากแหว่ง จี้ชิงทรัพย์ 3.3 ล้าน ลานจอดรถห้างดัง

6 ก.ค. 67

ออกหมายจับ บอล ปากแหว่ง บุคคลอันตราย จี้ชิงทรัพย์ 3.3 ล้านบาท คาลานจอดรถห้างดังย่านพัฒนาการ ไฟเขียวดำเนินการขั้นเด็ดขาด 

วันที่ 6 ก.ค. 67 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมชุดสืบสวนนครบาล ชุดสืบสวนนครบาล 4 และชุดสืบสวน สน.ประเวศ ประชุมติดตามความคืบหน้าคดี 2 คนร้าย ชิงเงินสด 3.3 ล้านบาท ไปจากบริเวณลานจอดรถห้างดังแห่งหนึ่งย่านพัฒนาการ แล้วหลบหนีไป 

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า ความคืบหน้าคดีนี้ จากการสืบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุ มีทั้งหมด 2 คน โดยได้มีการออกหมายจับแล้ว 1 คือ นายนันทพร เพียนทำดี อายุ 35 ปี ฉายา บอล ปากแหว่ง ซึ่งเป็นผู้ทำหน้าที่ใช้อาวุธปืนเข้าไปจี้ผู้เสียหาย ระหว่างทำการเบิกเงินจาก 3 ธนาคาร ก่อนจะมีผู้ร่วมขบวนการอีก 1 คน มารอรับเงินและขับรถหลบหนีออกไป 

โดยพฤติการณ์ของคนร้ายกลุ่มนี้ พบว่ามีการวางแผนมาเป็นอย่างดี มีการมาเปิดห้องโรงแรมย่านที่เกิดเหตุก่อนจะก่อเหตุ 1 วัน และวันก่อเหตุได้มาจอดรถรอประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่ผู้เสียหายจะมาเบิกเงิน 

ทั้งนี้จากการตรวจสอบ พบประวัติ นายบอล ปากแหว่งว่า เคยถูกดำเนินคดีมาแล้วหลายครั้งจากการก่อเหตุร้ายแรง โดยเมื่อปี 2551 ถูกดำเนินคดีข้อหาชิงทรัพย์และกระทำอนาจาร พ้นโทษออกมาเมื่อต้นปี 2566 ต่อมาเดือนธันวาคม 2566 ได้ไปก่อเหตุชิงทรัพย์และข่มขืนกระทำชำเรา โดยใช้วิธีการดักจี้เหยื่อ ซึ่งเป็นนักศึกษาที่ขี่รถจักรยานยนต์มากับแฟนหนุ่ม โดยทำการชิงทรัพย์และพาผู้หญิงไปข่มขืน จนทำให้ถูกออกหมายจับในพื้นที่ สน.โชคชัย เจ้าตัวยังหลบหนีหมายจับ จนกระทั่งมาก่อเหตุครั้งนี้ 

พล.ต.ต.นพศิลป์ ย้ำว่า ผู้ต้องหารายนี้ ถือว่าเป็นบุคคลอันตราย โดยเมื่อครั้งตำรวจเข้าจับกุมตอนปี 2551 ผู้ต้องหามีพฤติกรรมใช้อาวุธปืนต่อสู้ขัดขืนเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตามขณะนี้สืบทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีไปทางภาคตะวันออก จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนไล่ล่า พร้อมฝากพี่น้องเพื่อนฝูงที่รู้จักกับผู้ต้องหาที่ให้การช่วยเหลือว่าหากพบจะดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดด้วยเช่นกัน 

ส่วนผู้ร่วมขบวนการอีก 1 คน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอออกหมายจับ ส่วนจะมีคนอื่นร่วมบววนการอีกด้วยหรือไม่ อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน แต่ตำรวจเชื่อว่าน่าจะมีอีก เพราะมีการวางแผนมายังดี แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เกรงว่าผู้ก่อเหตุจะไหวตัวทันและหลบหนี 

สำหรับเงิน 3.3 ล้านบาทที่ผู้เสียหายเบิกมานั้น ตำรวจอยู่ระหว่างขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงินของเจ้าของเงินว่า เป็นเงินจากการทำธุรกิจอะไร และจะเบิกเงินไปทำอะไร ยืนยันว่าจะทำทุกมิติในการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงคดีนี้ 

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ตนขอฝากชุดสืบสวน ที่ต้องออกไปปฏิบัติหน้าที่ในคดีนี้ว่า การทำงานขอให้ระมัดระวังในการเข้าจับกุมผู้ต้องหารายนี้เป็นพิเศษ เพราะเป็นผู้ต้องหาที่กระทำการต่อสู้ขัดขืนตำรวจมาโดยตลอด หากผู้ต้องหายังคิดจะขัดขืนอีกก็ต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดเลยทันที

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส