คนร้ายอุกอาจ ลอบยิงทหารพรานเสียชีวิต ในคลองชลประทานระหว่างลาพัก หลังออกบ้านบอกเมียว่าไปตกปลา เผยช่วงก่อนเกิดเหตุผู้ตายไม่ได้อยู่คนเดียว
เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 12 ก.ค. 67 พ.ต.อ.พัฒนชัย ปาละสุวรรณ ผกก.สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้รับแจ้ง พบศพบริเวณคลองชลประทาน ม.1 ต.คอลอตันหยง อ.หนองจิก หลังได้รับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรีบนำกำลังไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.สันทัศน์ เชื้อพุฒตาล ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พ.อ.ปรเมธ ศานุพงศ์ ผบ.ทพ.43 และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด
ไปถึงเจ้าหน้าที่ได้ปิดเส้นทาง ถนนชลประทาน เพื่อป้องกันเหตุคนร้าย อาจจะล่อลวงเจ้าหน้าที่ก่อนจะกดระเบิดหมายสังหารเจ้าหน้าที่ ต่อมาเวลา 09.00 น. ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดได้เข้าตรวจสอบตลอดแนวเส้นทาง ก่อนจะถึงจุดเกิดเหตุ เพื่อความปลอดภัย จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบ พบผู้เสียชีวิตอยู่ในคลองชลประทาน จึงได้ช่วยกันนำร่างขึ้นมาบนฝั่ง ตรวจสอบทราบชื่อ อส.ทพ.เกียรติศักดิ์ แต้มช่วย อายุ 40 ปี สังกัด ร้อย.ทพ.4316 กรมทหารพรานที่ 43
สภาพศพใส่เสื้อยืดสีดำกางเกงขาสั้น ที่ศีรษะมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด จำนวน 2 นัด นอกจากนี้ยังพบรถจักรยานยนต์อยู่ในพงไม้ริมคลอง และยังพบอาวุธปืนยาวขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก และคันตกเบ็ด 1 คัน ซึ่งเป็นของผู้ตาย
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายอยู่ในช่วงลาพัก และได้กลับมาอยู่บ้านของภรรยาในพื้นที่ โดยก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้ออกจากบ้านตั้งแต่ช่วงค่ำที่ผ่านมา และได้บอกกับภรรยาว่าจะออกไปหาปลา โดยผู้ตายได้นำอาวุธปืนไปด้วย และไม่ได้กลับมาบ้านอีกเลยจนกระทั่งเช้าวันนี้มีชาวบ้านมาพบเป็นศพ อยู่ในคลองชลประทาน
ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุเบื้องต้นพยานให้การว่า ได้ยินเสียงปืน 4-5 นัดช่วงเวลา 22.00 น. แต่ไม่มีใครเอะใจ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบข้อมูลว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุผู้ตายไม่ได้อยู่คนเดียว ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนว่าผู้ตายอยู่กับใคร ซึ่งจากข้อมูลการสืบสวนสอบสวนยังไม่สามารถเปิดเผยได้ และได้เชิญภรรยามาสอบปากคำว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ระบาย หรือพูดอะไรที่เชื่อมโยงกับเหตุครั้งนี้หรือไม่
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนว่า การก่อเหตุสร้างสถานการณ์หรือไม่ เนื่องจากโดยปกติแล้วคนร้ายหลังก่อเหตุก็จะนำอาวุธปืนไปด้วย แต่ครั้งนี้อาวุธปืนของผู้ตายยังคงตกอยู่ที่เกิดเหตุ และประเด็นส่วนตัว เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ตัดทิ้ง ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนต่อไป