ชาวบ้าน 3 หมู่บ้านลุกฮือไล่ครู จี้เอาผอ.รร.กลับมา บอกนักเรียน บ่ได้หนังสือ

6 ก.ย. 67

 

ชาวบ้าน 3 หมู่บ้านลุกฮือไล่ครู จี้เอาผอ.รร.กลับมา ห่วงอนายคตลูกหลาน บอกนักเรียน บ่ได้หนังสือ ขณะที่ ผอ.สพป.ขก.เขต2 สั่งสอบปล่อยให้เด็กดูคลิปโป๊ 

วันที่ 6 ก.ย. 67 ที่โรงเรียนบ้านท่านางเลื่อนท่าข่อย ต.ชนบท อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ทำการเรียนการสอน ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลถึงชั้น ป.6 มีนักเรียน 120 คน มีผู้ใหญ่บ้านบ้านท่านางเลื่อน หมู่ 6 บ้านท่าข่อย หมู่ 3 และหมู่5 พร้อมชาวบ้านประมาณ 200 คน รวมตัวกันที่โรงอาหารของโรงเรียน เพื่อพบกับ ผอ.สพป.ขอนแก่นเขต 2 ที่มาประชุมหารือร่วมกับคณะกรรมการสถานศึกษา และครูผู้ปกครองหาข้อยุติ 

กรณีย้ายนางจันธิวา สีพันดอน หรือ ผอ.ไข่ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่านางเลื่อนท่าข่อย ไปช่วยราชการที่สำนักเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่นเขต 2 เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา สร้างความไม่พอใจให้พ่อแม่ผู้ปกครองของนักเรียนที่เรียนหนังสือในโรงเรียนดังกล่าว จำนวน 120 คน เรียกร้องให้ย้าย ผอ.กลับมาอยู่ที่โรงเรียนแห่งเดิมไม่เช่นนั้นจะย้ายลูกหลานออกจากโรงเรียนไปเรียนที่อื่นทั้งหมด 

ชาวบ้าน 3 หมู่บ้านลุกฮือไล่ครู จี้เอาผอ.รร.กลับมา บอกนักเรียน บ่ได้หนังสือ

โดยมีครูในโรงเรียนจำนวน 9 คนมาร่วมรับฟัง และหารือร่วมกับคณะฯด้วย โดยในช่วงการพูดคุยกันนั้น ชาวบ้านได้มีเสียงแทรกอยู่ตลอดเวลาว่าลูกหลานไม่ได้เรียนหนังสือเหมือนเดิม ซึ่งคุณครูได้อธิบายเหตุผลที่ไม่ต้องการให้ ผอ.รร.ย้ายกลับมาบริหารที่โรงเรียน เนื่องจากผอ.เคร่งครัดกับงานมากเกินไป ทำให้ครูในโรงเรียนไม่มีเวลาทำเรื่องส่วนตัว ชาวบ้านมองว่าเรื่องการเคร่งครัดงานของผอ.รร.นั้นก็เป็นปกติของทุกโรงเรียน อยากให้คุณครูย้ายตัวเองออกไปสอนที่โรงเรียนอื่น และให้คุณครูชุดใหม่เข้ามาสอนแทน เนื่องจากพอเกิดปัญหาขัดแย้งกันขึ้นในโรงเรียน ทำให้นักเรียนไม่ได้เรียนหนังสือเต็มที่ และสถานที่ในโรงเรียนปล่อยปละละเลยจนเกิดความเป็นห่วงของชาวบ้านพ่อแม่ผู้ปกครองทั้ง 3 หมู่บ้านที่ให้ลูกหลานเข้ามาเรีนหนังสือที่โรงเรียนแห่งนี้ 

นางธนัญญาตี สองเมือง อายุ 56 ปี ยายของหลานชายที่เคยเรียนที่โรงเรียนดังกล่าวจนจบชั้น ป.6 เมื่อปี 66 เปิดเผยว่า เชื่อว่าปัญหาที่ยืดเยื้อ เพราะมีครูในโรงเรียนร้องเรียนด้วยการคลิปที่ถ่ายจากหน้าเสาธง ขณะ ผอ.ทำโทษหลานชายไปยังเขตพื้นที่การศึกษาขอนแก่นเขต 2 ว่า ผอ.มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เพราะตีนักเรียนทำให้เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่นเขต 2 สั่งตรวจสอบ และได้ลงโทษทำผิดวินัยไม่ร้ายแรงย้าย ผอ.ไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตฯ เป็นเวลา 1 เดือน คือเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา 

ชาวบ้าน 3 หมู่บ้านลุกฮือไล่ครู จี้เอาผอ.รร.กลับมา บอกนักเรียน บ่ได้หนังสือ

สาเหตุที่ ผอ.ทำโทษหลานชายนั้น เนื่องจากหลานชายติดบุหรี่ไฟฟ้า สูบบุหรี่และสูบกัญชา ยายสอนตักเตือนหลานไม่ได้ จึงโทรศัพท์ประสาน ผอ.ให้ช่วยว่ากล่าวตักเตือนหลานชาย หรือทำโทษหลานชายด้วย และในช่วงเวลาดังกล่าว ผอ.ก็แจ้งมาว่าจะทำโทษนักเรียนไม่ได้ ทุกอย่างต้องมีการตรวจสอบ ผอ.จะช่วยสอนและเมื่อหลานมาที่โรงเรียน ผอ.จะดูแลให้ กระทั่งหลานชายได้รับมอบหมายให้ทำเวรในโรงเรียน แต่หลานชายไม่ทำ ผอ.จึงทำโทษด้วยการตีที่หน้าเสาธง ครูในโรงเรียนจึงถ่ายคลิปรายงานไปยังสำนักงานเขตฯ โดยสำนักงานเขตฯรับเรื่องร้องเรียนก็ลงพื้นที่มาตรวจสอบข้อเท็จจริง ก็ยืนยันว่าไม่ติดใจไม่เอาเรื่อง ผอ. เพราะต้องการให้สั่งสอนหลานชายจริง ส่วนหลานชายก็ไม่ติดใจผอ.เช่นกัน ซึ่งเรื่องก็จบลงด้วยการที่ผอ.มีความผิดวินัยไม่ร้ายแรงถูกย้ายไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตฯเป็นเวลา 1 เดือน 

ชาวบ้าน 3 หมู่บ้านลุกฮือไล่ครู จี้เอาผอ.รร.กลับมา บอกนักเรียน บ่ได้หนังสือ

“เมื่อผอ.ถูกย้าย ผู้ปกครองนักเรียนต่างช่วยกันสังเกตพฤติกรรมครูในโรงเรียนพบว่าไม่ใส่ใจนักเรียน ปล่อยให้คนนอกเข้ามาในโรงเรียน ปล่อยให้วัวควายเข้าในโรงเรียน ใช้สนามกีฬาไม่ได้ เพราะขี้วัวขี้ควายเต็มสนาม ทั้งยังละเลยและดูแคลนนักเรียนว่านักเรียน ป.1แล ะป.2 ดูคลิปวิดีโอ18+ ขณะนั่งเรียนในห้องเรียน และครูรายดังกล่าวได้ถ่ายรูปนักเรียนชายหญิงรวม 10 คน ส่งให้ผู้ปกครองทุกคน พร้อมทั้งบอกว่าให้ผู้ปกครองตักเตือนนักเรียนด้วย ก็อยากจะบอกว่าถ้าครูใส่ใจดูแลนักเรียนคงไม่สามารถเปิดคลิป 18+ดูเองได้ และเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นมันแสดงออกถึงครูละเลยไม่ใส่ใจดูแล ครูควรมีจิตสำนึกมากกว่านี้ เพราะถ้าอยู่ที่บ้านพ่อแม่จะดูลูกหลานตัวเอง เมื่อลูกหลานมาโรงเรียนก็ให้ครูช่วยดูแล และถ้าดูแลไม่ได้ก็ควรจะย้ายตัวเองออกไป” 

ขณะที่นางบัวพิศ กลางนอก อายุ 49 ปี อกล่าวว่าเมื่อก่อนโรงเรียนแห่งนี้มีนักเรียนประมาณ 50 คน ลูกตนก็เรียนที่นี่ แต่ครูไม่เคยมีปัญหากับชุมชน และไม่มีความขัดแย้งกัน เมื่อผอ.ไข่ย้ายมาดำรงตำแหน่งที่โรงเรียนแห่งนี้มีการพัฒนาโรงเรียน และจริงจังกับการเรียนการสอนนักเรียน เข้ากับชุมชนยามมีกิจกรรมในชุมชนจะพานักเรียนเข้าร่วม และช่วยเหลือชุมชนมาโดยตลอด ไม่เคยละเลยต่อหน้าที่ ถือว่าเป็นผอ. และเป็นครูที่มีความซื่อสัตย์ต่อจรรยาบรรณเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นการพัฒนาและมีความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นมากปัจจุบัน จึงให้หลานชายมาเรียนในระดับอนุบาลที่โรงเรียนแห่งนี้ แต่เมื่อฟังปัญหาความขัดแย้งของคณะครูกับ ผอ.แล้วฟังไม่ขึ้นที่บอกว่า ผอ.เคร่งครัดไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ และถ้า ผอ.กลับมาก็เกิดความไม่สบายใจไม่ใช่เหตุผลที่ต้องเกิดความขัดแย้ง เพราะทุกคนมีเรื่องส่วนตัว มีครอบครัวแต่ควรมีจิตสำนึกมีความรับผิดชอบ ถ้าอยู่ร่วมกับ ผอ.และชุมชนไม่ได้ก็ควรย้ายตัวเองออกไป 

ชาวบ้าน 3 หมู่บ้านลุกฮือไล่ครู จี้เอาผอ.รร.กลับมา บอกนักเรียน บ่ได้หนังสือ

การประชุมหารือหาข้อยุติความขัดแข้ง ระหว่างครูในโรงเรียนกับ ผอ.กว่า 2 ชั่วโมงที่มีผู้ใหญ่บ้านทั้ง 3 หมู่บ้าน ในฐานะคณะกรรมการสถานศึกษาและชาวบ้านก็ไม่มีคำตอบที่เป็นข้อยุติ ผอ.เขตฯจึ่งสั่งการให้นายสุรวิทย์ เย็นเหลือ รักษาการผอ.โรงเรียนบ้านท่านางเลื่อนท่าข่อย ทำหนังสือถึง ผอ.ไข่ และผู้ใหญ่บ้านทั้ง 3 หมู่บ้านในฐานะคณะกรรมการสถานศึกษา และคณะครูที่สอนในโรงเรียนทั้ง 9 คนและตัวแทนประชาชนเข้าร่วมประชุมพูดคุยกันทุกฝ่าย เพื่อหาข้อสรุปที่เข้าใจกันทุกฝ่ายในวันที่ 10 ก.ย. 67 รวมทั้งให้รักษาการผอ.โรงเรียนทำการตรวจสอบเรื่องที่นักเรียนดูหนังโป๊ในห้องเรียน ขณะทำการเรียนการสอนในระดับชั้น ป.1-2 ในช่วงบ่ายวันที่22 ส.ค. 67 ว่ามีจริงหรือไม่ และขณะนั้นใครดูแลเรื่องการเรียนการสอน เพื่อหาข้อสรุปว่าครูรายดังกล่าวละเลยหรือไม่ จะได้พิจารณากันตามขั้นตอนต่อไป 

นายอภิชัย เสนาโยธี ผอ.สพป.ขอนแก่นเขต 2 ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมหารือร่วมกัน และฟังความคิดเห็นจากผู้ปกครองและคณะครูว่า สพป.ขก.เขต 2 ได้รับข้อมูลคลิปภาพครูผู้หญิงท่านหนึ่งลงโทษนักเรียนด้วยไม้เรียวตี ตั้งแต่ช่วงเดือน เม.ย. 67ภายหลังทราบเรื่องจึงได้ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงขึ้น กระทั่งทราบว่าเกิดขึ้นที่โรงเรียนบ้านท่านางเลื่อนท่าข่อยแห่งนี้ 

ชาวบ้าน 3 หมู่บ้านลุกฮือไล่ครู จี้เอาผอ.รร.กลับมา บอกนักเรียน บ่ได้หนังสือ

โดยผู้ที่ตีนักเรียนด้วยไม้เรียวนั้นคือ ผอ.รร.จึงได้ดำเนินการทำการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยไม่ร้ายแรงขึ้นมา โดยผลการสอบสวนของทางคณะกรรมการได้สรุปผลให้ลงโทษ ผอ.รร.และลงโทษไม่ร้ายแรงไปแล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างที่ ผอ.รร.ที่ถูกกล่าวหาได้อุทธรณ์เรื่องตามสิทธิ์ ถือว่าทางสำนักงานเขตฯได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในส่วนของคดีความดังกล่าวแต่ระหว่างสอบสวนนั้น เพื่อให้เกิดประโยชน์ในหลายๆ ส่วนจึงได้ให้ทาง ผอ.รร.ไปช่วยงานตามโครงการพัฒนาหนึ่งโรงเรียนหนึ่งทักษะอาชีพ เมื่อสิ้นสุดโครงการจึงได้มีหนังสือแจ้งให้ทาง ผอ.รร.กลับมาปฏิบัติหน้าที่ ผอ.รร.บ้านท่านางเลื่อนท่าข่อย หลังจากนั้นทางสำนักงานเขตฯก็มีโครงการการพัฒนาโรงเรียนในศตวรรษที่ 21 ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือกิจกรรมแข่งขันศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับเขตพื้นที่ในวันที่ 12-13 ก.ย. 67 จึงได้เชิญ ผอ.รร.กลับไปช่วยงานที่สพป.ขก.เขต 2 เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 67ที่ผ่านมา 

“ทั้งนี้เรื่องความขัดแย้งระหว่างบุคลากรในโรงเรียนและตัว ผอ.รร.นั้นได้รับทราบข้อมูลจึงได้ลงพื้นที่มายังโรงเรียน เพื่อมารับทราบปัญหานำไปแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นหลังจากที่รับทราบข้อมูลแล้ ววันนี้จึงได้ข้อยุติว่าในวันที่10 ก.ย. 67 ทางคณะกรรมการสถานศึกษาจะเปิดประชุม โดยเชิญผอ.รร.และครูทุกคนของโรงเรียนมาพูดคุย เพื่อหาข้อตกลงและข้อยุติว่าจะแก้ไขปัญหาให้ยั่งยืนได้อย่างไร โดยมุ่งหวังให้เกิดประโยชน์ต่อตัวผู้เรียนก็คือนักเรียนในโรงเรียน เมื่อได้ข้อสรุปอย่างไรทางสำนักงานเขตฯก็จะดำเนินการให้ทันที” 

ชาวบ้าน 3 หมู่บ้านลุกฮือไล่ครู จี้เอาผอ.รร.กลับมา บอกนักเรียน บ่ได้หนังสือ

ผอ.สพป.ขอนแก่นเขต 2 กล่าวอีกว่า วันนี้ครูที่มาให้ข้อมูลกับทางเขตทั้ง 9 คน มี 8 คน บอกว่า ไม่สบายใจหากผอ.รร.ย้ายกลับมา และมี 1 คนที่สบายใจกับการบริหารจัดการของผอ.รร. โดยครูที่ไม่สบาย 8 คนนั้นระบุว่า ผอ.รร.เข้มงวดมากเกินไป แต่ในส่วนข้อมูลเชิงลึกนั้น ตนเองยังไม่ทราบ ซึ่งทุกคนจะได้มีการพูดคุยเพื่อสรุปในวันอังคาร และตนก็ต้องรับฟังเสียงของทั้ง 2 ส่วน โดยจะหาวิธีแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ได้ 

และในเบื้องต้นผู้ปกครองต้องการให้ผอ.รร.กลับมาบริหารโรงเรียนตามเดิม แต่ทางคุณครูของโรงเรียน และเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของผอ.รร.และทำงานร่วมกันมีความรู้สึกไม่สบายใจ จึงได้มาแก้ไขปัญหาให้ หากการพูดคุยผ่านไปได้ด้วยดีทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันได้คุณครูรับ ผอ.ได้ และหากมีสิ่งใดที่ควรปรับก็ยินดีที่จะปรับก็จะเป็นการค่อยๆ ปรับความเข้าใจกันไป แต่หากมีความจำเป็นว่าไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ทางสำนักงานเขตฯเองก็จะมีการแก้ปัญหาให้คืออาจจะไปช่วยราชการโรงเรียนข้างเคียง แต่ทั้งนี้โรงเรียนก็จะต้องไม่ขาดบุคลากรด้วยและไม่ผิดระเบียบ ส่วนข้อมูลว่านักเรียนดูหนังโป๊ในห้องเรียนทราบเรื่องแล้ว สั่งการให้ทางรักษาการผอ.รร.ทำการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว หากเป็นเรื่องจริงก็จะเป็นในเรื่องของความบกพร่องในวิชาชีพครูและนักเรียนและเยาวชนด้วย

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส