ฉุนแม่ค้าส้มตำปากแจ๋ว ชอบด่าหมาประชด โมโหมาบอกลูกว่าตนไม่ใช่พ่อ

2 ส.ค. 67

 

เปิดใจมือยิงหนังสติ๊ก ฉุนแม่ค้าส้มตำปากแจ๋ว ชอบด่าหมาประชดทุกครั้งที่ผ่าน โมโหมาบอกลูกว่าตนไม่ใช่พ่อแท้ๆ ขอต่างคนต่างอยู่เถอะป้า 

จากกรณี นางวิไลรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งเปิดเป็นร้านขายส้มตำ ร้องเรียนว่า ถูกนายกุ้ง อายุประมาณ 40 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน ก่อเหตุใช้หนังสติ๊กยิงลูกแก้วใส่ เฉียดบริเวณศีรษะ และไปถูกตู้แช่น้ำอัดลมบุบเสียหายนั้น 

ต่อมาวันที่ 2 ส.ค. 67 นายกุ้ง (นามสมมติ) อายุ 43 ปี ผู้ก่อเหตุยิงหนังสติ๊กลูกแก้วใส่บ้านของนางวิไลรัตน์ เปิดใจว่า​ เรื่องเริ่มต้นจากตนเคยมีปัญหาทะเลาะกับภรรยา ตอนนั้นก็พักอาศัยอยู่ที่ห้องแถวใกล้บ้านป้าวิไลรัตน์ จากนั้นป้าวิไลรัตน์ก็ได้พูดกับลูกสาวตนในลักษณะว่าตนไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของลูกสาว​ 

หลังจากนั้นป้าวิไลรัตน์ก็ชอบนำเรื่องของตนไปเล่าให้คนอื่นฟังในทางที่ไม่ดี เรื่องก็มาเข้าหูตน จนกระทั่งป้าวิไลรัตน์ไปพูดคุยกับเจ้าของหอพักคล้ายว่าเป่าหูจนเจ้าของหอพักไม่ให้ตนอยู่ที่หอพักเดิม ตนก็ไม่ว่าอะไร ให้ภรรยาและลูกสาวอยู่ได้ก็ยังดี 

จากนั้นเวลาที่ตนเดินผ่านไปผ่านมา ​เพื่อไปหาภรรยาและลูกสาว ป้าวิไลรัตน์ก็จะด่าหมาด้วยคำพูดหยาบคาย​ ซึ่งตนเดินผ่านเป็นประจำ และเข้าใจเลยว่ากำลังด่าประชดตน 

ก่อนที่จะมีปัญหาเรื่องนี้ ลูกชายของป้าวิไลรัตน์เวลาขี่รถจักรยานยนต์ผ่านห้องพักตนก็จะเบิ้ลเครื่องเสียงดัง ตนก็เคยก่อเหตุนำรถจักรยานยนต์ไปเบิ้ลเครื่องใส่ร้าน หรือหน้าบ้านป้าวิไลรัตน์ และเคยนำถังแก๊สไปจุดไฟหน้าร้านป้าวิไลรัตน์ ​เรื่องนี้ก็เป็นความจริงเรื่องถึงตำรวจ และก็ได้จบไปแล้ว 

นายกุ้ง กล่าวต่อว่า แต่เหตุการณ์ล่าสุดนี้ ก็ยอมรับว่าตนเป็นคนก่อเหตุจริงที่เอาหนังสติ๊กไปยิงหน้าบ้านป้าวิไลรัตน์ เพราะรู้สึกอัดอั้นเดินผ่านทีไรตะโกนด่าหมา เพื่อประชดตนทุกที ตนอยากขอให้ป้าวิไลรัตน์หยุดพูดเรื่องของตนในทางที่ไม่ดีให้คนอื่นฟัง​ และต้องกราบขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนี้จะไม่ก่อเหตุอีกและขอร้องว่าให้ลูกสาวและภรรยาได้อยู่หอพักอย่างเป็นสุข เพราะเขาทั้งสองคนไม่เกี่ยวข้อง และจะต้องทำงานแถวนี้ จึงจำเป็นต้องอยู่ที่หอพัก เพราะล่าสุดทราบว่าป้าไปพูดคุยกับเจ้าของหอพักจนเจ้าของหอพักจะให้พวกตนออกจากพื้นที่ ​ต่างคนต่างอยู่เถอะป้า

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส