หนุ่มใหญ่คลุ้มคลั่งหลอนยา ตัดหัวเมียทิ้งนอกบ้าน คิดว่าเป็น ผีกะ ผีกระสือ หิ้วหัวทิ้งนอกบ้าน ตำรวจ-ฝ่ายปกครอง-ชาวบ้านล่าตัวนานหลายชั่วโมง
เมื่อกลางดึกวันที่ 28 ก.ค. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมชาวบ้าน อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ นำกำลังออกไล่ล่าตามจับกุมตัว นายณริน เจ๊กจุ้ย อายุ 50 ปี ชาวบ้านต.จุมพล อ.ลับแล ตามบ้านเรือนของชาวบ้าน ที่สงสัยว่าผู้ต้องหาที่ฆ่าตัดคอภรรยาจะไปหลบซ่อนอาศัยอยู่ รวมถึงในวัดทั้งในป่าของบ้านน้ำใส ห่างจากจุดที่เกิดเหตุรัศมีประมาณ 1 กิโลเมตร แต่ก็ไม่พบตัว
ทั้งนี้มีนายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์ นายอำเภอลับแล และพ.ต.อ.เจริญ แดงเรือง ผกก.สภ.ลับแล พร้อมแพทย์ รพ.ลับแลร่วมในที่เกิดเหตุ
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ของคืนที่ผ่านมา ขณะที่นายณรินกำลังนั่งดื่มสุราอยู่กับ นางภัทรา แว่นวิชัย หรือรอบ อายุ 50 ปี ภรรยาที่บ้านหลังดังกล่าว อยู่ๆ นายณรินเกิดอาการคลุ้มคลั่งใช้มีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 ฟุตเข้าฟันตามร่างกายของนางภัทรา และฟันลำคอจนขาด จากนั้นได้ลากร่างไร้วิญญาณของภรรยาออกมาทิ้งด้านหน้า บ้านห่างจากตัวบ้านประมาณ 10 เมตร และมีดที่ใช้ก่อเหตุทิ้งวางอยู่ใกล้ศพ ส่วนศรีษะนำไปทิ้งในบริเวณเขตบ้านพี่สาว ห่างจากจุดทิ้งลำตัวประมาณ 20 เมตร และหลบหนีหายตัวไป
นางเขียว โพสีทอง พี่สาวนายณรินผู้ก่อเหตุ ซึ่งบ้านอยู่ติดๆ กัน บอกว่า ได้ยินเสียงทะเลาะวิวาท และเสียงร้องของนายภัทรา จึงได้ตะโกนต่อว่าไปว่าส่งเสียงดังไม่อายชาวบ้านเขาหรือไง ซึ่งปรกติแล้วทั้งคู่มักจะดื่มสุรา และทะเลาะวิวาทกันทุกวัน แต่นายณรินมีเสพยาเสพติดด้วยยาบ้า บางครั้งตนสังเกตเห็นเมื่อน้องชายเมายาแล้วจะส่งเสียงดัง และบ่นพึมพำอยู่คนเดียวเป็นอย่างนี้มานานแล้ว
ซึ่งน้องชายมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ส่วนผู้ตายรับจ้างเลี้ยงเด็กเล็กตามหมู่บ้าน หลังจากได้ยินเสียงของทั้งคู่ดัง และร้องผิดปรกติ ตนจึงได้โทรศัพท์แจ้งผู้ใหญ่บ้านมาดู เมื่อผู้ใหญ่บ้านมาถึง ตนจึงให้ลูกชายไปดูร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน พบว่าน้องชายตนได้ฆ่าภรรยาตายเสียแล้วในบ้าน มีร่องรอยการต่อสู้ และกองเลือดนองเต็มพื้นบ้าน
ด้านนางญาณิศา ฟูใจ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 บอกว่า หลังรับแจ้งจากนางเขียวพี่สาว ผู้ก่อเหตุว่า นายณรินกำลังใช้อาวุธฟันทุบตีภรรยาอยู่จึงได้รีบมาดู เมื่อมาถึงบ้านเกิดเหตุก็ยังได้ยินเสียงมีดฟัน จึงเข้าไปในบ้านพบว่านายณรินกำลังใช้มีดฟันภรรยาอยู่ ตนจึงได้ตะโกนเสียงดัง เพื่อขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านข้างเคียง และห้ามนายณรินให้หยุดกระทำการดังกล่าว ในเวลาต่อมาก็เห็นนายณรินก็ดึงร่างภรรยาออกมานอกบ้าน และยังฟันซ้ำไปอีกหลายครั้ง ซึ่งตนตกใจมาก เพราะเห็นเหตุการณ์กับตา
จากนั้นตนจึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที ซึ่งหลังจากฟันภรรยา และดึงร่างออกมาทิ้งด้านนอกแล้ว ผู้ก่อเหตุได้เข้าไปในบ้าน พร้อมหิ้วศีรษะภรรยาออกมาทิ้งอีกที และหลบหนีไป
ส่วนสาเหตุนั้นคาดว่าเกิดจากการดื่มสุรา และเสพยาจึงเกิดอาการหลอนหวาดระแวง ซึ่งที่ผ่านมาทราบว่าผู้ก่อเหตุเบลอหนักมาก คุยบ่นอยู่คนเดียว ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้เมื่อพบเห็นตั้งแต่เริ่มเข้าบ้านที่เกิดเหตุนับว่าสยองสุดๆ
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ควานหาตัวอยู่หลายชั่วโมง แต่ก็ไม่พบตัว กระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 29 ก.ค. ผู้ก่อเหตุได้เดินมาที่บ้านหลังดังกล่าว เมื่อชาวบ้านที่ยังอยู่ที่เกิดเหตุเห็นจึงได้รีบโทรแจ้งตำรวจ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบจึงรีบมาพบ เพราะอยู่ในระหว่างค้นหาตัวอยู่
หลังจากควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้สอบถามจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งนายณรินยังให้การวกวนไปมาลักษณะเบลออยู่ แต่จับใจความได้ว่าหลังก่อเหตุไปหลบหนีซ่อนตัวที่ฉางข้าวคนอื่นใกล้ๆ ขณะที่ตนนั่งดื่มสุราอยู่กับภรรยาจนเมา คิดว่าภรรยาเป็น ผีกะ ผีกระสือ ตนจึงกระหน่ำทั้งแทงและฟันไปที่ตัวภรรยา จนเสียชีวิตคอขาดดังกล่าว จากนั้นได้ลากร่างออกมาทิ้งด้านนอก และฟันซ้ำไปอีกหลายครั้ง