“พีท ทองเจือ” ยันไม่เกี่ยวข้อง หลังถูกเอี่ยวกักตุนหน้ากากอนามัย

10 มี.ค. 63

“พีท ทองเจือ” ขอยืนยันความบริสุทธิ์ว่าตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับกระบวนการกักตุนหน้ากากอนามัยและไม่เคยรู้จักชายเจ้าของคลิปแต่อย่างใด

 

เรียกว่างานเข้าเต็มๆสำหรับนักแสดงรุ่นใหญ่ พีท ทองเจือ เนื่องจากมีเพจชื่อดังนำคลิปออกมาแฉว่า มีกระบวนการกักตุนหน้ากากอนามัยจำนวน 200 ล้านชิ้น ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีหนุ่มพีท ทองเจือ ร่วมเฟรมด้วย นอกจากนี้ยังมี นักแสดงรุ่นใหญ่ เล็ก ไอศูรย์ อีกหนึ่งคนด้วย ซึ่งหลังจากคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จนหนุ่มพีท อยู่เฉยๆไม่ได้ ทักหาเพจดังกล่าวด้วยตัวเอง เพื่อขอความเป็นธรรม นอกจากนี้ทางด้านภรรยาของหนุ่มพีท ก็ออกมาชี้แจงทางโซเชี่ยลอีกช่องทางว่า วันนั้นสามีแค่ไปถ่ายละคร ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ

หนุ่มพีท พาลูกสาวมาออกงานอีเว้นท์ ก็เลยถือโอกาสชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าว เจ้าตัวก็ขอยืนยันความบริสุทธิ์เลยว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับกระบวนการดังกล่าว และไม่เคยรู้จักชายเจ้าของคลิปแต่อย่างใด โดยหนุ่มพีท บอกว่าหากสังเกตในคลิปดูดีๆ จะเห็นได้ว่า เขาก็แค่คนหนึ่งที่เข้ามาในกองเพื่อถ่ายคลิปให้ติดตนเป็นแบล็คกราวด์เพื่อแอบอ้างในการทำธุรกิจของเขา เพราะเมื่อเขาพูดถึงเรื่องหน้ากากอนามัย ก็เดินไปคุยค่อนข้างไกลจากตน จากนี้ตนก็เลยตั้งใจว่าจะเข้าแจ้งความชายเจ้าของคลิปดังกล่าว ที่ทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง พร้อมฝากถึงด้วยว่า เอาตัวเองให้รอดละกัน !

มีเราอยู่ในคลิปนั้น?

“ผมไม่มีส่านเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ครับ จริง ๆ แล้วครอบครัวเราก็เป็นประชาชนชาวไทยที่ใช้ความเป็นอยู่อย่างคำนึงถึงความปลอดภัย ซึ่ง ๆ ทุกวันไม่มีองค์กรหรือหน่วยงานที่มาดูแลความปลอดภัยของไวรัสร้ายนี้อย่างจริงจัง ได้แต่พูดถึงและพยายาม ประเด็นคือมีคลิปนี้ออกมาพูดถึงเรื่องกักตุนหน้ากากเพื่อทำราคาเพิ่มหรือเพื่อส่งออก แล้วดันมีภาพผมเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ต้องขอบอกว่าประเด็นนี้เป็นประเด็นที่ไม่ค่อยโอเค เพราะวันที่ผมเกิดเหตุผมถ่ายละครอยู่ที่พัทยา แล้วพี่ผู้ชายคนนั้นเขาไปที่โลเคชั่น ผมไม่เคยเห็นและไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว เหมือนเขากำลังไลฟ์อยู่ เขาพยายามบอกเราว่ามีคนพัทยาดูอยู่เยอะ ให้ทักทายหน่อย ผมก็พูดไปว่าสวัสดีครับชาวพัทยา ถ้าสังเกตจะเห็นว่ากล้องเขาเดินมาหาผม แล้วเดินออกไปคุยกันตรงอื่น ซึ่งตามหลักความจริงแล้วถ้าผมเป็นคนที่อยู่ในกลุ่มหรือเป็นทีมเดียวกัน เขาจะต้อง คุยกับผมเรื่องนี้ตรงนั้นเลย เขาเดินไปคุยตรงอื่นที่ไม่มีผม แล้วผมก็เป็นแบ็กกราวน์ไป”

วันนั้นเองตัวเล็กได้คุยกันไหม?

“ ไม่ได้คุยเลยครับ วันนี้มีพี่ ๆ ผู้สื่อข่าวโทรมาถามเรื่องนี้กันเยอะ ขอบอกตรงนี้เลยว่าถ้าเป็นส่วนของพี่เล็กอยากจะให้พี่เล็กออกมาชี้แจงเองเพราะผม ไม่สามารถพูดแทนได้”

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่?

“ เกิดขึ้นอาทิตย์หนึ่งก่อนวันวาเลนไทน์ครับ”

คิดภาพนั้นมีเรายืนอยู่?

“ใช่ครับ เขามีการเตรียมการมานานแล้ว แล้วเรื่องราวก็เกิดขึ้นมาประมาณหนึ่งเดือน”

เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบอย่างไรบ้างเพราะคนมองว่าเรามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แล้ว?

“ ไม่มีอะไรสำหรับผมเนื้อข่าวและการที่โดนข่าวกระแทกเข้ามาแบบนี้

สำหรับผมแทนประสบการณ์ในวงการบันเทิงเรื่องนี้ไม่ได้กระทบแม้แต่นิดเดียว ความจริงก็คือความจริง ถ้าบุคคลนี้ ถูกตรวจสอบแล้วถูกดำเนินคดีและ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดถูกลากตัวออกมา รอดูแล้วกันว่าผมมีส่วนข้องหรือเปล่า เอาความจริงเป็นหลัก เราไม่ค่อยซีเรียสมาก กับพี่เล็กยังไม่ได้คุยเพราะวันนี้ยุ่งมาก ส่วนผู้ชายคนนั้นยืนยันว่าไม่รู้จักครับ โชคดี”

ต้องไปแจ้งความไหม?

“ อยากไปมาก แต่ยังไม่มีเวลา คาดว่าน่าจะเป็นพรุ่งนี้เช้า การเอาผิดเขาอาจจะทำอะไรไม่ได้ แต่ที่เราทำได้คือการปกป้องตัวเองให้พ้นจากมลทินจากสิ่งที่เขาพยายามยัดเยียดมาให้เรา ว่าเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดทั้งสิ้นแสดงความบริสุทธิ์ไปก่อน ถ้าในอนาคตถูกตรวจสอบอย่างน้อยเราก็ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจเบื้องต้นแล้ว”

แจ้งข้อหาอะไร?

“นำมาซึ่งความเสื่อมเสียชื่อเสียงของเรา”

ตอนนี้เราได้รับกระทบจากข่าว?

“ ไม่มีครับ มีแต่คำถาม เพราะอธิบายความจริงไปทุกฝ่ายก็รับได้ เป็นเรื่องปกติ ของโลกโซเชียลที่จะมีทั้งมุมที่สนับสนุนเราและ ไม่ฟังเหตุผลใดๆทั้งสิ้น ด่าอย่างเดียว ไม่เป็นไร รับได้ไม่มีปัญหา แล้วก็ไม่ได้รู้สึกเครียดเลยครับ”

เคสของเล็ก-ไอศูรย์ก็จะเป็นเหมือนเรา?

“ ผมตอบแทนไม่ได้ ขออนุญาตไม่มีเคราะห์ดีกว่าครับ”

วันนั้นเราเห็นไหมว่าหลังกล้องเป็นยังไง?

“เขาก็คุยกัน ก็รอเข้าฉาก เขาเดินไปอีกสักแป๊บหนึ่งแล้วผมก็ไปทำงานจากนั้นก็ไม่เห็นเขา”

รู้มั้ยว่าเขาสนิทกับคนในกองเรามากแค่ไหนถึงได้เข้าไปในกองขนาดนั้น?

“ เล่าให้ฟังสั้น ๆ ว่าพวกกองถ่ายละครเวลาไปถ่ายต่างจังหวัด ถ้าไม่ได้ถ่ายในป่าเขา หมายถึงว่าถ่ายตามลงที่อยู่ในเมืองก็จะมีคนตามออกมาดู ถ้าเป็นแฟนละครหรือคนที่รู้จักกับคนทำงานในกอง น่าจะเป็นทีมงานหรือดารา เหตุการณ์นี้ก็เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่มีคนรู้จักที่เป็นคนข้างนอกเข้ามาในกอง มาถ่ายไลฟ์โน่นนี่นั่นแล้วผมก็ติดไปในคลิปนั้นด้วย”

สดงว่าเขาเอาตัวเราเข้าไปช่วยในการ โปรโมทโดยที่เราไม่รู้เรื่อง?

“ ใช่ เป็นในลักษณะนั้นครับ เหมือน ประมาณว่ามีพีทพวกเราทั้งนั้น อย่าลืมนะใครมีหน้ากาก อยากขายให้ติดต่อมา แต่ณ ตอนนั้นตัวเขาไม่ได้มีหน้ากาก ช่วงนั้นโรคโควิด-19ยังไม่มาเท่าไหร่”

มีอะไรอยากจะเคลียร์กับเขาไหม?

“ไม่มีครับ บอกเขาว่าเอาตัวเองให้รอดแล้วกันครับ”

อยากจะบอกอะไรกับชาวเน็ตที่เค้าด่าเราข้ามคืนมาแล้วบ้าง?

“ ไม่เป็นไรครับ ถ้าข่าวไปทำให้กวนใจว่าผมมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยก็ต้องขอโทษด้วยครับ ตอนนี้ผมคลายความกระจ่างแล้วถ้า ฟังยังไม่ขึ้นก็รอให้กระบวนการยุติธรรมตัดสิน ว่าผมถูกหรือผิดหรือมีส่วนเกี่ยวข้องหรือเปล่าแล้วกันครับ ฝากไปถึงพี่น้องชาวไทยทุกคนแล้วกันครับว่าช่วงนี้มันจะมีเหตุการณ์อะไรต่างๆเกิดขึ้นอีกมากมาย ขอให้เรื่องที่คิดเห็นไม่ตรงกันเอาทิ้งไปก่อนเราจับมือกัน วิกฤตินี้ไปให้ได้ทุกคนดีกว่า เพราะเมื่อก่อนแผ่นดินไหว พายุเข้าหรือน้ำท่วมยังพอรับได้ แต่ปัจจุบันแค่ยืนเฉย ๆไวรัสก็เข้าจมูกคุณแล้ว ฉะนั้นอย่างอื่นไม่ต้องนึกถึงเอาตัวเองให้รอดเป็นยอดดีครับ “

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม