เปิดวีรกรรมป้าข้างบ้านป่วนคลินิกทำฟัน จนหมอหนุ่มสุดทน!!

หมอฟันสุดทน! ป้าข้างบ้านป่วนคลินิกทำฟันไม่เลิก ระรานนานนับปี ทั้งแจ้งความ ทั้งร้องเทศบาล แต่เรื่องยังเงียบ

วันนี้ (26 ส.ค.67) ทันตแพทย์หนุ่ม รายหนึ่ง เดินทางเข้าร้องเพจสายไหมต้องรอด ขอให้ช่วยเหลือหลังถูกป้าข้างบ้าน หรือข้างคลินิกทำฟัน ป่วนไม่เลิกนานนับปี แจ้งความแล้ว ร้องเรียนเรียนเทศบาลแล้ว แต่เรื่องยังเงียบ เหตุเกิดที่คลินิกทำฟัน ในพื้นที่อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา

หมอฟันหนุ่ม ผู้เสียหาย เล่าถึงวีรกรรมป่วนจากป้าข้างบ้าน เช่น นำก้อนหิน เศษขยะ ไปยัดไว้ที่ล้อรถยนต์ที่จอดหน้าคลินิก, นำรถจักรยานยนต์พุ่งไปชนรถที่จอดหน้าคลินิก, เคลื่อนย้ายเก้าอี้ม้านั่ง กระถางต้นไม้ ถังขยะ มากองไว้หน้าประตูคลินิกเพื่อกีดขวางไม่ให้เข้า-ออก, เปิดเพลงเสียงดังลั่นช่วงเวลาใกล้เที่ยงคืน, ฉีดน้ำใส่คนไข้ที่จอดรถจักรยานยนต์ที่หน้าคลินิก, เขียนข้อความว่า "ตาย" ที่รถยนต์ที่จอดหน้าคลินิก, เตะเศษขยะใส่เด็กที่นั่งอยู่หน้าคลินิก จนทำให้เด็กร้องไห้ตกใจหวาดกลัว, เอารองเท้าของคนไข้ที่มาทำฟันไปตักเศษดิน แล้วนำไปโยนทิ้งบนถนน โดยให้การยอมรับต่อหน้าสายตรวจว่าทำเพราะคนไข้คนนั้นได้เดินผ่านหน้าแล้วทำปากเหมือนพูดต่อว่า รับรู้ได้จากการอ่านปาก และกระแสจิตตะโกนด่าทอ ผู้จัดการคลินิกต่อหน้าเจ้าหน้าที่สายตรวจ ซึ่งนี่เป็นตัวอย่างแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น

หมอฟันหนุ่ม  ยังบอกว่า ได้เช่าอาคารพาณิชย์ มาเปิดคลินิกทำฟันตั้งแต่ปี 2561 ที่ผ่านมา ทางคลินิกไม่เคยมีปัญหา หรือมีความบาดหมางใด ๆ กับป้าข้างบ้านเลย ซึ่งเมื่อก่อนป้าเช่าอาคารดังกล่าวพักอาศัยอยู่กับสามี แต่ต่อมาเสียชีวิตไป ทุกวันนี้จึงพักอาศัยอยู่คนเดียว จนกระทั่งเมื่อปี 2566 ป้าก็เริ่มมีพฤติกรรมป่วน ทุกครั้งที่ป้าก่อเหตุก็แจ้งความตำรวจ สภ.ด่านขุนทด เมื่อตำรวจสายตรวจให้มาระงับเหตุ ป้าก็เดินหนีเข้าบ้าน ตำรวจมาจึงทำอะไรไม่ได้

พอไปแจ้งเทศบาล ก็ได้รับคำตอบมาว่า ไม่สามารถทำอะไรได้ ต้องไปแจ้งตำรวจ ไม่มีใครช่วยเหลืออะไรได้เลย จึงตัดสินใจเดินทางมากรุงเทพมหานคร เพื่อขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด เพราะหมดหนทางที่จะได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วจริง ๆ

ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ระบุว่าจะต้องมีการพิสูจน์ทราบว่าป้าผู้ก่อเหตุนั้นแกล้งบ้า หรือบ้าจริง ป้ามีการปาขยะใส่คนที่เดินผ่านและอ้างว่าเขาด่าผ่านกระแสจิตนั้น ก็จะต้องพาป้าไปรักษาโดยการพาไปหาแพทย์ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะมีการตรวจสอบว่าผู้ก่อเหตุ มีญาติหรือไม่ถ้าหากพบว่ามีก็จะประสานให้พาตัวไปรักษา แต่ถ้าพิสูจน์แล้วว่าป้านั้นแกล้ง จนก่อเหตุต่างๆขึ้นมานั้นก็จะมีการประสานไปยังสภ. ด่านขุนทด เพื่อให้บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพราะ ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ประชาชนก็จะได้รับผลกระทบรวมถึงเป็นการละเมิดสิทธิของผู้อื่น หลังจากนี้ก็จะประสานไปยังปลัดและนายอำเภอในเพื่อให้เข้าไปช่วยเหลือผู้เสียหาย