ไทยสกัดทันไหม? เรือขนขยะพิษต่างชาติมุ่งหน้าเทียบท่าแหลมฉบัง

13 ส.ค. 67

สื่อต่างชาติเผยข้อมูลลับ ขบวนการเรือขนขยะพิษ 816 ตันหลบเรดาร์ มุ่งหน้าแหลมฉบัง ล่าสุด รัฐบาลไทยทราบเรื่องแล้ว พร้อมเดินหน้าสกัดเรืออันตรายทำผิดกฎหมาย 

สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนัก ทั้ง บลูมเบิร์ก รีไซเคิลลิ้งทูเดย์ และสื่อที่ติดตามเรื่องสิ่งแวดล้อมเปิดประเด็นข้อมูลจาก เครือข่าย Basel Action Network (BAN) องค์กรพัฒนาเอกชนที่ไม่แสวงหากำไรด้านสิ่งแวดล้อมจากสหรัฐอเมริกา ออกมาเรียกร้องให้มีการดำเนินการยึดและส่งคืนเรือคอนเทนเนอร์ 2 ลํา ที่มีชื่อว่า

1.เมอร์สก์ แคมป์ตัน บรรทุกขยะพิษ 100 ตู้

2.เมอร์สก์ แคนดอร์ บรรทุกขยะพิษ 60 ตู้

เรือทั้งสองลำนี้ มีพฤติการณ์คล้ายคลึงกัน คือมีการปิดระบบแจ้งเตือนตำแหน่งจีพีเอส และไม่ได้เข้าเทียบท่าที่เมืองเคปทาวน์ แอฟริกาใต้ แต่กลับเดินเรือเส้นทางเดียวกัน ต้นทางจากแอลเบเนีย มุ่งหน้าประเทศไทย คาดว่า จะเดินทางถึงประเทศไทยวันที่ 20 สิงหาคมนี้  ซึ่งเรือทั้งสองลำบบรทุกฝุ่นแดง ของเสียอันตราย ที่เป็นพิษ ซึ่งผ่านกระบวนการใช้เตาหลอมเหล็ก โดยรวบรวมได้จากตัวกรองควบคุมมลพิษ และมีการประเมินกันว่าปริมาณขยะอันตรายที่อยู่บนเรือทั้งสองลำคืออยู่ที่ 816 เมตริกตัน

ทางเครือข่าย Basel Action Network เปิดเผยว่า ทางการแอลเบเนีย และไทยไม่ได้รับแจ้งเรื่องการส่งออกสินค้าที่อยู่บนเรือ ซึ่งหากว่ากันตามหลักแล้ว การขนส่งขยะอันตรายนี้ไม่ได้รับอนุมัติทั้งจากประเทศที่ส่งออกและประเทศที่นำเข้า ซึ่งการกระทำนี้ผิดต่ออนุสัญญาบาเซิล สนธิสัญญาระหว่างประเทศที่จํากัดการเคลื่อนย้ายขยะที่เป็นอันตรายระหว่างประเทศ

จากกรณืที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้หลายฝ่ายตื่นตัวทั้งภาครัฐ และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรหรือ NGO ด้านสิ่งแวดล้อม 3 แห่ง ประกอบด้วย เครือข่าย Basel Action Network (BAN) สหรัฐอเมริกา องค์กร Friends of the Earth ที่ประเทศแอฟริกาใต้ และ มูลนิธิบูรณะนิเวศหรือว่า EARTH ที่ประเทศไทย ออกมาเรียกร้องให้เร่งสกัดจับเรือขนสินค้า 2 ลำต้นทางจากแอลเบเนีย ขนขยะพิษจำนวน 816 ตัน  ปลายทางมุ่งสู่ประเทศไทย ซึ่งมีข้อมูลว่าตอนนี้เรือลำดังกล่าวอาจอยู่ในน่านน้ำสิงคโปร์ และมีความพยายามหลบเลี่ยงการจับกุมอยู่

ฝั่งไทยเอง ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ โดยระบุว่า ขณะนี้กำลังประสานงานและติดตามเพื่อป้องกันการลักลอบทำสิ่งผิดกฎหมาย ส่วนทางบริษัทเดินเรือปฏิเสธเรื่องดังกล่าว แต่พร้อมให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ในการติดตามเรือทั้งสองลำ

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส