ร้าวลึกน้ำเต็มแก้ว วรชัย ฉะ หมอมิ้ง ถามตอนยึดอำนาจไปอยู่ไหน ลั่นต่อสู้กับเพื่อไทยมายาวนาน สอนมวยหมอต้องให้ยา รักษาประเทศให้ตรงจุด
เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 67 นาย วรชัย เหมะ คณะที่ปรึกษาฝ่ายการเมืองของรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand” ถึงกรณีที่ระบุว่า นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นคนน้ำเต็มแก้วว่า
ตนเป็นคนในพรรคเพื่อไทยคนหนึ่งที่อยู่มายาวนาน และต่อสู้มากับพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประชาธิปไตย เราตั้งขบวนสู้กันมายาวนานพอสมควร และอยู่กับประชาชนมาตลอด และอีกทั้งตนก็เดินสายปราศรัยกับพรรคเพื่อไทยมายาวนานพอสมควร เพราะถือว่านี่คือบ้านและมีความรัก ดังนั้นการที่ตนอาศัยไปพบพี่น้องประชาชนหลายที่ ได้พูดนโยบายของพรรคเพื่อไทยทำอะไรบ้าง เพราะฉะนั้นวันนี้ระยะเวลาประมาณเกือบปี ประชาชนก็ทวงถามความต้องการของเขาว่าวันนี้เขาต้องการอะไร ความลำบากเป็นอย่างไร เพราะตนติดดินอยู่กับพี่น้องประชาชนตลอด ไม่เคยทอดทิ้ง และตนรับตำแหน่งทางการเมืองเป็นทางการไม่ได้ เพราะเคยติดคุกจากการออกมาชุมนุมต่อสู้ จนทำให้พี่น้องประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทย เพราะฉะนั้นการอยู่กับประชาชนอยู่กับแดดกับลม เดินสายปราศรัยทั่วประเทศมาตลอดเวลา
นาย วรชัย กล่าวต่อว่า ที่หมอมิ้งถามว่าตนคือใคร ตนคือวรชัย ที่ทำงานเพื่อประชาชน และพรรคเพื่อไทยมายาวนานพอสมควร และตอนที่ยึดอำนาจมีมาตรา 44 ตนก็ออกมาพูดตลอดเวลา และถูกเรียกรายงานตัวมากที่สุดคนหนึ่งในพรรคเพื่อไทย แต่ช่วงนั้นตนไม่รู้ว่าหมอมิ้งไปอยู่ที่ไหน ตนเป็นนักต่อสู้อยู่เคียงข้างประชาชน ไม่ได้เป็นนักรบห้องแอร์
ส่วนที่วิจารณ์หมอมิ้งน้ำเต็มแก้วนั้น ตนเป็นที่ปรึกษานายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็คุยกับประเด็นเหล่านี้กับตนอยู่ และไม่อยากให้ตนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ แต่ตนบอกนายภูมิธรรมไปว่า เรื่องนี้ตนไม่ออกมาชี้แจงไม่ได้ เพราะไม่เช่นนั้นตนจะเสีย จึงต้องมาชี้แจง ดังนั้นการที่ตนออกมาชี้แจงก็อาจจะมีผลกระทบบ้างนิดหน่อยเป็นปกติ
นาย วรชัย กล่าวอีกว่า ตนกับหมอมิ้งเราอยู่ในพรรคเพื่อไทย เจอกันก็คุยกันบ่อย แต่เมื่อมาเจอที่ทำเนียบฯ ถามว่าหมอมิ้งเคยทักสักคำหรือไม่ ขนาดเดินสวนกัน หมอมิ้งยังไม่ทักตนเลย นี่คือสภาพของคนที่เคยต่อสู้มาด้วยกัน ภาวะผู้นำระดับคุณหมอคิดอย่างไร ที่ถามว่าตนมีตำแหน่งอะไร ก็เป็นตำแหน่งที่ปรึกษารองนายกฯ ถ้าให้ตนเป็นที่ปรึกษาคนอื่นก็ไม่เป็น แต่นายภูมิธรรมเป็นนักต่อสู้ เป็นยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทย ดังนั้นตนถือว่านายภูมิธรรมถือเป็นบุคลากรที่มีค่าของพรรคเพื่อไทย และตนถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองรับตำแหน่งเป็นทางการไม่ได้
วันนี้ต้องเข้าใจบริบทการทำงาน ซึ่งเรื่องนี้ตนเห็นว่าพรรคเพื่อไทย เราข้ามขั้ว เพราะฉะนั้นการข้ามขั้ว เราโดนด่ามาครั้งหนึ่งแล้ว แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจะต้องทำงานให้สำเร็จลุล่วงตามนโยบาย และการแก้ปัญหาต้องแก้ไขให้ถูกจุด แต่หมอมิ้งท่านเป็นหมอ เพราะฉะนั้นการจะรักษาไข้ต้องตรวจว่าคนไข้เป็นโรคอะไร หากให้ยาไม่ถูกก็แก้ไม่ตรงจุด และคนไข้ตาย ต้องดูว่าวันนี้ประเทศไทยเป็นโรคอะไร ไม่เช่นนั้นพี่น้องประชาชนจะตาย ต้องใช้ยาให้ถูก ปัญหาของประเทศอยู่ที่ต้นเหตุส่วนที่หมอมิ่งบอกว่าทำโน้นทำนี่ทำนั้น ตนก็รู้ว่าทำ แต่ทำที่ปลายเหตุ ทุกอย่างต้องดูที่ต้นเหตุ
ขอบคุณข้อมูล : รายการ “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand”
Advertisement