จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก “แหม่มโพธิ์ดำ” ได้โพสต์คลิปภาพกล้องวงจรปิด พร้อมข้อความของผู้เสียหายที่ระบุประมาณว่า "เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2560 ขณะที่ผมกำลังกลับบ้าน หลังจากได้พาคุณแม่ไปกินข้าว โดยก่อนถึงบ้านได้แวะร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อของ มีกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มเข้ามาตบที่รถ ผมเลยถามว่า 'ตบรถผมทำไม' เขาก็ตอบว่า 'ผมอายุ 20 พี่กล้าตัวต่อตัวกับผมหรือเปล่า' ผมไม่ได้ตอบโต้อะไรไป เลยกดปุ่มกระจกขึ้น เมื่อถึงหน้าบ้านก็เป็นอย่างที่เห็นในคลิป แฟนผมพยายามร้องขอให้หยุดกระทำแต่ไม่เป็นผล จึงส่งคลิปดังกล่าวให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ทำให้ตอนนี้ผมกับแฟน แล้วลูกอีก 1 คน ไม่กล้าจะอยู่บ้านหลังนี้ สถานที่เกิดเหตุอยู่บริเวณถนนสามวา ภายในซอยสามวา 25" เรื่องดังกล่าว ถูกแชร์ออกไปตามสังคมออนไลน์เป็นจำนวนมาก ทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักว่าเป็นเรื่องของกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่นที่มีพฤติกรรมกร่าง ทำร้ายคนไม่มีทางสู้จริงหรือไม่
ล่าสุด วันนี้ (16 ส.ค. 60) ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีได้ลงพื้นที่มายังบ้านจุดเกิดเหตุ บริเวณซอยสามวา 25 ซึ่งไม่พบกับเจ้าของบ้าน โดยทีมข่าวสังเกตพบว่าประตูบ้านถูกล็อคกุญแจ อีกทั้งยังพบเศษซากกระถางต้นไม้ที่แตกจากเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทกันในวันดังกล่าวด้วย (12 ส.ค.60) โดย ทีมข่าวก็ได้พูดคุยสอบถาม กับ
นายดำ (นามสมมุติ) ผู้ที่อยู่ในคลิปวิดีโอดังกล่าว ได้ให้ทีมข่าวดูหลักฐานคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดอีกหนึ่งมุม พร้อมเปิดเผยว่า ตนไม่ได้เป็นพวกนักเลงตามที่สังคมกล่าวหา เพียงแต่วันเกิดเหตุตนนั่งเล่นอยู่กับรุ่นพี่รุ่นน้องที่ขี่วินจักรยานยนต์ตรงจุดพักรถ ส่วนตนไม่ได้เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ แต่ชอบมานั่งเล่นบริเวณหน้าปากซอยสามวา 25 โดยวันดังกล่าวมีรถกระบะคันหนึ่งขับมาด้วยความเร็ว แล้วมาจอดอยู่ข้างร้านสะดวกซื้อ จากนั้นก็ปิดไฟหน้ารถ
ขณะเดียวกันจังหวะนั้นก็มีรุ่นน้องตนคนหนึ่งได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปเอาถังขยะที่บ้าน เพื่อจะเอาขยะออกมาทิ้งหน้าปากซอย เป็นจุดที่อยู่ใกล้กับที่คู่กรณีจอดรถอยู่ เมื่อรุ่นน้องของตนขี่รถจักรยานยนต์มาถึงจุดที่ทิ้งขยะ ก็อาจจะทิ้งเสียงดังไปหรือไม่ ตนก็ไม่เข้าใจ แต่รุ่นน้องตนทิ้งเสร็จ ก็ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดอยู่ตรงจุดพักรถ นั่งกันที่เดิม
หลังจากนั้นรถกระบะคันดังกล่าวก็ถอยหลังมาจอดรถอยู่บริเวณหน้าที่นั่งของพวกตนอย่างแรก จนเกือบจะชนรุ่นน้องด้วย ตนเลยถามคู่กรณีที่เป็นคนขับว่า “มึงถอยมาแบบนี่ มึงต้องการอะไร?” ทางคู่กรณีก็ไม่เปิดกระจกลงมา ตนจึงถามอีกว่า “มึงเมาไหม” อยู่ 3 ครั้ง ทางคู่กรณีถึงจะเปิดกระจกลงมาเพียงครึ่งเดียว ขณะนั้นมีผู้ชายอีกคนที่อยู่ในรถก็ได้นำโทรศัพท์มาถ่ายตน ซึ่งตนก็ไม่ได้กลัวอยู่แล้ว พร้อมท้าว่า “จะถ่ายมึงก็ถ่ายไป” ก่อนที่คู่กรณีจะทิ้งท้ายกับตนและรุ่นน้องว่า “ถ้ามึงแน่จริงมึงก็มาตัว ๆ ที่หน้าบ้านกู” แล้วก็ขับรถกระบะเข้ามาในซอยบ้านอย่างไว ทำให้รุ่นน้องตน 3 คน ไม่พอใจ จึงขี่รถจักยานยนต์ตามเข้าไปในซอยทันที หลังจากนั้นก็เป็นคลิปภาพตามที่เห็นในคลิปดังกล่าว ที่มีการยั่วยุปั่นประสาทกันอยู่ครู่หนึ่ง ตนจึงเข้าไปห้าม แล้วจึงแยกย้ายกัน
นายดำ บอกอีกว่า หลังจากนั้นทางตำรวจ สน.มีนบุรี ก็ได้เข้ามาพูดคุยกับกลุ่มตน เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น แล้วนัดเรียกให้มาชี้แจงข้อเท็จจริงอีกครั้งในวันนี้ (16 ส.ค. 60) ซึ่งตนคิดว่าสิ่งที่คู่กรณีออกมาโพสต์เรื่องราวดังกล่าวลงในสังคมออนไลน์ เพื่อสร้างเรื่องโกหก เนื่องจากสิ่งที่เผยแพร่เป็นเพียงช่วงปลายเหตุ ไม่ได้โพสต์ช่วงต้นเหตุที่แท้จริง ตนก็ไม่ได้สะทกสะท้านกับความคิดเห็นที่มีการต่อว่ากลุ่มตนอยู่แล้ว แต่อยากให้รับรู้วามจริงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเช่นไรเท่านั้น พร้อมยืนยันว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ ก็ไม่ได้ไปทำอะไรให้ทางครอบครัวคู่กรณีอยู่ไม่ได้ และยังเห็นว่าคู่กรณียังเข้าออกบ้าน
ด้าน
พ.ต.อ.ถนัด นักธรรม ผกก.สน.มีนบุรี ระบุว่า เบื้องต้นได้รับแจ้งจากทางร้อยเวรเจ้าของคดีแล้วว่า ผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งความเอาไว้ ซึ่งวันพรุ่งนี้ (17 ส.ค. 60) ทางผู้เสียหายจะเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม คาดว่าน่าจะไม่เกิน 12.00 น. โดยในวันนี้ทางกลุ่มคู่กรณีก็ได้เอาหลักฐานเพิ่มเติมมาให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ซึ่งก็ต้องรอเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจพยานหลักฐานให้ชัดเจน ว่ามีการทำร้ายกันจริงหรือไม่ หรือ เป็นการทะเลาะวิวาท ซึ่งก็ได้ประสานฝ่ายสืบสวนให้ดำเนินการในส่วนนี้แล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายอย่างแน่นอน