จากปาก! ริว จิตสัมผัส เฉลยแล้ว รายการ "คนอวดผี" หายไปไหน เกิดอะไรขึ้นกันแน่? พร้อมเผยสาเหตุต้องยุติรายการ
เป็นอีกหนึ่งรายการในตำนาน สำหรับรายการ “คนอวดผี” ที่มีหลายคนสงสัยว่ารายการหายไปไหน? ล่าสุดหนึ่งในพิธีกรผู้ดำเนินรายการ อย่าง ริว ปาณรวัฐ หรือ ริว จิตสัมผัส เจ้าของวลีเด็ดระดับตำนาน #เรื่องนี้ริวจะไม่ยุ่ง ก็ได้ออกมาเคลียร์ประเด็นดังกล่าวแล้ว โดยเจ้าตัวได้เผยถึงจุดเปลี่ยนของรายการ “คนอวดผี”
“ทำไมคนอวดผีถึงเลิก เหตุการณ์มันเป็นอย่างนี้ครับ รายการคนอวดผี ยอมรับเลยว่าเป็นรายการผีที่ยาวนานที่สุด ประคองเรตติ้งเป็นอันดับ 1 แต่ตอนนั้นเนื่องด้วยภาวะโควิดที่เข้ามา เราไม่สามารถเอาแขกรับเชิญมาร่วมถ่ายทำรายการได้ เพราะว่าสถานการณ์โควิดในตอนนั้นมันเป็นสถานการณ์ที่ร้ายแรงมาก รายการคนอวดผีจึงไม่สามารถมีคนมานั่งดูในรายการได้ และเราไม่สามารถชวนชาวบ้านบินมาร่วมรายการได้อย่างสะดวกเหมือนตอนที่สถานการณ์ปกติ
รายการคนอวดผีจึงต้องหยุดลงรวมถึงรายการอื่นๆที่ต้องถ่ายทำกันตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ในช่วงนึงจะเห็นว่ารายการจะมีแต่ศิลปิน ดารา ที่ดูแลตัวเอง ทางบริษัท เวิร์คพ้อยท์ฯ เองก็มีมาตรการตรวจที่เข้มข้นมาก เพราะเป็นห่วงสุขภาพของพนักงานและพิธีกรทุกคน ถึงภาวะตอนนั้นเศรฐกิจจะเป็นอย่างไรก็ตาม เวิร์คพ้อยท์ฯ ไม่เคยปล่อยลอยแพพนักงาน ไม่มีการปลดพนักงาน มีแต่ความใส่ใจว่าพนักงานจะต้องไม่ติดโควิด ทำให้บางรายการจำเป็นต้องงดออกอากาศไป“
”ตอนนั้นได้มีการเปลี่ยนรูปแบบรายการเป็นคนอวดผีไลฟ์สด แต่พอเป็นช่องทางใหม่ บางท่านก็ไม่รู้ คนติดตามได้ไม่มากถึงพอ หรือมันอาจจะไม่สนุก ไม่เข้มข้นเหมือนตอนดูคนอวดผี เราก็เลยหยุดรายการไป เวลาผ่านไป 3 ปี โควิดเปลี่ยนพฤติกรรมผู้คนหมด พอยุคสมัยมันเปลี่ยนการจะกลับมาทำรายการคนอวดผีอีกครั้งมันเลยต้องคิดเยอะๆ ว่าจะทำยังไงเพื่อรับคนยุคใหม่ ที่คนทั่วไปนิยมดูออนไลน์มากกว่าดูทีวี ฉะนั้นรูปแบบรายการมันจึงไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ ก็เลยต้องพักไปก่อน“
คนทำงานเองก็คิดถึงรายการ ”คนอวดผี“ ไม่ได้นิ่งนอนใจ รับรู้ว่าทุกคนคิดถึง แต่ก็ต้องมองในหลายมิติ ทั้งในเรื่อของมาตรการ กสทช. สปอนเซอร์ พิธีกรทุกคนคิดถึงรายการคนอวดผี อยากทำรายการนี้กันหมดทุกคน แต่ทุกอย่างเราก็ต้องดูสปอนเซอร์ด้วย เพราะรายการที่เกี่ยวกับความเชื่อของสิ่งที่มองไม่เห็น ในช่องทางออนไลน์ทุกวันนี้ก็มีมาตรการที่เข้มข้นขึ้น บางอย่างพอไปแตะนิดเดียวก็โดนบล็อค การลงทุนจึงไม่คุ้ม ไม่เหมือนคนทั่วๆไปทำรายการที่เขาไม่ต้องแบกทุน ไม่ต้องแบกคน เขาจะทำยังไงก็ได้ ฟลุคติดครั้งเดียว คนดูเยอะ จบ ก็แล้วไป โดนบล็อคก็เปลี่ยนใหม่
แต่บริษัทที่เป็นมหาชน มันมีเรื่องของผลกำไร เรื่องหุ้น มันเป็นเรื่องใหญ่มากกับการทำล้มๆเลิกๆมันไม่ดี ผมขออภัยทุกท่านและขอบคุณที่ทุกคนรักรายการคนอวดผี รายการเลขอวดกรรม มีแฟนๆถามเข้ามาเยอะเลย แต่เราก็ทำไม่ได้ มีช่วงนึงถ้าทุกคนจะจำได้ เราโดน กสทช. ห้ามพูดคำว่าผี รายการคนอวดผี แต่ห้ามพูดคำว่าผี เราเลยใช้คำว่าแอ๊ะแอ๊ กลายที่ขบขันของทุกคน นี่คือสิ่งที่เราเจอมาโดยตลอด ทำให้เราไม่สามารถจะทำรายการได้เหมือนเดิม เพราะโลกมันเปลี่ยน มีการปกป้องในการเผยแพร่ผ่านสื่อและโซเชียล
เราทุกคนรวมถึงผู้ใหญ่ไม่ได้นิ่งนอนใจ พวกเราไม่ได้ไม่รับรู้ว่าทุกคนอยากให้รายการกลับมา ทุกคนคิดถึงรายการนี้ ในเมื่อทุกวันนี้มาตรการโซเชียลยังไม่นิ่ง เปลี่ยนแปลงตลอด การที่ลงทุนแล้วโดนบล็อคเป็นเรื่องใหญ่มาก มันไม่เหมือนคนทั่วไปที่เขาทำคอนเทนต์ ไม่ต้องแบกหุ้น ไม่ต้องแบกภาระคน โดนปิดไปเขาก็ไม่ซีเรียส ทุกคนเข้าใจแล้วเนอะ”