ซื้อสัญชาติ ซื้อพาสปอร์ต ย้ายประเทศ ทำได้ไม่ผิดกฎหมาย หลายประเทศเปิดทางให้โอนย้ายได้ มีหลากหลายเงื่อนไขให้ได้เลือกตามกำลังเงิน
การย้ายประเทศ หรือเปลี่ยนสัญชาติอาจเป็นความฝันของใครหลายคนที่อยากจะออกไปตามหาอะไรใหม่ๆ ให้กับชีวิต อย่างไรก็ตามการย้ายประเทศ โอนสัญชาติอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะข้อจำกัดด้านกฎหมาย แต่ทุกอย่างสามารถทำได้ถ้าคุณใช้ "เงิน" แก้ปัญหา
ปัจจุบันมีหลายประเทศที่เปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติได้รับสิทธิการพักอาศัย ได้รับสัญชาติ ได้รับพาสปอร์ต โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องมีการนำเงินมาลงทุนในประเทศ ซึ่งหลายคนยอมจ่ายเพื่อให้ได้รับสิทธิการพำนัก สิทธิประโยชน์ทางภาษี หรือได้รับสัญชาติ เนื่องจากพาสปอร์ตของบางประเทศที่สามารถซื้อสัญชาติได้นั้นทรงอิทธิพลอย่างมาก เดินทางไปได้ในหลายประเทศ โดยไม่ต้องขอวีซ่า สะดวกสบายกว่าประเทศที่พาสปอร์ตยังถูกจำกัด
การซื้อสัญชาติ คือ อะไร
การซื้อสัญชาติ คือ การจ่ายเงินเพื่อลงทุนในประเทศที่ต้องการ เพื่อแลกกับการได้สิทธิในการพำนักอาศัยอยู่ประเทศนั้น หรือบางประเทศอาจมีการหยิบยื่นสิทธิพลเมืองให้ทันทีหลังจากใช้เงินซื้อสัญชาติ ซึ่งการลงทุนเพื่อซื้อสัญชาติจะมีเงื่อนไขหลายรูปแบบให้ได้เลือก เช่น การบริจาคด้วยยอดเงินตามเงื่อนไขให้แก่ประเทศนั้นๆ หรือการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่เปรียบเสมือนกับการลงทุนในประเทศนั้น เป็นต้น
ประเภทของการซื้อสัญชาติ
การซื้อสัญชาติแบ่งได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ คือ สิทธิการพำนักถาวร สิทธิความเป็นพลเมือง และสิทธิการพำนักอยู่ได้ตามใบอนุญาต ซึ่งมีความแตกต่างกันดังนี้
• สิทธิการพำนักถาวร (Permanent Residency) สามารถเดินทางเข้าออกประเทศ อยู่อาศัย และทำมาหากินได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ยังคงสัญชาติเดิม
• สิทธิความเป็นพลเมือง (Citizenship) เป็นการซื้อสัญชาติแล้วได้ถือสัญชาตินั้นทันที รวมถึงสามารถถือพาสปอร์ตได้ มีสิทธิเหมือนกับพลเมืองของประเทศนั้น
• สิทธิการพำนักอยู่ได้ตามใบอนุญาต (Residence Permit) การอนุญาตให้พำนักอยู่ได้ตามเอกสารที่ระบุ ซึ่งจะเป็นเวลาที่แน่นอนและไม่แน่นอนด้วย
ประเทศไหนบ้าง ที่สามารถซื้อสัญชาติได้
อมรินทร์ ออนไลน์ ได้รวบรวมประเทศที่เปิดโอกาสให้ซื้อสัญชาติได้ มีทั้งสิทธิการพำนักถาวร สิทธิความเป็นพลเมือง สิทธิการพำนักอยู่ได้ตามใบอนุญาต ซึ่งแต่ละประเทศตั้งเงื่อนไขแตกต่างกันไป ดังนี้
• สหรัฐอเมริกา
หากต้องการซื้อสัญชาติอเมริกัน ต้องมีเงินลงทุนธุรกิจในสหรัฐ 900,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 32 ล้านบาท) ถึงจะได้กรีนการ์ด จากนั้นต้องถือกรีนการ์ดให้ครบ 24 เดือน จึงจะสามารถขอทำสัญชาติอเมริกาได้ใน 5 ปี พร้อมเรียนฟรี ทำธุรกิจได้ รวมถึงสิทธิการพำนักถาวร แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีเงินลงทุนสูง สามารถลงทะเบียนขอรับสิทธิกรีนการ์ดได้ โดยแต่ละปีรัฐบาลจะสุ่มผู้โชคดีจำนวน 55,000 คนจากทั่วโลกให้ได้สิทธินี้
• อังกฤษ
ผู้ยื่นขอรับสิทธิต้องทำการลงทุนอย่างน้อย 2,000,000 ยูโร (ประมาณ 80 ล้านบาท) ได้สิทธิพำนักถาวรใน 4 เดือน และจะได้รับสิทธิการพำนักอยู่ได้ตามใบอนุญาต (Residence Permit) เมื่ออยู่ครบ 6 ปีขึ้นไป
• แคนาดา
นักลงทุนสามารถขอสิทธิการพำนักถาวร (Permanent Residency) ได้โดยการบริจาคเงิน 200,000 ดอลลาร์แคนาดา (ประมาณ 7 ล้านบาท) ให้กับรัฐบาล และลงทุน 1,000,000 ดอลลาร์แคนาดา (ประมาณ 26 ล้านบาท) ในพันธบัตรรัฐบาล การลงทุนนี้สามารถดำเนินการผ่านตัวกลางทางการเงินที่ได้รับอนุมัติ หรือนักลงทุนสามารถเลือกที่จะจัดหาไฟแนนซ์สำหรับการลงทุนได้
• สเปน
สเปนเปิดตัวโครงการวีซ่าทองคำในปี 2013 ผู้ที่ลงทุน 500,000 ยูโร (ประมาณ 20 ล้านบาท) ในอสังหาริมทรัพย์จะได้รับถิ่นที่อยู่ของครอบครัว วีซ่านักลงทุนสเปนสามารถต่ออายุได้ทุก 2 ปี หลังจากผ่านไป 5 ปี เป็นไปได้ที่จะได้รับสิทธิการพำนักถาวร (Permanent Residency) และหลังจาก 10 ปีก็จะได้รับสิทธิความเป็นพลเมือง (Citizenship) โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยอยู่ในสเปนเพื่อรักษาและต่ออายุใบอนุญาตวีซ่าถิ่นที่อยู่
• โปรตุเกส
ผู้ขอสิทธิต้องลงทุน 500,000 ยูโร (ประมาณ 19.5 ล้านบาท) ในกองทุน Private Equity หรือ Venture Capital จะได้รับใบอนุญาตถิ่นที่อยู่ระดับทองสำหรับครอบครัวรวมถึงบุตรหลานที่อยู่ในความอุปการะ หรืออาจจะเลือกการก่อตั้งกิจการ การจ้างงาน หรือการบริจาคเพื่อการกุศล เมื่อได้สิทธิพำนักถาวรแล้วสามารถขอสัญชาติได้ใน 5 ปี
• ออสเตรีย
ออสเตรียมีหนังสือเดินทางที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ผู้ถือพาสปอร์ตออสเตรียสามารถเดินทางไปยังจุดหมายปลายทาง 187 แห่งทั่วโลกได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า พร้อมสิทธิในการอาศัยอยู่ในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปทั้งหมด แต่ก่อนที่จะได้มานั้น จะต้องลงทุนขั้นต่ำประมาณ 3.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 126 ล้านบาท) มีระยะเวลาในการดำเนิน 12-24 เดือน และหลังจาก 5 ปี มีโอกาสขอสัญชาติออสเตรียได้
• นิวซีแลนด์
ถ้ามันดีพอสำหรับลอร์ดออฟเดอะริงส์ มันก็ดีพอสำหรับคุณ หนทางสู่การเป็นพลเมือง มี 2 วิธี เริ่มต้นด้วยการลงทุนอย่างน้อย 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 64 ล้านบาท) ในระยะเวลา 4 ปี และสามารถยื่นขอสัญชาติได้หลังจาก 5 ปี โดยขึ้นอยู่กับข้อกำหนดและเงื่อนไข สิทธินี้ยังรวมไปถึงคู่สมรสหรือคู่รัก และบุตรที่อยู่ในอุปการะอายุไม่เกิน 24 ปี
• ออสเตรเลีย
วีซ่านักลงทุนรายสำคัญของออสเตรเลีย (SIV) เป็นโครงการลงทุนเพื่อการมีถิ่นที่อยู่อาศัยสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ที่ต้องมีภาระผูกพันทางการเงินอย่างน้อย 5,000,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 118 ล้านบาท) โดยต้องจ่ายเงินในการลงทุนที่ได้รับการอนุมัติซึ่งมีให้เลือกหลากหลาย มีระยะเวลาในการดำเนิน 12-24 เดือน และหลังจาก 5 ปี มีโอกาสขอสัญชาติออสเตรียได้
• วานูอาตู
หมู่เกาะวานูอาตู อยู่ห่างจากออสเตรเลียไปทางตะวันออกประมาณ 1,000 ไมล์ มีโครงการสนับสนุนการพัฒนาที่ต้องการการบริจาคที่ไม่สามารถขอคืนได้ให้กับหมู่เกาะมูลค่า 180,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.3 ล้านบาท) สำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกสี่คน ในทางกลับกัน คุณจะได้รับหนังสือเดินทางที่สามารถเดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่าไปยัง 116 ประเทศ พร้อมโอกาสที่จะเรียกเกาะสวรรค์แห่งนี้ว่าบ้านหลังใหม่ของคุณ
• ตุรกี
การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 250,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 9 ล้านบาท) และถือครองอย่างน้อย 3 ปี ก็สามารถซื้อสัญชาติเป็นพลเมืองของตุรกีได้ โดยไม่จำเป็นต้องพำนักอาศัย หรือมีความรู้ด้านภาษาหรือลงทุนในสินทรัพย์ที่รับรองโดยกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี หรือลงทุนก่อตั้งธุรกิจในตุรกี โดยมีการจ้างพนักงานไม่น้อยกว่า 50 คน ผู้ที่ลงทุน นอกจากนี้พลเมืองตุรกี ยังสามารถทำธุรกิจหรือประกอบกิจการในสหรัฐอเมริกา และบริษัทสัญชาติอังกฤษในสหราชอาณาจักรอีกด้วย
• บัลแกเรีย
ลงทุน 205,000 ยูโร (ประมาณ 8 ล้านบาท) ได้วีซ่าถาวรใน 6 เดือน ขอสัญชาติได้ใน 5 ปี (Permanent Residency) หรือหากมีเงินเยอะกว่านั้น สามารถเลือกลงทุนพันธบัตร 350,000 ยูโร (ประมาณ 14 ล้านบาท) เพื่อรับสัญชาติได้ภายใน 24 เดือน
• เซนต์ลูเซีย
เกาะเซนต์ลูเซียเริ่มเสนอที่พักอาศัยให้กับชาวต่างชาติในปี 2015 และจากข้อมูลของโครงการการเป็นพลเมืองเซนต์ลูเซียโดยการลงทุน ระบุว่านับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผู้คนประมาณ 700 คนได้รับหนังสือเดินทาง นอกจากนี้ยังมีการจูงใจให้คนมาลงทุนพร้อมได้สัญชาติ (Citizenship) ด้วยการซื้อพันธบัตร 250,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 9 ล้านบาท) สำหรับบุคคล และ 300,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 11 ล้านบาท) สำหรับครอบครัวที่มี 4 คน พาสสปอร์ตเซนต์ลูเซีย สามารถเข้าถึงจุดหมายปลายทางทั่วโลก 146 แห่งโดยไม่ต้องขอวีซ่าหรือแบบวีซ่าเมื่อเดินทางมาถึงได้
• เกรนาดา
หนังสือเดินทางของเกรเนดา สามารถเดินทางเข้าหลายประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า โดยมี 2 วิธีที่ในการขอรับสัญชาติ คือ การบริจาค 150,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.5 ล้านบาท) ให้กับกองทุนการเปลี่ยนแปลงแห่งชาติของประเทศผ่านโครงการการเป็นพลเมืองโดยการลงทุนของเกรนาเดียน หรือโดยการซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับอนุมัติซึ่งมีมูลค่าขั้นต่ำ 350,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 12.7 ล้านบาท) จะได้สัญชาติใน 4 เดือน (Citizenship)
• มอลตา
ต้องมีการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์มูลค่า 350,000 ยูโร (ประมาณ 14 ล้านบาท) และต้องถือครองอย่างน้อย 5 ปี หรือเช่าอสังหาริมทรัพย์ที่มีค่าเช่าขั้นต่ำปีละ 16,000 ยูโรเป็นเวลาอย่างน้อย 5 ปี ผลประโยชน์ที่ได้รับคือ สัญชาติและพาสสปอร์ตมอลตา สิทธิพลเมืองแบบตลอดชีพและสามารถส่งต่อให้รุ่นต่อไปได้ นอกจากนี้ คู่สมรส พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย และผู้ที่อยู่ภายใต้การปกครองที่อายุน้อยกว่าหรือเท่ากับ 26 ปีที่ยังไม่สมรส สามารถเข้าร่วมได้ และยังสามารถพักอาศัย ทำงาน เรียน ซื้อที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ใน 28 ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป
• เซนต์คิตส์และเนวิส
เกาะเขียวชอุ่มเล็กๆ แห่งนี้มีหนังสือเดินทางที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งในแถบทะเลแคริบเบียน สามารถเดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่าไปยังกว่า 157 ประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร สหภาพยุโรป กลุ่มประเทศยุโรปเชงเก้น และเกือบทุกประเทศในอเมริกาใต้ โดยมีงื่อนไขต้องลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์มูลค่าขั้นต่ำ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 7 ล้านบาท) ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล และต้องถือครองไม่น้อยกว่า 7 ปี นอกจากนี้ผู้ที่ขอสิทธิยังได้รับผลประโยชน์เพิ่มเติมคือ คู่สมรส บุตรที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี และพ่อแม่ที่มีอายุมากกว่า 55 ปี สามารถเข้าได้รับสิทธิเช่นกันโดยอัตโนมัติ
• แอนติกาและบาร์บูดา
ยินดีต้อนรับชาวต่างชาติที่ต้องการใช้ชีวิตตามความฝันในทะเลแคริบเบียน สามารถซื้อหนังสือเดินทางที่สามารถเข้าถึงจุดหมายปลายทาง 151 แห่งโดยไม่ต้องขอวีซ่า ด้วยการบริจาคเงิน 100,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 32 ล้านบาท) ให้กับกองทุนเพื่อการพัฒนาของประเทศ บวกกับการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ จะช่วยให้มีหนังสือเดินทางสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิก 4 คนได้ โดยจะได้สัญชาติใน 3 เดือน (Citizenship)
• ไซปรัส
เป็นประเทศในกลุ่มเครือจักรภพ (Commonwealth nations) หากลงทุนซื้อบ้านเดี่ยวมูลค่า 2 ล้านยูโร (ประมาณ 78 ล้านบาท) โดยได้สิทธิพำนักอาศัยถาวร หรือหากลงทุนขั้นต่ำ 2 ล้านยูโร ในอสังหาริมทรัพย์หลากหลายยูนิต จะต้องมีอสังหาริมทรัพย์สำหรับอยู่อาศัยอย่างน้อย 1 หลังที่มีมูลค่าขั้นต่ำ 500,000 ยูโร จึงจะได้สิทธิพำนักอาศัยถาวรภายใน 6 เดือน นอกจากนี้อาจเลือกใช้วิธีบริจาคเริ่มต้นที่ 75,000 ยูโร (ประมาณ 3 ล้านบาท) ให้แก่มูลนิธิหรือองค์การต่างๆ ขอสัญชาติได้ใน 5 ปี แต่จะต้องพำนักในประเทศ 6 เดือน/ปี (Permanent Residency)
• มอนเตเนโกร
ต้องลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์มูลค่า 350,000 ยูโร (ประมาณ 14 ล้านบาท) และต้องถือครองอย่างน้อย 5 ปี หรือเช่าอสังหาริมทรัพย์ที่มีค่าเช่าขั้นต่ำปีละ 16,000 ยูโรเป็นเวลาอย่างน้อย 5 ปี โดยจะได้รับสัญชาติและพาสสปอร์ตมอลตา สิทธิพลเมืองแบบตลอดชีพและสามารถส่งต่อให้รุ่นต่อไปได้ สามารถพักอาศัย ทำงาน เรียน และซื้อที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ใน 28 ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป ส่วนคู่สมรส พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย และผู้ที่อยู่ภายใต้การปกครองที่อายุน้อยกว่าหรือเท่ากับ 26 ปีที่ยังไม่สมรส สามารถเข้าร่วมได้
• โดมินิกา
ประเทศกลุ่มเขตเศรษฐกิจแคริบเบียน ทวีปอเมริกาเหนือ เป็นหนึ่งในประเทศที่ดีที่สุดสำหรับการเป็นพลเมืองโดยการลงทุน เนื่องจากสัญชาติจะขยายไปยังคู่สมรส บุตรในความอุปการะ และพ่อแม่หรือปู่ย่าตายายที่อยู่ภายใต้การดูแลของผู้ที่ขอสิทธิ และยังสามารถส่งต่อไปยังลูกหลาน ผู้สมัครต้องบริจาคเงินเข้ากองทุน Economic Diversification Fund 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.6 ล้านบาท) หรือหรือลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ ในโครงการได้รับอนุมัติโดยรัฐบาล 220,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 8 ล้านบาท) และต้องถือครองอย่างน้อย 5 ปี ก็จะได้สัญชาติภายใน 3 เดือน (Citizenship) โดยผู้ถือพาสปอร์ตโดมินิกาสามารถเดินทางวีซ่าฟรีไปได้ 144 ประเทศ
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเหล่านี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามเงื่อนไขและเวลา หากต้องการซื้อสัญชาติ ซื้อพาสปอร์ต ย้ายประเทศ ก็ต้องเช็กให้ดีก่อน เพื่อความชัวร์ ไม่เสียเวลาในการดำเนินการ